“ตั๊ก นภัสกร” …ก่อนเป็นดารา ผมเกิดมาเป็นเชฟ

“ถ้าเรามีใจรักในการทำอาหาร ไม่มีอะไรผิด คิดแล้วทำให้อร่อยที่สุดในโลก” คือคติประจำใจทุกครั้งในการทำอาหารของเชฟหนุ่มมาดนิ่งที่แฝงไปด้วยอารมณ์ขันที่หลายคนอาจคุ้นหน้าค่าตาผ่านบทบาทพระเอกที่โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงมาตลอดหลายปีที่ผ่านมาอย่าง “ตั๊ก-นภัสกร มิตรเอม” ไม่แพ้กับบทบาทสามีสุดที่รักของ “ป๊อก-ปิยธิดา มิตรเอม” นางเอกเจ้าบทบาทที่ทั้งคู่เพิ่งจะจูงมือเข้าประตูวิวาห์กันไปอย่างชื่นมื่นเมื่อปลายปีที่ผ่านมา แต่น้อยคนนักที่จะรู้จักเขาในบทบาทของเชฟและรู้ว่าเขาชื่นชอบการปรุงและสร้างสรรค์เมนูทั้งไทยและนานาชาติเป็นชีวิตจิตใจ ไม่ใช่แค่ทำเล่นๆ ขำๆ เท่านั้น เพราะเขามีดีกรีทางการศึกษาและประสบการณ์ในระดับเป็นหนึ่งในทีมเชฟของโรงแรมห้าดาวหลายแห่งก่อนเข้าสู่วงการบันเทิง

ความทรงจำวัยเด็ก…..แรงบันดาลใจสู่การเป็นเชฟของตั๊ก นภัสกร

หนุ่มมาดนิ่งคนนี้รักและสนุกกับการปรุงและชิมอาหารมาตั้งแต่เขาจำความได้ เพราะติดใจในกลิ่นหอมและรสชาติอาหารฝีมือคุณแม่และคุณป้า ทั้งอาหารจานผัด จานทอด และแกงต่างๆ จนขออาสาเป็นลูกมือเข้าครัวกับทั้งสองท่านอยู่เป็นประจำ “ผมสนใจและประทับใจในการทำอาหารมาตั้งแต่เด็กๆ โดยความสำเร็จที่ผมจำได้ดีจนถึงทุกวันนี้คือ ผมสามารถทอดไข่เจียวกินเองได้ตอนผมอายุ 5 ขวบ ผมจำได้ว่าหน้าผมอยู่ใกล้กับเตามาก ตื่นเต้นและรู้สึกสนุกกับประสบการณ์ทำอาหารครั้งแรก ซึ่งความสำเร็จในครั้งนั้นก็ทำให้ผมตกหลุมรักการทำอาหาร และตั้งแต่นั้นมาผมก็จะมีความสุขทุกครั้งที่ได้เข้าครัวและลงมือทำอาหารครับ” เชฟตั๊กกล่าวด้วยรอยยิ้มปริ่มสุข

ฝันที่เป็นจริงสู่การทำอาหารแบบมืออาชีพ

จากความสุขที่ได้อยู่หน้าเตาช่วยแม่ทำอาหารอร่อยๆ ทำให้ตั๊กก็ไม่เคยหยุดเรียนรู้และฝึกปรือในการทำอาหารจนทำให้เขาเลือกตามฝันของตัวเองเพื่อเรียนต่อในด้านนี้โดยเฉพาะ ซึ่งความสำเร็จของเขานั้นการันตีด้วยประกาศนียบัตรด้านการปรุงอาหารจากสถาบัน ITIMS (International Hotel & Tourism Industry Management School) และปริญญาตรีสาขาบริหารอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวนานาชาติ วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล ก่อนที่จะเข้าสู่วงการบันเทิงจนเป็นที่รู้จักในวันนี้

โดยช่วงที่เขามีโอกาสเข้ามาทำงานในโรงแรม ได้เลือกที่จะทำงานในห้องครัวตามความฝัน  เขาพัฒนาฝีมือและเก็บเกี่ยวประสบการณ์เรื่อยมาในฐานะหนึ่งในทีมเชฟในโรงแรมห้าดาวหลากหลายที่ช่วยงานในทุกๆ อย่าง จนเชฟรุ่นพี่จดตำราอาหารให้เขาเป็นของขวัญเพื่อให้ไปฝึกทำด้วยหลากหลายเมนู ทั้งยุโรป จีน ญี่ปุ่น ซึ่งทำให้เขาได้ฝึกฝนและพัฒนาฝีมือตัวเองเรื่อยมา เรียกได้ว่าความสุขของเชฟตั๊กคือการได้อยู่หน้าเตา ได้ลงมือทำและสัมผัสกับกลิ่นอาหารนี่แหละ

ภูมิใจที่สุดในชีวิตที่ได้ทำอาหารให้เชื้อพระวงศ์และคนมีชื่อเสียงในเมืองไทย

ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมานั้น เชฟตั๊กได้มีโอกาสสร้างสรรค์เมนูอาหารอร่อย เติมเต็มรอยยิ้มและความสุขอยู่เบื้องหลังครัวให้กับผู้คนมากมาย แต่มื้อที่เขาประทับใจและภาคภูมิใจมากที่สุดที่เขาไม่มีวันลืมในชีวิตการเป็นเชฟของเขาคือ การได้มีโอกาสปรุงอาหารยุโรปถวายเชื้อพระวงศ์ชั้นสูง และดารา-นักร้องชั้นนำของเมืองไทยในช่วงที่เขาทำงานเป็นหนึ่งในทีมเชฟอยู่ในโรงแรมชื่อดังของเมืองไทย

เชฟตั๊กเปรยว่าสำหรับเขาแล้ว ความท้าทายของการเป็นเชฟคือการเรียนรู้ที่ไม่รู้จบ เช่นเดียวกับอาชีพอื่นๆ ทั่วไป ไม่ต่างจากอาชีพนักแสดงที่เขามีโอกาสได้เป็น
ความท้าทายของอาชีพนักแสดง คือ การได้รับบทบาทใหม่ๆ อยู่เสมอ เป็นพระเอกบ้าง เป็นผู้ร้ายบ้าง การเป็นเชฟก็เหมือนกันตรงที่เราต้องรู้จักค้นหา เรียนรู้และสร้างสรรค์เมนูอร่อยจากวัตถุดิบที่เรามี ซึ่งวัตถุดิบบนโลกนี้ยังมีอีกเยอะแยะมากมายที่เรายังไม่รู้จัก และหากเรารู้จักมันมากขึ้น สนุกและกล้าที่จะลงมือทำมากขึ้น เขารับรองว่าเลยว่าทุกคนจะมีความสุขไปกับการปรุงและการชิมอาหารแน่นอน

หนทางพลิกผันบนเส้นทางเชฟสู่นักแสดงมืออาชีพ…แต่ก็ไม่เคยหยุดที่จะสร้างสรรค์อาหาร

แม้ว่าจะเข้าสู่วงการบันเทิงในบทบาทของนักแสดง หรือพิธีกรก็ตาม แต่หนุ่มตั๊กก็ไม่เคยละทิ้งบทบาทของการเป็นเชฟเลยสักครั้ง เพราะเขาจะเข้าไปมีส่วนร่วมช่วยคิดค้นเมนูและสูตรอาหารให้กับร้านอาหารของคนรอบตัวอยู่เสมอ ตั้งแต่รับบทเป็นผู้จัดการร้านอาหารให้กับครูเล็กภัทราวดี ร่วมหุ้นเปิดร้านอาหารกับนักแสดงและผู้จัดละครหลายท่านที่แม้ภายหลังจะไม่มีเวลาในการบริหารจัดการจนต้องถอนตัวไป แต่ก็ไม่เคยคิดที่จะวางมือจากการเข้าครัวเลยแม้แต่น้อย เขายังคงฝึกฝนและพัฒนาฝีมือด้านการปรุงอาหารต่อเนื่องไม่เคยหยุด

จนไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เองที่เขาได้มีโอกาสทำรายการที่ลงตัวและมีความสุขทุกครั้งที่ได้ถ่ายทำกับการรับบทเป็นเชฟและผู้ดำเนินรายการประจำรายการ “ถึงพริกถึงขิง” ซึ่งรายการนี้ช่วยเติมเต็มความสุขและสานฝันของเขาให้เป็นจริง โดยเขาได้มีโอกาสร่วมออกเดินทางไปค้นหาวัตถุดิบทั่วไทย ได้รู้จักวัตถุดิบและรสชาติแปลกใหม่ที่เขาไม่เคยรู้มาลงมือทำเป็นอาหารแสนอร่อยเพื่อมอบความสุขแก่ผู้ชมรายการและตัวเขาเอง

นอกจากบทบาทในการทำงานแล้ว เขาก็ยังทำหน้าที่เป็นสามีที่น่ารักของ “ป๊อก-ปิยธิดา” ด้วยการหมั่นเข้าครัวทำอาหารให้ศรีภรรยาได้รับประทานด้วยกันอีกด้วย ซึ่งในบางครั้งเองคุณป๊อกก็ได้มีส่วนร่วมในการทำอาหารด้วย คุณป๊อกเป็นผู้หญิงจึงไม่ชอบทำอาหารประเภททอดหรือผัดที่ต้องใช้ไฟแรงๆ เพราะกลัวน้ำมันกระเด็น คุณตั๊กก็จะขอให้เธอมาช่วยหั่นผัก จัดแต่งจานให้แทน ซึ่งทั้งสองต่างคิดตรงกันว่าการได้ช่วยกันทำอาหารคือกิจกรรมที่ทำให้
พวกเขามีโอกาสได้พูดคุยและผูกพันกันมากขึ้น เพียงแค่นี้ก็มีความสุขแล้ว

หนุ่มตั๊ก นภัสกร จะสานฝันเกี่ยวกับความรักในการทำอาหารอีกครั้งด้วยการกลับมาสวมเสื้อเชฟ รอติดตามและให้กำลังใจในบทบาทที่เขารักได้ทั่วประเทศเร็วๆ นี้

ที่มา:  ประชาสัมพันธ์
บันทึกภาพ:  ประชาสัมพันธ์
นำเสนอโดย www.starupdate.com หากนำข่าวไปใช้กรุณาอ้างอิงถึง www.starupdate.com ด้วย
ข่าวนี้อยู่ในหมวด Star Update และ Tag: , , , , ติดตาม comment ของข่าวนี้ผ่านทาง RSS feed
Trackbacks are closed, but you can post a comment.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“ป๊อก ปิยธิดา” เล่นใหญ่เกินเบอร์ โดนใจคนดู!!!การันตีความสนุกและให้ข้อคิดดีๆ ในซีรีส์ “Wake up ชะนี Very Complicated” >>

ระเบิดลง! ฟิตติ้งแล้วละครผัวเมีย “บังเกิดเกล้า” “ป๊อก-หนุ่ม-เอี๊ยง-ไอซ์” ดราม่าบ้านแตก!!! >>

อมรินทร์ทีวี ไฟเขียว! ปลุกชีพละครผัวเมียในตำนาน “บังเกิดเกล้า” คว้า “หนุ่ม-ศรราม” สาดน้ำลาย “ป๊อก-ปิยธิดา” แซ่บเวอร์!!!>>

“โมโนแมกซ์” พร้อมฉาย “พราก” เอาใจคอหนังไทย“ป๊อก-ปิยธิดา” ทุ่มสุดตัวตามหาลูกหาย!!! >>

“ป๊อก-ปิยธิดา” วางมืองานผู้จัดสวมบท “แม่” ตามหาลูกหายใน  “พราก” >>