“แดน วรเวช” ทุ่มทำทุกตำแหน่งใน “ฤดูที่ฉันเหงา” หวังให้คนดูมีแรงบันดาลใจและอยากมีความรัก

แม้งานจะรัดตัวทั้งในบทบาทของนักร้องที่ยังคงมีงานเดินสายเล่นคอนเสิร์ตอยู่ตลอด หรือในฐานะนักแสดงที่มีงานหนังงานละครออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยพลังอันล้นเหลือ และการที่เป็นคนตั้งใจจริง ทำอะไรด้วยความมุมานะและทุ่มเทอย่างสุดๆ ทำให้ หนุ่มแดน วรเวช ดานุวงศ์ ต้องเคลียร์คิวทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองได้เต็มที่กับงานเขียนบทและกำกับภาพยนตร์ที่ตัวเองสนใจ โดยยอมสลับและเลื่อนคิวงานทุกอย่าง เพื่อให้ “ฤดูที่ฉันเหงา” ภาพยนตร์โรแมนติคคอมมิดี้เรื่องที่ 2 ในชีวิตที่ตัวเองรับหน้าที่เขียนบทและกำกับภาพยนตร์ดำเนินไปอย่างราบรื่นสมความตั้งใจ ซึ่ง แดน วรเวช เข้าไปมีส่วนร่วมในแทบทุกสายงานและทุกตำแหน่งหน้าที่ของหนังรักอารมณ์ดีเรื่องนี้ บ่งบอกถึงความเอาจริงเอาจังกับงานกำกับที่เจ้าตัวตกหลุมรักไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งแดนกล่าวว่า

“งานภาพยนตร์เป็นงานที่ผมทำแล้วผมรู้สึกสนุก มันเหมือนกับว่าได้ใช้ทุกศาสตร์ทุกแขนงอย่างที่เรามีมา ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ต่างๆ ทั้งในเรื่องของงานเพลง เรื่องของแอ็คติ้ง เรื่องของศาสตร์การเล่าเรื่องซึ่งมันรวมอยู่ในการทำหนังทั้งหมดเลยครับ หรืออย่างประสบการณ์ในการทำเพลงที่ผ่านมา เราก็เอามาใช้ในการทำสกอร์ (ดนตรีประกอบ) ในภาพยนตร์ การเล่าเรื่องการ PERFORM อะไรต่างๆ ก็เป็นเรื่องเหล่านี้ละครับ รวมไปถึงการแอ็คติ้งๆ ต่างๆ ซึ่งก็คือที่เราได้มาจากการเล่นละคร เล่นหนังมา  เจอผู้กำกับ เจอใครหลายๆ คนมา เก็บเกี่ยวมันมา แล้วเราก็ได้ใช้มันมาแบบทุกขั้นตอนจริงๆ มันถึงสนุกดี”

 และเมื่อถามถึงคำว่าผู้กำกับที่ดีในมุมมองของผู้กำกับแดนเป็นอย่างไร ขอบเขตรับผิดชอบของผกก.ที่ดีคืออะไร

“คำว่าผู้กำกับของแดนก็คือการทำอย่างไรก็ได้ให้หนังเรื่องนี้ออกมาแล้วคนส่วนใหญ่รู้สึกดีที่สุด รู้สึกตอบโจทย์ความรู้สึกของคนให้มากที่สุด อย่างทำหนังรักก็ต้องทำให้คนรู้สึกดูแล้วอยากมีความรัก รู้สึกมีแรงบันดาลใจในความรัก หรือทำหนังตลกก็ต้องทำให้คนยิ้มได้หัวเราะได้ เดินออกจากโรงไปแล้วก็สามารถหัวเราะต่อได้ นั่นแหละครับผมว่าผกก.ก็คือคนที่สามารถเล่าเรื่องยังไงก็ได้ให้คนรู้สึกอินตาม คือหลักที่สำคัญที่สุด เขาเรียกว่าการกำกับความรู้สึกของคน”

และไม่เพียงแต่งานเขียนบทและกำกับเท่านั้น ภาพชินตาที่ทีมงานทุกคนจะได้สัมผัสคือความสนใจใส่ใจในงานภาพยนตร์ของผกก.หนุ่มอย่างแดนวรเวชอย่างเต็มร้อยที่ไม่ว่าจะดึกดื่นค่ำคืน ตี 2-3 ยังคงเข้าไปในโลเกชั่นเพื่อตรวจตาความเรียบร้อยของทุกองค์ประกอบก่อนที่การถ่ายทำจะเริ่มในวันรุ่งขึ้นเสมอ ตั้งแต่อาร์ทไดเร็คชั่น รายละเอียดของรั้ว ประตู สัญญาณไฟ ไปจนถึงทางม้าลายบนถนนหน้าบ้านที่ถูกทาและเซ็ทขึ้นมาใหม่โดยเฉพาะ แม้แต่ต้นดอกพญาเสือโคร่งซึ่งเป็น1ในสัญลักษณ์ที่ผกก.แดนตั้งใจสอดแทรกเข้าไปในทุกๆ ฉากของหนังเรื่องนี้ รวมไปถึงการเข้าไปมีส่วนในการคัดเลือกเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของนักแสดงทุกๆ คนโดยเฉพาะ2พระเอกหนุ่มอย่าง โทนี่ รากแก่น กับ แจ็ค แฟนฉัน ก่อนการถ่ายทำว่าชุดไหนเหมาะสม และลงตัวที่สุดเนื่องจากทั้ง 2 ตัวละครแดนตั้งใจเลือกมาให้ต้องมีการปะทะเชือดเฉือนประชันบทบาทในความเป็นพระเอกของกันและกันอย่างถึงที่สุด จึงอย่าแปลกใจถ้าเห็นผกก.แดนจะยืนเลือกเสื้อผ้าและเช็คความถูกต้องของนักแสดงก่อนที่หนังจะถ่ายทำเสมอ

 เตรียมฝ่าความเหงาไปด้วยกันกับภาพยนตร์รักอารมณ์ดี ฤดูที่ฉันเหงา 9 พ.คนี้ทุกโรงภาพยนตร์