แปซิฟิก คอสเมติก เปิดแผนรุก “ดร.จาร์ท”ปรับภาพลักษณ์ลุยตลาดเวชสำอางระดับพรีเมียม

แปซิฟิก คอสเมติก เปิดแผนธุรกิจครั้งแรก ปั้น “ดร.จาร์ท” (Dr.Jart+) ผลิตภัณฑ์เวชสำอางอันดับ 1 จากเกาหลีบุกเคาน์เตอร์แบรนด์เมืองไทย พร้อมอัดการตลาดสร้างการรับรู้แบรนด์ต่อเนื่องทั้งปี ล่าสุดขยายช่องทางจำหน่าย เพิ่ม 10 สาขาและเคาน์เตอร์แบรนด์บุกศูนย์การค้ากรุงเทพ+หัวเมือง มั่นใจสิ้นปีโกยรายได้เติบโต 100%

นางสาวปณิตา ธรรมวัฒนะ ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัทแปซิฟิก คอสเมติก จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ เวชสำอางเกาหลี ภายใต้แบรนด์ “ดร.จาร์ท(Dr.Jart+)” กล่าวว่า ในปี 2556 นี้บริษัทได้ปรับกลยุทธ์ธุรกิจในการจำหน่ายและทำการตลาดผลิตภัณฑ์ ดร.จาร์ท ครั้งใหญ่ในรอบ 4 ปี เพื่อให้สอดคล้องในการพัฒนาสินค้าสู่เวชสำอางระดับพรีเมียม และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในตลาด

โดยบริษัทเตรียมงบการตลาดกว่า 20 ล้านบาท ในการปรับภาพลักษณ์ ยกระดับแบรนด์สู่เวชสำอางระดับพรีเมียมมากขึ้น พร้อมกับปรับช่องทางการจำหน่ายใหม่ทั้งหมด จากที่เน้นจำหน่ายในโมเดิร์นเทรดและโฮมช้อปปิ้ง เป็นศูนย์การค้าทั้งในกรุงเทพและหัวเมืองในต่างจังหวัด ซึ่งในปีนี้บริษัทใช้งบกว่า 40 ล้านบาท เพิ่มช่องทางการจำหน่ายอีก 10 จุด ในรูปแบบเคาน์เตอร์และรูปแบบร้านค้า รวมในปีนี้ บริษัทจะมีช่องทางการจำหน่ายเพิ่มเป็น 20 จุด“จากการปรับภาพลักษณ์ครั้งใหญ่ในรอบ 4 ปีนี้ เชื่อว่าแบรนด์ ดร.จาร์ท จะสามารถขยายฐานลูกค้าเพื่อเข้าถึงกลุ่มวัยทำงาน อายุ 25-45 ปี ที่มีฐานเงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 35,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป จัดเป็นกลุ่มลูกค้าในระดับ B+ ที่มีกำลังซื้อสูง ซึ่งถือเป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ และสร้างความน่าเชื่อถือในผลิตภัณฑ์ให้กับกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์ได้อย่างต่อเนื่อง“ นางสาวปณิตา กล่าว

สำหรับปีนี้บริษัทเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ ดร.จาร์ท มากกว่า 15 รายการ ซึ่งจะเปิดตัวในทุกๆไตรมาส โดยมีผลิตภัณฑ์ “เซราไมดิน” (Ceramidin) ครีมบำรุงผิวเข้มข้นที่ให้ความชุ่มชื้นมากเป็นพิเศษ และกำลังได้รับความนิยมอย่างสูงที่ประเทศเกาหลีใต้ เป็นสินค้าไฮไลท์ ซึ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนพ.ค.นี้ และคาดว่าทั้งปี 2556 บริษัทจะมีรายได้มากกว่า 300 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 100% เปรียบเทียบจากปี 2555

ปัจจุบัน ดร.จาร์ท (Dr.Jart+) เป็นผลิตภัณฑ์เวชสำอางอันดับ 1 จากเกาหลี ที่ผ่านมามีช่องทางการจำหน่าย 3 ช่องทางหลักในประเทศไทย คือ 1.ร้านค้า 2.ช่องทรูโฮมช้อปปิ้ง และ3.เว็บไซต์ ระดับราคาสินค้าเฉลี่ย 800 – 6,000 บาท

โดยที่ผ่านมาผลิตภัณฑ์ที่สร้างชื่อเป็นที่นิยมของผู้บริโภคและดังไปทั่วโลก คือ บีบีครีม ส่วน “Water Drop” เป็นผลิตภัณฑ์ที่รู้จักอย่างแพร่หลายในกลุ่มผู้ใช้คนไทย นอกจากนี้ที่น่าสนใจยังมี V 7 และ Everyday Sun ผลิตภัณฑ์ครีมกันแดด ที่สามารถปกป้องผิวสวยได้ทุกวันโดยเฉพาะช่วงฤดูร้อนนี้อีกด้วย

 

ที่มา:  index-creative
บันทึกภาพ:  index-creative
นำเสนอโดย www.starupdate.com หากนำข่าวไปใช้กรุณาอ้างอิงถึง www.starupdate.com ด้วย
ข่าวนี้อยู่ในหมวด PR Update และ Tag: , , , , , ติดตาม comment ของข่าวนี้ผ่านทาง RSS feed
Trackbacks are closed, but you can post a comment.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กุ๊บกิ๊บ สุมณทิพย์,หนิง ปณิตา,วิน ภูริต และเซเลบริตี้มากมาย รวมตัวร่วมใจเข้าร่วมกิจกรรม “ HUG for HOPE ” >>

“จั๊กจั่น” นำทีมสามี “เขตต์-โน้ต” จากละคร ‘พริ้ง คนเริงเมือง’ จัดเต็ม ขึ้นรถแห่รอบกรุง แจกน้ำอบ “7 สี รักษ์ประเพณีปีใหม่ไทย” พร้อมโปรโมทละครตอนแรก แซ่บสะท้านสงกรานต์ 13 เม.ย. นี้ >>

คุณแม่ยังสวย “หนิง-ปณิตา” ระดมพลศิษย์น้อง “โรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์” ถล่มคุณแม่ยอดซิกแพค “นุ๊ก-สุทธิดา” ใน “นักคิดตะลุยอาเซียนฯ”

“ดร.จาร์ท”เปิดตัว”เซราไมดิน” บล็อกเกอร์ร่วมเวิร์คชอปกลางกรุงโซล

“เอ๋-พรทิพย์” เผยสเป๊คขวดนม “น้องภู” ต้องหรูและดี แก้ปัญหา “ติดเต้าไม่เอาขวด!!”