“โอเลย์” เปิดเวทีเสวนาความงาม เผยอินไซต์จากผลสำรวจ ชี้กว่า 3 ใน 4 ของผู้หญิงไทย ไม่กล้าสวยให้สุด เพราะกลัวคำครหา

โอเลย์ ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าชั้นนำ เผยผลสำรวจทัศนคติด้านความงามของผู้หญิงไทย ภายใต้แคมเปญ “Best Beautiful” ที่กระตุ้นให้ผู้หญิงฉีกกรอบข้อจำกัดทางความคิด เพื่อความสวยที่เป็นที่สุดในแบบฉบับของตัวเอง เพราะโอเลย์เชื่อว่าความสวยที่เป็นที่สุดจะเป็นพลังที่จะผลักดันให้ผู้หญิงสามารถทำในสิ่งที่ปรารถนาได้อย่างเต็มที่และมั่นใจไม่รู้จบ โดยผลสำรวจพบว่า 74% หรือ 3 ใน 4 ของผู้หญิงไทยมองว่าความสวยเป็นดาบ 2 คม การสวยให้เต็มที่ก็อาจถูกครหาว่าทำตัวเด่น จึงทำให้ไม่กล้าสวยให้สุด

ภายในงานมีบรรดาเซเลบริตี้ชั้นนำของเมืองไทย อาทิ คริส หอวัง, กาละแมร์ – พัชรศรี เบญจมาศ, พลอย – ชวพร เลาหพงศ์ชนะ, โมเม – นภัสสร บุรณศิริ มาร่วมเสวนาในหัวข้อ “ผิดหรือที่ผู้หญิงมีแรงบันดาลใจที่จะให้ความสวยเป็นที่สุด?” เพื่อปลุกกระแสให้ผู้หญิงหันมาฉุกคิด เพื่อก้าวข้ามกรอบความคิดภายใน สู่ความสวยที่สุดในแบบฉบับของตน พร้อมสร้างแรงบันดาลใจ และเปิดมุมมองใหม่ๆ ในเรื่องความสวย  โดยมี หมอเอิ้น แพทย์หญิงพิยะดา หาชัยภูมิ มาร่วมเผยเคล็ดลับสร้างทัศนคติบวกด้านความงามให้กับผู้หญิง ดำเนินรายการโดยพิธีกรสาวมากความสามารถ หนิง ศรัยฉัตร กุญชร จีระแพทย์

นายวรศิษย์ ตุรงค์สมบูรณ์ ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ประจำประเทศไทย บริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงแคมเปญ Best Beautiful นี้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญระดับโลกของโอเลย์ “โอเลย์มีความเชื่อว่า ผู้หญิงมีสิ่งที่ทำเหมือนๆ กัน ในแต่ละวันคือการมองตัวเองในกระจกอยู่เป็นกิจวัตร มองกระจกเพื่อที่สังเกตว่ามีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไป หรือมองแม้กระทั่งเพื่อให้มั่นใจว่ามีอะไรที่ไม่เปลี่ยนแปลงบ้าง แต่ที่สำคัญผู้หญิงอยากมองเพื่อที่จะให้เห็นตัวเราเองที่สวยได้มากที่สุดในแบบฉบับของตัวเอง ในทุกๆ ก้าวที่เราก้าวไปข้างหน้าสู่วิถีที่ต้องพบกับสิ่งต่างๆ ในชีวิต หน้าที่การงาน ความรัก เราก็อยากจะก้าวผ่านช่วงเวลาและเหตุการณ์ต่างๆ ด้วยตัวเราเองในแบบที่สวยที่สุด เพราะโอเลย์ต้องการที่จะให้ผู้หญิงสามารถสร้างความพอใจและตรึงใจให้กับคนที่คุณมองอยู่ตรงหน้ากระจกในทุก ๆ วัน เพราะโอเลย์เชื่อว่าความตรึงตรานั้นคือ     ทุก ๆ สิ่งที่ผู้หญิงค้นหา และช่วงเวลานั้นคือการยืนยันในความสวยที่เป็นที่สุดของผู้หญิงทุกคน”

“สำหรับมุมมองของผู้หญิงไทยแล้ว แม้หลายๆ คนเชื่อว่าตนเองสามารถรู้สึกดีกับตัวเอง ดูดี และมีชีวิตที่ดีขึ้นได้ แต่ในขณะเดียวกัน กรอบทางความคิดและอุปสรรคทางสังคมต่างๆ ที่เกิดจากคนรอบตัว ครอบครัว หน้าที่การงาน หรือวัฒนธรรมของสังคม ล้วนมีอิทธิพลต่อความคิด และความมั่นใจของผู้หญิงเพื่อไปสู่ความสวยที่เป็นที่สุดอย่างที่เธอต้องการ ปัจจุบันจะเห็นว่าถึงแม้ผู้หญิงไทยแสดงออกทางด้านการดูแลผิวพรรณตัวเอง การแต่งตัว เพื่อสร้าง   แรงบันดาลใจในความงามมากขึ้น แต่ในความมั่นใจเหล่านั้นแฝงไปด้วยความกังวลถึงเรื่องความเหมาะสม ความอ่อนน้อม กาละเทศะ ความรู้สึกกลัวที่จะถูกคนรอบข้างตัดสิน ทำให้การแสดงออกเรื่องความงามไม่เป็นเพียงความต้องการส่วนตัวอีกต่อไป แต่กลับเป็นการคำนึงถึงความคิดเห็นของสังคมและคนรอบข้าง โอเลย์อยากเชิญชวนให้ผู้หญิงตั้งคำถามกับตัวเองว่า แท้ที่จริงแล้ว กรอบทางความคิดที่ทำให้ผู้หญิงเรามีนั้นเกิดจากปัจจัยภายนอก หรือปัจจัยภายในตัวเอง แล้วพยายามก้าวข้ามผ่านสิ่งนั้นให้ได้” นายวรศิษย์ กล่าวเสริม

โดยสำหรับ โอเลย์ ประเทศไทย เราต้องการที่จะทราบถึงทัศนคติสำหรับผู้หญิงไทยเกี่ยวกับความสวย ในหัวข้อ ทัศนคติและมุมมองของผู้หญิงไทย ต่อการก้าวข้ามอุปสรรคในตัวเอง เพื่อปรับเปลี่ยนตนเองเพื่อ “ความสวยที่เป็นที่สุด” โดยทำการสำรวจกลุ่มตัวอย่างเพศหญิง จำนวน 1,079 คน ในช่วงอายุระหว่าง 20 – 45 ปี ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2557 ที่ผ่านมา

โดยจากการสำรวจ พบว่า ผู้หญิงไทยมากกว่า 56% รู้สึกไม่กล้าที่จะสวยให้เต็มที่ในแบบของตนเอง และเป็นที่น่าตกใจว่า 74% หรือ 3 ใน 4 ของผู้หญิงไทยมองว่าความสวยเป็นดาบ 2 คม การสวยให้เต็มที่ก็อาจถูกครหาว่าทำตัวเด่น จึงทำให้ไม่กล้าสวยให้สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับช่วงเวลาที่สำคัญๆ ในชีวิต ที่ผู้หญิงมักกังวลเกี่ยวกับความไม่เหมาะสมของความงาม เช่น ร้อยละ 80 ของผู้หญิงมองว่าในการเริ่มทำงานวันแรก ควรจะแต่งตัวให้เรียบร้อย ไม่แฟชั่นมาก และเกือบ 2 ใน 3 เห็นว่าการแต่งหน้าอ่อนกว่าปกติเมื่อต้องไปพบพ่อแม่สามีเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อสร้างความประทับใจแรกพบ

ซึ่งผู้หญิงไทยมองว่ามีปัจจัยที่มีอิทธิพล 3 อันดับแรก ที่ทำให้ผู้หญิงไทยไม่กล้าที่จะสวยให้เต็มที่ในแบบของตนเองนี้  ได้แก่ ความเชื่อที่ว่าวัฒนธรรมไทยที่ถูกสอนให้เดินอยู่ในกรอบสังคม คำครหานินทาจากคนรอบข้าง และกลัวว่าเมื่อสวยแล้วจะเป็นการทำตัวเด่นกว่าผู้อื่น  ในขณะที่เกือบ 60% ของผู้หญิงเหล่านั้นเชื่อว่าพวกเธอสามารถสวยได้ในมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน โดยแรงบันดาลใจที่พวกเธอมองว่าจะช่วยให้ปรับเปลี่ยนความรู้สึกของตนมี  แรงบันดาลใจให้กล้าที่จะสวย สามอันดับแรกคือ ความรู้สึกข้างในของตนเองที่อยากหันมาดูแลตัวเองให้ดูดียิ่งขึ้น การให้การสนับสนุนจากบุคคลใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกในครอบครับ หรือเพื่อนฝูง รวมถึงแบรนด์ผลิตภัณฑ์ความงามจากสื่อต่างๆ ที่เป็นแรงบันดาลใจที่ผลักดันให้ผู้หญิงอยากสวยมากยิ่งขึ้น ตามลำดับ

จากอุปสรรคทางความคิดของผู้หญิงไทยที่ปรากฎในผลสำรวจ โอเลย์ จึงได้ริเริ่ม แคมเปญ “Best Beautiful” ในประเทศไทยเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้เกิดการฉุกคิดเกี่ยวกับความสำคัญของความสวยงามที่ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของผู้หญิง พร้อมทั้งต้องการสนับสนุนให้ผู้หญิงไทยเปิดตัวเอง ก้าวผ่านกรอบทางความคิดต่างๆ เพื่อให้เป็นผู้หญิงสวยได้มากที่สุดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งจะนำไปสู่การใช้ชีวิตที่มีความสุขยิ่งขึ้นและพร้อมที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับตัวเองและส่งต่อให้คนรอบข้าง

พร้อมกันนี้  โอเลย์ได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ล่าสุดชื่อ “Reflection” อย่างเป็นทางการ โดยมีเนื้อหาที่ ตั้งคำถามกับความเชื่อในสังคมไทยว่าผู้หญิงผิดไหมที่อยากจะสวยในแบบของตัวเอง พร้อมตีแผ่อีกหลากหลายมุมมองความรู้สึกของหญิงไทยที่ซ่อนไว้ไม่ให้ใครรู้

“โอเลย์ มีความมุ่งมั่นที่จะมอบความสวยที่เป็นที่สุดให้กับผู้หญิง ด้วยนวัตกรรมที่ไม่หยุดนิ่งจากการรังสรรค์ที่ดีที่สุดเพื่อมอบผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพเพื่อผู้หญิงทั่วโลก ให้ผู้หญิงมีผิวที่กระจ่างใสขึ้น อ่อนเยาว์ขึ้น และสวยได้อย่างเป็นที่สุด เพราะโอเลย์เชื่อว่าความสวยที่เป็นที่สุดในแบบฉบับของตนเองนั้นคือสิ่งที่ผู้หญิงค้นหา” นายวรศิษย์ กล่าวทิ้งท้าย

โอเลย์เชิญชวนผู้หญิงไทยทุกคนร่วมเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ Best Beautiful ของโอเลย์ พร้อมติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแคมเปญ และแชร์เรื่องราวของคุณได้แล้วตั้งแต่วันนี้ที่www.facebook.com/olaythailand และแฮชแท็ก #BestBeautiful