รุจ-ศุภรุจ ควงแขน พิมฐา พาเรียนรู้วัฒนธรรมและแหล่งท่องเที่ยวญี่ปุ่น ผ่านหนังสือ 2 เล่ม 2 สไตล์
สำนักพิมพ์ Amarin Travel และ สำนักพิมพ์ Steps จับมือร่วมกันเปิดตัวหนังสือ 2 เล่ม 2 สไตล์ แต่หัวใจญี่ปุ่นเหมือนกัน! โดยมีรุจ – ศุภรุจ เตชะตานนท์ นักร้องหนุ่มชื่อดังจากเวทีการประกวดเดอะสตาร์ เปิดตัวหนังสือเล่มแรกในชีวิตที่ลงมือเขียนและถ่ายภาพเอง“Japan Best Destinations สุดยอดจุดหมายที่คนรักญี่ปุ่นต้องไป” โดยสำนักพิมพ์ Amarin Travel แต่มาคนเดียวไม่พอ ขอควงสาวสวยดีกรีนักเรียนทุนญี่ปุ่นที่มีคนติดตามเกือบสองล้านคน พิมฐา – ฐานิดา มานะเลิศเรืองกุล ที่เคยฝากผลงาน “Happy Everyday มีความสุขทุกวัน” คราวนี้กลับมาพร้อมเรื่องราวการใช้ชีวิตในประเทศญี่ปุ่นผ่านหนังสือเล่มที่สอง “Last Time in Japan คิดถึงญี่ปุ่นจัง” โดยสำนักพิมพ์ Steps ปิดท้ายด้วยกิจกรรม Fan Sign สุด Exclusive งานนี้มีแฟนคลับหนุ่มรุจและสาวพิมฐาร่วมให้กำลังใจเพียบ โดยงานจัดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา ณ เวทีกลางเอเทรียม งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 20 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
ความประทับใจในประเทศญี่ปุ่นผ่านมุมมองเลนส์กล้องของ รุจ-ศุภรุจ ได้ถ่ายทอดผ่านอินสตาแกรมแอคเคานท์ที่ชื่อ @suparuj และได้กลายมาเป็นหนังสือ “Japan Best Destinations สุดยอดจุดหมายที่คนรักญี่ปุ่นต้องไป” คู่มือท่องเที่ยวที่คัดเลือก 50 สถานที่ทั่วทุกภูมิภาคในประเทศญี่ปุ่นที่รุจได้ไปเยือนและได้เก็บเป็นความทรงจำอันสวยงาม ถ่ายทอดออกมาเป็นภาพถ่ายฝีมือของตนเองกว่า 200 ภาพ และยังได้แบ่งปันข้อมูล วิธีการเดินทาง คำแนะนำในการชมสถานที่และแรงบันดาลใจในการเดินทางสำหรับคนที่อยากจะเดินทางตามรอยเส้นทาง ซึ่งรุจจะพาผู้อ่านไปรู้จักสถานที่ Landmark ของญี่ปุ่นในอีกมุมมองหนึ่ง ผ่านเลนส์กล้องของเขา พร้อมทั้งเขียนคำบรรยายที่กลั่นมาจากใจเขาเอง เพื่อหวังให้ผู้อ่านได้รู้สึกเสมือนว่าร่วมเดินทางไปพร้อมกับเขา
รุจกล่าวถึงหนังสือที่เรียกได้ว่าเป็นความทรงจำที่มีความสุขของเขาว่า “ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาที่ผมได้ท่องเที่ยวไปเกือบทั่วทุกจังหวัดของประเทศญี่ปุ่น หลากหลายสถานที่ที่ไปเยือนได้สร้างความประทับใจให้กับผมเป็นอย่างมาก และผมก็ได้เก็บความประทับใจเหล่านั้นกลับมาด้วยเสมอ”
“หลังจากที่ผมเริ่มต้นออกเดินทางท่องเที่ยวเพียงลำพังมาระยะหนึ่งก็ทำให้ได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างมากขึ้น สิ่งที่ได้รับมามันมากมายจนยากจะอธิบายออกมาเป็นตัวหนังสือ มันเป็นความสุขที่มาจากความอิสระที่ไม่มีกรอบใดๆมาขวางกั้น แต่ในความอิสระนั้นก็แฝงปนมาด้วยความรู้สึกเปลี่ยวเหงาอยู่ไม่น้อยหลายครั้งที่ผมคิดว่าความสวยงามที่อยู่ตรงหน้ามันช่างจำกัดอยู่เพียงแค่สายตาของเรา เราจะทำอย่างไรจึงจะสามารถถ่ายทอดภาพความสวยงามเหล่านั้นส่งต่อไปสู่คนที่เรารัก และทำให้เขารู้สึกประทับใจเช่นเดียวกับเราผมเชื่อว่าภาพถ่ายเป็นสื่อกลางที่ง่ายที่สุดที่จะถ่ายทอดความรู้สึกของผมออกมาได้ หากผมถ่ายภาพที่อยู่ตรงหน้า ให้ออกมาสวยงามและใกล้เคียงความเป็นจริง นั่นหมายความว่าผมก็น่าจะพาทุกๆ คนร่วมเดินทางไปกับผมได้ ยิ่งถ้ารวมเข้ากับอารมณ์ความรู้สึกที่กลั่นกรองออกมาเป็นตัวหนังสือ ก็จะยิ่งทำให้ภาพที่เห็นแจ่มชัดมากขึ้น ทั้งอารมณ์ความรู้สึกและความน่าสนใจ และนั่นคือที่มาของการเริ่มหัดถ่ายภาพอย่างจริงจังของผมตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ผมก็ได้มีเป้าหมายในการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีกอย่างหนึ่ง นั่นก็คือการเก็บความประทับใจจากสถานที่ต่างๆ ที่ผมจะได้มีโอกาสไปเยือน ถ่ายทอดมันออกมาเป็นภาพในแบบฉบับของตัวผมเอง เพื่อหวังว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครหลายคนได้ก้าวออกไปเห็นในสิ่งที่ผมได้เห็น”
ด้านพิมฐานักเรียนทุนของมหาวิทยาลัย Ritsumeikan Asia Pacific University หรือ APU ในเมืองเบปบุ ประเทศญี่ปุ่น และเจ้าของผลงานหนังสือ “Last Time in Japan คิดถึงญี่ปุ่นจัง” ได้เล่าให้ฟังถึงประสบการณ์การใช้ชีวิตในประเทศญี่ปุ่นกว่า 3 ปี ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของความสนุกสนาน ความอบอุ่น เรื่องตื่นเต้น และคราบน้ำตา ทำให้เราได้เห็นมุมมองและโลกของพิมฐาในอีกมุมหนึ่ง และแน่นอนว่าต้องมีภาพสวยๆให้ติดตามกันตลอดเล่มอีกด้วย แม้วันนี้การเรียนในระดับปริญญาตรีของเธอจะสำเร็จไปได้ด้วยดีแล้ว แต่ทุกครั้งที่คุณผู้อ่านเปิดหน้ากระดาษที่บันทึกเรื่องราวต่างๆ ในเล่มนี้ขึ้นมา ความทรงจำแห่งความสุขและแสนอบอุ่นก็จะอบอวลขึ้นมาอีกครั้ง ฉายซ้ำแล้วซ้ำเล่า เหมือนความน่ารักสดใสของเธอที่ดูเมื่อไหร่ก็ไม่จืดจาง
‘’การเขียนหนังสือเล่มสองเล่มนี้ก็เหมือนกับการเขียนไดอารี่อีกเล่ม การเล่าเรื่อง ภาพความทรงจำผ่านตัวหนังสือ เล่าในสิ่งที่อยากเล่า เก็บไว้ในพื้นที่ที่อยากเก็บไว้ โดยภาพความทรงจำเหล่านั้น จะมีคุณค่าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆตามเวลาที่ผ่านไป และในวันข้างหน้าเรื่องราวเหล่านี้จะเป็นมากกว่ากำลังใจ ที่ทำให้คนที่เขียนและคนที่อ่านยิ้มได้อีกครั้ง’’ พิมฐากล่าวถึงหนังสือเล่มที่ 2 ของเธอ
เธอเล่าจุดเริ่มต้นของการไปใช้ชีวิตในญี่ปุ่นให้ฟังว่า “หากถามว่าทำไมถึงเลือกสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ญี่ปุ่น ได้รับโอกาสนี้มาอย่างไร ทำไมต้องที่นี่เวลานี้ และเตรียมตัวอย่างไร ต้องบอกเลยว่าโอกาสที่ได้มานี้คือเรื่องบังเอิญที่ดีที่สุดชีวิต เพราะในตอนนั้น มีมหาวิทยาลัยอีกแห่งหนึ่งตอบรับให้เข้าศึกษาต่อเรียบร้อยแล้วและกำลังเก็บข้าวเก็บของเพื่อย้ายสำมะโนครัวไปยังหอพักของมหาวิทยาลัยนั้น แถมยังเป็นคณะที่ชื่นชอบซะด้วย แต่ไม่รู้ว่าโชคชะตาฟ้าลิขิตหรืออะไรมาสะกิดใจให้ตัดสินใจอยากลองเป็น ‘นักเรียนทุน’กับเขาดูบ้าง แค่ชื่อก็ฟังดูเท่จะแล้ว แถมยังประหยัดค่าเทอมและทำให้พ่อกับแม่ภูมิใจอีกตะหาก การได้สอบเป็นนักเรียนทุนก็เสมือนเป็นกุญแจที่จะเปิดประตูไปสู่โลกใบใหม่ให้เรากล้าเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น’’
เธอเล่าต่อว่า “ครั้งหนึ่งในห้องเรียนภาษาญี่ปุ่น จะมีการฝึกฝนการใช้ภาษาด้วยการให้หัวข้ออิสระเพื่อออกไปพูดหน้าชั้นเรียนเป็นเวลา 3 นาที อย่างที่รู้กันว่าภาษาญี่ปุ่นเป็นยากเป็นทุนอยู่แล้ว ยิ่งต้องออกไปยืนเผชิญหน้าเพื่อนร่วมห้องอีกสิบชีวิตเพื่อพูดภาษาที่เราไม่คุ้นเคยก็ยิ่งระทึกขึ้นไปอีก สิ่งที่คิดได้ตอนนั้นคือการแนะนำเพลง “ช้าง ช้าง ช้าง” ของไทยให้ชาวต่างชาติรู้จัก ซึ่ง 3 นาทีหน้าห้องในวันนั้นก็ผ่านไปได้ด้วยดีและรื่นรมย์ สิ่งที่ได้เรียนรู้จากวันนั้นคือ ดนตรีเป็นสิ่งที่สามารถเชื่อมทุกคนบนโลกใบนี้ได้อย่าง ไร้พรมแดนจริงๆ (ฮ่าๆ)” พิมฐาปิดท้ายประสบการณ์หนึ่งในชีวิตของเธอด้วยเสียงหัวเราะอันสดใส
เปิดมุมมองประเทศญี่ปุ่นผ่านแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามและเรียนรู้วัฒนธรรมญี่ปุ่นผ่านหนังสือ
“Japan Best Destinations สุดยอดจุดหมายที่คนรักญี่ปุ่นต้องไป” โดย รุจ-ศุภรุจ
สำนักพิมพ์ AMARIN Travel ราคา 325 บาท
“Last Time in Japan คิดถึงญี่ปุ่นจัง” โดย พิมฐา
สำนักพิมพ์ Steps ราคา 275 บาท
วางจำหน่ายแล้วที่ร้านนายอินทร์และร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ
บันทึกภาพ: ฝ่ายประชาสัมพันธ์
Trackbacks are closed, but you can post a comment.