“เอิน ณิธิภัทร์” แรงไม่สนเรทติ้งจับละครแนวใหม่ “วัยแสบสาแหรกขาด” สะท้อนสังคม หวังคนดูช่วยตัดสิน

มุ่งมั่นตั้งใจอย่างเต็มที่เพื่อสร้างละครแนวใหม่พล็อตเรื่องใหม่ สะท้อนสังคมอย่างจริงจังสำหรับผู้จัดหนุ่มไฟแรง “เอิน ณิธิภัทร์ เอื้อวัฒนสกุล” ทายาทของผู้จัดรุ่นใหญ่ “แม่ก้อย ทาริกา ธิดาทิตย์” แห่งค่ายมาสเตอร์ วัน ที่พร้อมส่งละครน้ำดี “วัยแสบสาแหรกขาด” ออกมาสู่หน้าจอให้ผู้ชมทุกท่านได้รับชมกัน ทุกวันศุกร์ 20.00 และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.15 น.ทางช่อง3 ออริจินอล และช่อง 33 ซึ่งเรื่องนี้ผู้จัดของเราได้เผยว่าเป็นละครแนวใหม่ที่ตั้งใจทำเพื่อหวังให้คนดูตัดสินใจว่าแนวทางนี้รับได้มั๊ย เป็นละครที่ศึกษาข้อมูลอย่างจริงจัง พร้อมทั้งยังเสนอแนวทางแก้ไขที่จับต้องได้ รับทุกคำวิจารณ์ หวังขอให้มีคนดูเพื่อประโยชน์ต่อสังคมอย่างจริงจัง ส่วนเรื่องเรทติ้งหรือกระแสก็ให้เป็นอีกเรื่องหนึ่งไม่คาดหวังอะไร

“จุดเริ่มต้นของละครเรื่องนี้ คือได้คุยกับนักเขียนว่าอยากได้พล็อตเรื่องอะไรใหม่ๆ ซึ่งทางพี่ณัฐ ก็มีเรื่องมาเสนอเกี่ยวกับละครสะท้อนสังคม ซึ่งก็ตรงกัน ก็เลยออกมาเป็นละคร วัยแสบสาแหรกขาด เนื้อเรื่องที่ออกมาก็จะเกี่ยวกับเด็กที่มีปัญหา5ครอบครัว 5รูปแบบ ความรุนแรง,โดนคุกคามทางสื่อ,ทำร้ายตัวเอง,โกหก,ขี้ขโมย แล้วก็เอามารวมกันใช้พระนางเป็นตัวดำเนินเรื่อง มันก็จะคล้ายๆกับแนวหนังสืบสวนสอบสวนนิดนึง ที่ให้พระเอกนางเอกไขเคสแต่ละอย่าง เก็บข้อมูล ไขปมจนแบบช่วยเหลือ   ด้วยความที่มันเป็นละครสะท้อนสังคมก็จะมีข้อเสนอข้อชี้นำออกมาให้ด้วย ถามว่าหนักมั๊ยสำหรับเรื่องนี้ก็หนักครับ แต่หนักบนพื้นฐานความเป็นจริง หนักแบบว่าคนส่วนใหญ่น่าจะจับต้องได้ว่านี่คือชีวิตจริง บางทีชีวิตจริงหนักกว่านี้อีกนะ

เรื่องนี้จะทำการบ้านหนัก มที่ปรึกษาอยู่ถึง 4 ท่าน มีที่เป็นนักจิตวิทยาอยู่ต่างประเทศ พอเขียนบทเสร็จเราก็จะส่งให้ดู ปรับปรุงพูดคุยกัน การนำเสนอภาพจะนำเสนอแบบไหนให้มันใกล้เคียงกันที่สุด อย่างตัวนักแสดงเอง ก็จะมีไปคุยกับนักจิตวิทยาจริงๆด้วย วิธีการรีแอค ท่าทาง การคุยกับเด็ก การเข้าหาเด็ก อาทิเช่น เวลานั่งคุยกับเด็ก ไม่ควรจะกอดอก หรือไม่ควรจะใช้น้ำเสียงที่แรงเกินไป หรือไม่ควรแสดงสีหน้าอารมณ์ เรื่องนี้เป็นข้อมูลที่เป็นจริง เป็นเรื่องที่จับต้องได้ มีตัวอย่างกันเยอะแยะ เพียงแต่มันเซนซิทีฟ อธิบายทางถ้อยคำก็ยากเพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับจิตวิทยา ถามว่ารุนแรงแค่ไหน จริงๆก็ยังทำได้รุนแรงไม่สุด รุนแรงระดับนึงแต่เราก็มีการกรองภาพ เพื่อไม่ให้เกินเรทละครสองทุ่มครึ่ง มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใกล้ตัว คนส่วนใหญ่น่าจะจับต้องได้ มันอาจจะไม่ได้เกิดกับตัวเองครอบครัวเรา อาจจะเป็นคนใกล้ตัวที่มีปัญหานี้อยู่ อย่างปัญหาทำร้ายตัวเองเอาจริงๆก็เยอะไปหมดเพียงแต่เค้าไม่เอามาพูด หรือถูกคุกคามทางสื่อออนไลน์ก็มีให้เห็นกัน เรื่องนี้ก็หวังว่ามันจะช่วยแก้ปัญหาสังคมได้ ไม่เหมือนหลายๆเรื่องที่ทำมา ของเราจะมีวิธีแก้ไข มีวิธีการนำเสนอเลย คือพาเด็กที่มีปัญหาไปดูหาทางออกเลย สอดแทรกความรู้ไปด้วย แต่ท้ายที่สุดจะพ้อยส์ไปที่พ่อแม่ คนเป็นพ่อแม่จะต้องเข้าใจ

ความคาดหวังอยากให้คนดูเยอะๆไว้ก่อนเลย เรทติ้งหรืออะไรก็ไว้อีกเรื่องนึง แต่อยากให้คนได้ดู เพราะเป็นหนทางหรือแนวทางแก้ไขสังคม มันเป็นละครแนวที่เราอยากจะสอดแทรกความรู้ ให้ได้รับประโยชน์ มีความน่ารัก ความสนุกสนานลงไปด้วย ก็อยากฝากละครแนวใหม่   อยากให้คนดูช่วยตัดสินใจ ถ้ารับได้ก็จะกล้านำเสนอสิ่งใหม่ กล้าที่จะทำต่อไป อยากให้ดูกันเยอะๆคอมเม้นท์ วิจารณ์กันได้ อยากเห็นฟีตแบล็กว่าเราจะสามารถทำมันไปต่ออีกได้มั๊ย”