แซม เวิร์ธธิงตัน จับมือนักแสดงออสการ์ ออคตาเวีย สเปนเซอร์ พาผู้ชมสู่ “The Shack” ปาฏิหาริย์สร้างแรงบันดาลใจบนจอภาพยนตร์

โพสต์เมื่อ: 05/04/2017

ถือเป็นไฮไลท์เด่นของ “The Shack กระท่อมเหนือปาฏิหาริย์” เลยก็ว่าได้ สำหรับทีมนักแสดงมากความสามารถที่เตรียมเดินหน้าพาผู้ชมสัมผัสประสบการณ์ความประทับใจครั้งยิ่งใหญ่บนจอภาพยนตร์ นำโดย แซม เวิร์ธธิงตัน พระเอกหนุ่มขวัญใจสาวๆ จาก AVATAR (อะวาตาร์) และ Terminator: Salvation ซึ่งครั้งนี้นับว่าเป็นการพิสูจน์ความสามารถครั้งสำคัญกับว่าที่หนึ่งในผลงานที่ดีที่สุดในชีวิตด้วยการรับบทเป็น “แม็ค ฟิลลิปส์” ชายผู้ที่กำลังดำดิ่งสู่ห้วงเวลาที่ต้องทนทุกข์ จากเหตุโศกนาฏกรรมที่ต้องสูญเสียลูกสาวไปในกระท่อมร้างกลางป่า “ผมอินกับบทมาก มันกระตุ้นให้ผมไปหาหนังสืออ่าน” แซมกล่าว “ผมรู้สึกว่าเรื่องนี้มันตรงกับตัวผม เพราะผมก็มีลูกเล็กๆ เหมือนกัน ผมลองคิดภาพตามว่าถ้าหากเหตุการณ์ในเรื่องเกิดขึ้นกับผม ผมต้องการใช้แม็คสำรวจแก่นเรื่องที่เกี่ยวกับความเป็นและความตาย มันเป็นสิ่งสำคัญมากซึ่งผมว่าทุกคนต้องเคยเจอบ้างสักครั้งในชีวิต”

ร่วมด้วยนักแสดงหญิงฝีมือเหนือชั้น ออคตาเวีย สเปนเซอร์ เจ้าของรางวัลออสการ์สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมจาก The Help (เดอะ เฮลป์) และเข้าชิงครั้งล่าสุดจาก Hidden Figures ในบทบาทของ “ปาป้า” ผู้นำทางแม็ค ฟิลลิปส์สู่อีกดินแดนเหนือคาดฝันที่เต็มไปด้วยสิ่งอัศจรรย์ สำหรับ ออคตาเวีย เธอคือแฟนนิยายเรื่องนี้ตัวยงเพราะธีมของหนังสือนั้นยังคงก้องกังวาลอยู่ในหัวใจเธอเสมอ “ฉันนึกภาพไม่ออกเลยถ้าฉันไม่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ทุกวันนี้จะเป็นยังไง ฉันเคยเจอความสูญเสียมา แต่สิ่งที่ทำให้คุณกลับมาเหมือนเดิมได้คือศรัทธา”

ร่วมด้วยดาราสาว ราดาห์ มิทเชล จาก London Has Fallen (ลอนดอน แฮส ฟอลเลน) ในบท “แนน” ภรรยาของแม็ค ฟิลลิปส์ สำหรับนอกจอนั้นด้วยความที่ทั้งคู่เป็นชาวออสเตรเลียเหมือนกัน จึงทำให้ราด้านั้นเป็นเพื่อนซี้ตัวจริงของแซม และเหตุผลหลักที่เธอตัดสินใจมาร่วมแสดงในหนังเรื่องนี้ก็คือ เรื่องราวอันน่าประทับใจของการเยียวยาและความหวังท่ามกลางความมืดหม่น “ฉันชอบบทเพราะมันเกี่ยวกับว่าไม่ว่าสถานการณ์จะยากลำบากขนาดไหน มันยังมีโอกาสให้เราได้มอบความรักที่บริสุทธิ์ให้กันได้เสมอ ซึ่งนั้นมันช่วยเยียวยาได้จริงๆ”

และ ทิม แม็กกรอว์ นักแสดง-นักร้องคันทรีชื่อดังชาวอเมริกันในบทบาท “วิลลี่” เพื่อนบ้านของแม็ค ฟิลลิปส์ ในชีวิตจริงทิมคือคุณพ่อลูกสามและเป็นแฟนของนิยายเรื่องนี้ไม่แพ้คนอื่นๆ “ผมน้ำตาไหลเลยตอนอ่าน มันเป็นเรื่องที่น่าประทับใจที่เกี่ยวกับการหาทางกลับบ้าน เกี่ยวกับค้นหาความเข้มแข็งในตัวเองเพื่อที่จะให้อภัยและมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อคนอื่นๆ ในครอบครัว”

นอกจากนี้อีกสองบทบาทที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ การหานักแสดงมารับบท “เยซู” และ “ซารายู” โดยทีมผู้อำนวยการสร้างได้เฟ้นหานักแสดงมากมายจนได้มาพบกับ นักแสดงหนุ่มดาวรุ่ง อัฟราฮัม อาวีฟ และท๊อปโมเดลจากแดนอาทิตย์อุทัย ซูมิเระ ที่เหมาะสมกับบทบาทมากที่สุด

“มันเป็นเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่แต่มันยังเรียบง่ายและบริสุทธิ์ ซารายู เธอเป็นตัวแทนของความคิดสร้างสรรค์ เธอเหมือนกระแสลมที่นำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลง แม้ในบางครั้งจะดูลึกลับบ้างก็ตามแต่สิ่งที่สำคัญคือต้องทำให้เธอดูเป็นมนุษย์ที่สุดเท่าที่เป็นไปได้” ซูมิเระ กล่าวถึงบทบาทที่ได้รับ

อัฟราฮัม กล่าวว่าครั้งแรกที่เขาได้อ่านบทมันโดนใจเขาอย่างแรง “ผมอ่านบทตอนกำลังกลับบ้าน มันทำให้ผมพูดอะไรไม่ออกเลย แล้วจู่ๆ น้ำตาเริ่มไหล ชีวิตคุณมีอิสระที่จะเลือกในแต่ละเส้นทาง และผมหวังว่าหนังเรื่องนี้จะช่วยให้คนเข้าใจแบบนั้น”