“เบิร์ด – ธงไชย” กอดคอ “แก้ม-อาร์-ปราง-ญิ๋ง-นิ้ง” หยิบเรื่องจริง ถ่ายทอดพลังการต่อสู้ชีวิต ผ่านละครเพลงมิวสิคัล “ชีวิตลิขิตเอง” >>

เรียกน้ำตาจากคนดูได้อย่างสุดซึ้ง เมื่อซูเปอร์สตาร์เมืองไทย “เบิร์ด” ธงไชย แมคอินไตย์ กอดคอเหล่าดวงดาวต่างๆจากไทย อาทิ แก้ม – เดอะสตาร์ (วิชญาณี เปียกลิ่น) ,  อาร์ – เดอะสตาร์ (อาณัตพล ศิริชุมแสง) , ปราง – กัญญ์ณรัณ วงศ์ขจรไกล, ญิ๋ง – รฐา โพธิ์งามและ นิ้ง-  โสภิดา กาญจนรินทร์  มิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ มาร่วมกันถ่ายทอดแรงบันดาลใจในการต่อสู้ชีวิตผ่านละครเพลงมิวสิคัล “ชีวิตลิขิตเอง” ในงาน “คืนนี้มีแต่ดาว” (The Starry Night) ที่สร้างขึ้นจากเรื่องจริงของการต่อสู้ของครอบครัว ลิดดัง ที่มุ่งมั่นเดินหน้าสร้างธุรกิจของตัวเอง โดยไม่ยอมให้โชคชะตาเป็นตัวกำหนด โดยเรียงร้อยผ่านบทเพลงต่างๆซึ่งมีบทเพลงของ “เบิร์ด – ธงไชย” เป็นเพลงนำในรูปแบบละครเพลงมิวสิคัล เมื่อค่ำวันก่อน ณ ดาว เรสซิเด้นซ์ ปากเซ ประเทศลาว

งานนี้เรียกว่านักแสดงแต่ละคนอินเนอร์จัดเต็มสมบทบาทเรียกน้ำตาปริ่มๆจากคนดู ไม่ว่าจะเป็นสาว ปราง – กัญญ์ณรัณ  ที่รับบท บุญเฮือง แครอล ลิดดัง ลูกสาวคนโตของครอบครัวที่ออกมาเป็นนาเรเตอร์(คนเล่าเรื่อง)เล่าเรื่องของแม่ได้ซึ้งอินจัดซะจนราวกับชีวิตตัวเอง แถมงานนี้ปรางยังโชว์พลังเสียงร้องเพลงครั้งแรกจนทำเอาคนดูปรบมือสนั่น ด้านแก้ม-วิชญาณีในบทบาท มาดามเหลื้อง ลิดดัง ผู้หญิงสู้ชีวิตตีบทแตกกระจุยไม่แพ้กันทั้ง อารมณ์ และ พลังเสียงร้องสะกดจนคนดูขนลุกซู่ ส่วนหนุ่ม อาร์-อาณัตพล ผู้รับท ดร. ฮ่าว ลิดดัง ศัลยแพทย์ผู้เสียสละ สามีมาดามเหลื้องนั้น ออกมาสร้างแรงบันดาลใจในการเป็นผู้อุทิศตนเพื่อส่วนร่วมประกบกับแก้มได้อย่างประทับใจสุดๆ ทั้งเคมีและอินเนอร์ที่ปล่อยออกมาสมจริงจนทำเอาคนดูมีทั้ง รอยยิ้ม และ น้ำตาคลอในเวลาเดียวกันกับชีวิตต้องสู้ของครอบครัวนี้  ก่อนที่สาว นิ้ง- โสภิดา มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สจะปรากฏตัวขึ้นเวทีประกาศในวาระที่ กลุ่มดาวเรือง กรุ๊ปได้รับเครื่องหมายตรา GI (ตราบ่งชี้ภูมิศาสตร์ หรือ Geographic Indicated) จากรัฐบาลอย่างเป็นทางการ และปิดท้ายด้วยความประทับใจกับโชว์เซอร์ไพร์สช่วงไฮไลท์จากซูเปอร์สตาร์เมืองไทย “เบิร์ด” ธงไชย ที่ออกมามอบบทเพลง “จับมือไว้แล้วไปด้วยกัน” และเพลง “เล่าสู่กันฟัง” ร่วมกับ ญิ๋ง –รฐา นักแสดง และ ผู้ร่วมงานทุกคนเพื่อส่งกำลังใจให้กับทุกคนที่กำลังต้องการพลังในการต่อสู้ชีวิต  …. “คืนนี้มีแต่ดาว” The Starry Night จึงเป็นคืนแห่งความสุข ความประทับใจ ที่แต่ละคนได้รับแรงบันดาลใจในการต่อสู้ชีวิตกลับบ้านไปอย่างเต็มเปี่ยม