5 เหตุผลห้ามพลาด “The Lost Prince เจ้าชายตกกระป๋อง” โปรเจกต์มหัศจรรย์ครั้งใหม่ อัดแน่นด้วยคุณภาพจากผู้กำกับรางวัลออสการ์ “The Artist” >>

1. ผลงานคุณภาพจากผู้กำกับดีกรีออสการ์

The Lost Prince เจ้าชายตกกระป๋อง ได้ผู้กำกับฝีมือเยี่ยมแถวหน้าของวงการที่สายหนังต้องรู้จักกันอย่างแน่นอน “มิเชล ฮาซานาวิเชียส” เจ้าของผลงานภาพยนตร์ขาวดำสุดคลาสสิค The Artist ที่กวาดรางวัลออสการ์มาหลายรางวัลด้วยกัน ทั้งรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ผู้กำกับยอดเยี่ยม, ผู้กำกับภาพยอดเยี่ยมและดารานำฝ่ายชายยอดเยี่ยม จึงถือเป็นการการันตีว่า The Lost Prince เจ้าชายตกกระป๋อง ผลงานมหัศจรรย์ครั้งใหม่นี้ จะไม่ทำให้ผู้ชมต้องผิดหวังแน่นอน

2. พระเอกอบอุ่นตัวพ่อ

หากพูดถึงพระเอกสายอบอุ่นหรือผู้ชายที่เล่นบทพ่อได้ตีบทแตกแบบสุด ๆ “โอมาร์ ซี” คงต้องมีติดอยู่ในลิสต์ใครหลายคน ทั้งการแสดงสุดตราตรึงใจใน The Intouchables หรือบทบาทคุณพ่อเจ้าของรอยยิ้มสุดอบอุ่นใน Two is a Family และการแสดงขี้เล่นเสน่ห์แพรวแพราวใน Belleville cop ทั้งหมดนี้ทำให้โอมาร์ ซี ขึ้นติดอันดับนักแสดงที่มีค่าตัวสูงในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2016

3. แฟนตาซีภาพสวย ผจญภัยไปในดินแดนแห่งความฝัน

คงจะไม่พูดถึงไม่ได้อย่างแน่นอน เพราะ The Lost Prince เจ้าชายตกกระป๋อง ได้ทีม Visual Effect (VFX) แถวหน้าของวงการภาพยนตร์เจ้าของผลงาน Harry Potter และ King Arthur มาสรรสร้างโลกแห่งความฝันหรือดินแดน Storyland ให้งดงามเหนือจินตนาการ

4. สไตล์ความอบอุ่น อมยิ้มละมุนหัวใจของหนังแดนน้ำหอม

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหากเรานึกถึงหนังแนวอบอุ่น ละมุนหัวใจ หนังฝรั่งเศสถือเป็นเบอร์ต้น ๆ ของคอหนังแนวนี้แน่นอน การันตีด้วยความดีงามของภาพยนตร์หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น Amelie (2001), Midnight in Paris(2011), Two Days, One Night(2014) และ Rolling to You (2018) พอมาในปี 2020 ก็ได้ปล่อยภาพยนตร์คุณภาพสุดอบอุ่น อย่าง The Lost prince ทั้งยังทำออกมาได้โดนใจคอหนังจนได้รับกระแสตอบรับอย่างดีจากผู้ชมเปิดตัวด้วยอันดับ 2 ของ Box Office ฝรั่งเศส กวาดรายได้ทะลุไปกว่า 200 ล้านบาท

5. ความมหัศจรรย์ที่แท้จริงคือครอบครัว

The Lost prince เล่าถึงเรื่องราวของ “ดจิบิ” พ่อเลี้ยงเดี่ยวที่ทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างให้กับลูกสาว “โซเฟีย” ทุกคืนเขาจะเล่านิทานก่อนนอนให้ลูกสาวฟัง และทุกๆ ครั้งที่โซเฟีลหลับไหล เธอจะได้ผจญภัยใน “สตอรี่แลนด์” โรงถ่ายภาพยนตร์แห่งความฝันที่มี “ดจิบิ” พ่อของเธอรับบทเป็นเจ้าชาย แต่เมื่อเวลาผ่านไป โซเฟียเข้าสู่วัยรุ่น พ่อกลับไม่ใช่เจ้าชายในฝันของเธออีกต่อไป เธอเริ่มเบื่อนิทานเดิม ๆ และเริ่มสร้างเรื่องราวของตัวเองขึ้นมา เมื่อดจิบิถูกลดบทบาทลงทั้งในชีวิตจริงและและในความฝัน เขาจึงพยายามทำทุกทางเพื่อให้ตัวเองได้กลับมาเป็นคนสำคัญของลูกสาวอีกครั้ง

จำได้มั้ย? ว่าครั้งสุดท้ายที่ฟังนิทานกับพ่อคือเมื่อไหร่? มาร่วมผจญภัยไปกับความรักของครอบครัว เตรียมตัวหลับใหลไปในโลกแห่งความฝันและดำดิ่งสู่จินตนาการสุดตระการตาใน  “The Lost Prince” พร้อมกัน 19 มีนาคม นี้ ในโรงภาพยนตร์