10 ข้อต้องรู้ก่อนจันทร์ถล่มโลก ประกาศเตือนก่อนถึงวันสุดท้ายของมนุษยชาติ ได้เวลาเผชิญหน้าหายนะของโลกพร้อมกัน “Moonfall วันวิบัติ จันทร์ถล่มโลก” 3 กุมภาพันธ์นี้

โพสต์เมื่อ: 26/01/2022

พร้อมรับมือกับมหาวิบัติครั้งใหญ่หรือยัง? เมื่อดวงจันทร์พุ่งเข้าใกล้และครั้งนี้มันเตรียมถล่มโลก พบกับการเผชิญหน้ากับวันล่มสลายของมนุษยชาติในภาพยนตร์แอ็กชั่น มหันตภัยฟอร์มยักษ์ “MOONFALL วันวิบัติจันทร์ถล่มโลก” ผลงานของ โรแลนด์ เอ็มเมอริช (ID4, The Day After Tomorrow และ 2012) ที่กลับมาทวงบัลลังก์ความยิ่งใหญ่ กับการสร้างสรรค์ผลงานเรื่องล่าสุดที่จัดเต็มความมันส์ ทะลุขีดจำกัดความระทึกไปกับสงครามวันโลกาวินาศ กับภารกิจทีมมนุษย์อวกาศที่ถูกส่งไปกู้วิกฤติหลังจากที่ดวงจันทร์เปลี่ยนวิถีโคจรพุ่งตรงมายังโลก และจะทำลายล้างทุกชีวิต นำแสดงโดย ฮัลลี เบอร์รี , แพทริก วิลสัน และ จอห์น แบรดลีย์ เสริมทีมด้วยนักแสดงมากฝีมือ โดนัลด์ ซูเธอร์แลนด์ (The Hunger Games) , ไมเคิล เพ็นย่า (Ant-Man) และ ชาร์ลี พลัมเมอร์ (All the Money in the World) และก่อนที่จะไปร่วมสัมผัสประสบการณ์แห่งความมันส์ เราขอรวบรวมเกร็ดสำคัญ เพื่อเพิ่มดีกรีความน่าสนใจของภาพยนตร์ก่อนจะได้ชมกันเต็มๆบนจอ

1. Moonfall เป็นผลงานการกับของ โรแลนด์ เอมเมอริช เจ้าพ่อหนัง มหันตภัย ที่เคยระเบิดความมันส์ทั้งวงการมาแล้วใน Independence Day และ 2012 การกลับมาครั้งนี้จัดเต็มความอลังการ ด้วยทุนสร้างมโหฬารถึง 140 ล้านเหรียญสหรัฐ

2. โรแลนด์ เอมเมอริช เผยว่าตัวเขาเองเป็นคนที่หลงไหลในทฤษฏีสมคบคิดแม้ว่าตัวเขาจะไม่เชื่อมันก็ตาม เขาใช้มันเป็นไอเดีย เป็นจุดเริ่มต้นของผลงานก่อนหน้าของเขาหลายๆ เรื่อง เขาเคยทำหนังเรื่องIndependence Day ที่ต่อยอดจากตำนานลึกลับของ Area 51

3. 7 ปีก่อน เอมเมอริชได้อ่านเกี่ยวกับทฤษฏี Hollow Moon ว่าด้วยแท้จริงแล้วดวงจันทร์ เป็นสิ่งปลูกสร้างขนาดยักษ์ ภายในกลวง ทำให้เขาจินตนาการออกว่า “ทฤษฏีนี้มันอาจต่อยอดไปเป็นสิ่งที่อาจจะทำลายเผ่าพันธ์มนุษย์เลยก็เป็นได้ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าดวงจันทร์หลุดวงโคจรและตรงมาที่โลก ในขณะเดียวกันมันเปิดด้านที่เราไม่เคยรู้เกียวกับดวงจันทร์ด้วย ผมคิดว่านั่นเป็นไอเดียที่น่าสนใจ เหมาะกับการเอามาทำหนัง”

4. NASA พร้อมให้ความช่วยเหลือโปรเจกต์นี้ตั้งแต่ขั้นแรกๆ โดยได้อนุญาตให้ทีมงานใช้โลโก้ NASA ซึ่งเป็นการยกระดับความสมจริงให้หนัง รวมทั้งมอบภาพถ่ายดวงจันทร์ความละเอียดสูง จากกล้องนาซ่าบนอวกาศคุณภาพระดับท็อป

5. ทีมงานได้รับอนุญาตจาก NASA ให้ถ่ายทำในกระสวยอวกาศของจริง ที่นักบินอวกาศเคยใช้ โดยได้อดีตนักบินอวกาศ บียาร์นี ทริกาฟสัน คอยแนะนำวิธีการใช้อุปกรณ์ต่างๆ บนกระสวย ภาษาที่มนุษย์อวกาศตัวจริงใช้สื่อสารกันจริงๆ และการเคลื่อนที่ในสภาวะไร้แรงโน้มถ่วงที่ใช้แค่การผลักเบาๆ ก็เคลื่อนที่ในแนวราบได้ไปไกลหลายเมตร

6. ในภาพยนตร์เต็มไปด้วยฉากใหญ่ที่น่าตื่นเต้น เช่น ฉากโกลาหลของผู้คนกว่าพันคน แย่งกันตุนอาการ, เชื้อเพลิง, น้ำ ,อ็อกซิเจน และนำเสนอฉากภัยธรรมชาติอย่าง แผ่นดินไหวที่รุนแรงขนาดส่งให้รถบรรทุกขนาด 18 ล้อ ปลิวเหมือนขนนก, แผ่นดินแยก, คลื่นยักษ์สูงเท่าตึกระฟ้า และพายุหิมะเยือกแข็ง เหมือนนำทุกเรื่องในจักรวาลโลกาวินาศของเอ็มเมอริช มายกระดับความมันส์ขึ้นอีกขั้น

7. การร่วมงานกับครั้งที่สองของโรแลนด์ เอมเมอริช และปีเตอร์ เทรเวอร์ส ผู้รับผิดชอบด้านเทคนิกพิเศษด้านภาพของ Moonfall ซึ่งมีผลงานระดับพลิกวงการมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Hollow Man, Lord of the Rings: The Two Towers, The Matrix Reloaded, Watchmen, Captain America: The Winter Soldier และ Guardians of the Galaxy

8. ทีมงานจำลองสภาวะไร้น้ำหนักที่นักแสดงต้องทำงานด้วยวิธีดั้งเดิม คือการใช้ระบบรอกที่ทำให้สามารถเคลื่อนที่ได้ในแนวราบ และแนวตั้ง ยิ่งไปกว่านั้นคือสองนักแสดงนำคุ้นเคยกับการแสดงในสภาวะไร้น้ำหนักเป็นอย่างดี “ผมเคยฝึกสตั๊นท์ในภาวะไร้แรงโน้มถ่วงอยู่ห้าเดือนตอนเล่น Aquaman ผมรู้ว่าการต้องลอยอยู่เฉยๆ ควรทำยังไง มันยากกว่าที่คุณคิดนะ” – วิลสันกล่าว

9. ฮัลลี่ เบอร์รี่ นักแสดงสาวพูดถึงการแสดงในฉากสภาวะไร้น้ำหนักว่า “เล่นกับสภาวะไร้แรงโน้มถ่วงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับฉัน ฉันเคยเล่นเป็นนักบินอวกาศในซีรีย์โทรทัศน์อยู่สองปี ฉันเคยขึ้นเที่ยวบินไร้แรงโน้มถ่วงมาแล้ว มันสนุกมาก เรียกว่าฉันเกือบจะเข้าขั้นเชี่ยวชาญด้านการลอยตัวเลยก็ว่าได้”

10. แท้จริงแล้วด้วยความที่ดวงจันทร์มีมวลน้อยกว่าโลก 1:100 ทำให้มันอาจแทบจะไม่เกิดอะไรขึ้นเลยด้วยซ้ำ แม้ว่าดวงจันทร์จะสัมผัสกับผิวโลกก็ตาม ทางทีมเอฟเฟ็กต์ต้องการเพิ่มความอลังการด้านภาพ เพิ่มมวลมหาศาลให้ดวงจันทร์เพื่อเพิ่มแรงดึงดูดที่กระทำต่อโลก ซึ่งมวลดังกล่าวมีผลในด้านพล็อตเรื่อง และเป็นสาเหตุที่ทำให้ดวงจันทร์เปลี่ยนวงโคจรตรงมาที่โลก