“รักเธอเสมอ เดอะมิวสิคัล” ที่สุด..ละครเวทีแห่งปีจาก 30 บทเพลงรักของ “ดี้” นิติพงษ์ ห่อนาค

อินเด็กซ์ ครีเอทีฟวิลเลจ จำกัด (มหาชน) บริษัท อีเว้นท์อันดับ 8 ของโลก พร้อมสร้างสรรค์ละครเวทีฟอร์มยักษ์แห่งปี “รักเธอเสมอ เดอะมิวสิคัล” ละครเวทีแนว Romantic Drama ที่ผสมผสานระหว่างละครเวทีและเพลงไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืน โดยคัดสรรบทเพลงรักที่เป็น“ที่สุด”บนเส้นทางการเขียนเพลงตลอด 30 ปีของ “ดี้” นิติพงษ์ ห่อนาค นำมาถ่ายทอดเป็นเรื่องราวความรัก..สุดโรแมนติก ที่สามารถเรียงร้อยอารมณ์ และจินตนาการของผู้ชม ให้ร้องตามและอิ่มเอมไปกับบทเพลงรักที่แสนประทับใจราวกับดูคอนเสิร์ตตลอดทั้งเรื่อง

 

แถลงข่าวอย่างเป็นทางการ โดยพิธีกรสุดแซ่บ เจ๊แหม่ม (คุณวินัย สุขแสวง) จากคลื่นวิทยุกรีนเวฟ 106.5 เปิดตัวผู้อำนวยการผลิตและสร้างสรรค์คือ คุณเกรียงกานต์ กาญจนะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมบมจ.อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ ที่ออกมาทักทายแขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชนด้วยอารมณ์สนุกสนาน ไปพร้อมๆกับการแนะนำประวัติและผลงานของบริษัทที่ผ่านมา ก่อนที่จะพาไปเจาะลึกเบื้องหลังคนทีมงานของละครเวที “รักเธอเสมอ เดอะมิวสิคัล” ที่ได้ คุณฐานวดี สถิตยุทธการ มาร่วมเขียนบทที่เตรียมการณ์ไว้ตั้งแต่ 2 ปีที่ผ่านมา แนะนำครูบิ๊ก ดำเกิง ฐิตะปิยะศักดิ์ ผู้กำกับการแสด, คุณเอกพงศ์ เชิดธรรม (เอก Crescendo) Music Director และ คุณศุภลักษ์ สุวัตถิ (D63) Managing Director ก่อนพาไปชม Show พิเศษ “รักเธอเสมอ เดอะมิวสิคัล” จากนักแสดงนำทั้ง 5 คือ กอล์ฟ พิชญะ นิธิไพศาลกุล, พัด พัดชา เอนกอายุวัฒน์, บี พีระพัฒน์ เถรว่อง, ป่าน VieTrio (อุทัยศรี ศรีณรงค์) และ แหวน ฐิติมา สุตสุนทร ที่นำบทเพลงของ “ดี้” นิติพงษ์ ห่อนาค ไม่ว่าจะเป็นเพลง แพ้ใจ (ป่าน VieTrio), สัญญาต้องเป็นสัญญา (กอล์ฟ-พัดชา), ก้อนหินกับนาฬิกา (บี พีระพัฒน์), รักเธอเสมอ (พัดชา-กอล์ฟ-ป่าน-บี-แหวน) ออกดวลเพลงต่อเพลง ปะทะบทต่อบทกันได้อย่างสุดซึ้งกินใจ จนทำให้เจ้าของบทเพลงอย่าง “ดี้” นิติพงษ์ ยอมรับว่า “น้ำตาซึม” กันทีเดียว

  

“รักเธอเสมอ เดอะมิวสิเคิล” เกิดขึ้น ณ เมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา และ ประเทศไทย ถ่ายทอดบทเพลงผ่านบทบาทการแสดงของซูปเปอร์สตาร์ 5 นักแสดงนำที่คุณจะประทับใจคือ กอล์ฟ พิชญะ นิธิไพศาลกุล บท “กานต์” ผู้กำกับหนุ่มไฟแรง หล่อ เท่ห์ มาดเซอร์ รักใครรักจริง ภายนอกดูเป็นคนแข็ง แต่จริงแล้วเป็นหนุ่มโรแมนติก พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ได้อยู่กับคนที่ตัวเองรัก, พัด พัดชา เอนกอายุวัฒน์ บท“ณัชชา”หญิงสาวที่มีรักมั่นคง คบหากับกานต์มาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย และต้องการที่จะใช้ชีวิตอยู่กับคนที่เธอรัก, บี พีระพัฒน์ เถรว่อง บท “แทนไท” หนุ่มเจ้าของร้านอาหารไทยในเมืองนิวยอร์ค ฐานะดี มีน้ำใจ มองโลกในแง่ดี เขาหลงรักณัชชาลูกสาวของวิภา, ป่าน VieTrio (อุทัยศรี ศรีณรงค์) บท“น้ำ”ดาราสาว สวย น่ารัก สดใส เพิ่งเข้าสู่วงการบันเทิง เธอมีโอกาสได้ร่วมงานกับกานต์ จึงทำให้เธอหลงรักเขาในที่สุด และ แหวน ฐิติมา สุตสุนทร บท “วิภา” แม่ของณัชชา แม่ครัวประจำในร้านอาหารของแทนไท ด้วยความรักลูกหวังดีกับลูก อยากให้ลูกมีชีวิตที่ดี แต่งงานกับคนที่ดีและเพียบพร้อม จึงพยายามจับคู่ให้ณัชชากับแทนไท สำหรับ “ดี้” นิติพงษ์ ห่อนาค ได้เปิดใจเล่าถึงความรู้สึกครั้งนี้ว่า “…ความจริงแล้วคนที่คิดโปรเจคนี้ก็คือคุณหมอก เกรียงกานต์ กาญจนะโภคิน ส่วนพี่แต่งเพลงเสร็จแล้ว เสร็จเลย ไม่เคยคิดว่าจะเอามาทำโปรเจคแบบนี้ได้ ซึ่งตอนแต่งเพลงนั้นก็ไม่ได้คิดว่าเพราะอะไรมากมาย แต่พอได้มาฟังจริงๆแล้ว ก็อดขนลุกไม่ได้ ..การวัดเรตติ้งเราจะวัดจากจำนวนขนลุกทุกๆ 5 นาทีแสดงว่าซึ้งมากสำหรับชื่อเพลงนี้ “รักเธอเสมอ” ผมจะไม่แนะนำให้นำไปร้องในงานแต่งงานนะ เพราะเป็นเพลงที่พูดถึงคนที่รักกันแต่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน เป็นเพลงที่ไม่สมหวัง แต่ยังไงก็ยังรักเธอ จะนำมาใช้พูดกับคนรักที่อยู่ด้วยกันมันไม่ได้ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ตอนจบมันก็คงจะเดาได้ว่าจะจบแบบไหน ซึ่งนอกจากนั้น “อินเด็กซ์” เค้าก็จัดเต็ม ปล่อยของเต็มที่ไม่ต้องกลัวผิดหวัง เดี๋ยวนี้เราวัดเรตติ้งความซึ้งกันที่จำนวนขนลุกถ้าขนลุกทุก 5 นาทีแสดงว่าใช้ได้…” ส่วน “กอล์ฟ” เล่าว่า เติบโตมากับเพลงของพี่ดี้ และชอบทุกเพลง ดีใจที่ได้มีโอกาสร่วมโปรเจคครั้งนี้ ส่วน “พัดชา” เล่าว่า ชอบเพลงพี่ดี้มาก โดยเฉพาะเพลง ปราสาททราย และ อีกหน่อยเธอคงเข้าใจ แต่เสียใจที่คนอื่นได้ร้อง 2 เพลงนี้ ส่วน “บี พีระพัฒน์” เล่าว่าครั้งนี้เป็นการแสดงครั้งที่ 2 ในชีวิต หลังจากเคยเล่นละครเมื่อสมัยป.4 ตอนมาซ้อมวันแรกสังเกตุเห็นพี่ดี้สนใจการซ้อมของเขาเป็นพิเศษ เพิ่งมารู้ที่หลังว่า บทนี้เขียนขึ้นจากชีวิตจริงของพี่ดี้ ก็ดีใจมากที่ได้มาเล่นบทนี้ แถมได้ติวเตอร์เป็นพี่ดี้ เรียกว่าตนโชคดีมากๆ นอกจากนี้ “แหวน ฐิติมา” ยังแอบปล่อยมุกว่า ดีใจมากที่ได้ร้องเพลงกับ“กอล์ฟ”เป็นครั้งแรก ในเพลง“อีกหน่อยเธอคงเข้าใจ” ส่วน “แมค วีรดนย์” ชอบเพลง “รักเธอเสมอ” มาก อยากให้ทุกคนไปชมกัน

  

รักเธอเสมอ เดอะมิวสิเคิล” นอกจากจะให้ฟังบทเพลงผ่านบทบาทการแสดงของนักร้องคุณภาพทั้ง 5 ท่านแล้ว ในส่วนงานโปรดักชั่นได้มีการเนรมิตรความยิ่งใหญ่อลังการของฉาก ให้เสมือนอยู่ในเหตุการณ์จริง โดยใช้สื่อมัลติมีเดียระดับ World Class พร้อมกับการทุ่มทุนสร้างฉากลานสเก็ตน้ำแข็งให้เกิดขึ้นบนเวทีการแสดง ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมเป็นครั้งแรกให้สมกับความเป็นที่สุดในการเนรมิตรละครเวทีฟอร์มยักษ์แห่งปี

 

รักเธอเสมอ เดอะมิวสิเคิล” เปิดจำหน่ายบัตรแล้ววันนี้ พิเศษสุดรอบ “Premiere Charity night” วันที่ 28 ตุลาคม 2554 โดยนำรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายมอบให้มูลนิธิ สงเคาระห์เด็กของสภากาชาดไทย โครงการหมู่บ้านเด็ก มูลนิธิสงเคาระห์เด็กของสภากาชาดไทย จังหวัด นครปฐม กำหนดการแสดงรอบปกติ เริ่มวันที่ 29 ตุลาคม – 6 พฤศจิกายน พศ. 2554 บัตรราคา 2,500, 2,300, 1,800, 1,500, 1,000 และ 500 บาท จัดแสดงที่ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย จำหน่ายบัตรโดย ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา โทร.02-262-3456 หรือ www.thaiticketmajor.com ผู้สนับสนุนหลักโดย บริษัทไทยประกันชีวิต จำกัด สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า เพียงแสดงบัตร THAILIFE CARD รับส่วนลดในการซื้อบัตรชมละครเวทีทันที 15% เฉพาะบัตร ราคา 2,500, 2,300, 1,800 และ 1,500 บาท (เพียง 500 ที่นั่งแรก) 1 สิทธิ์ ต่อ 2 ที่นั่ง

ที่มา:  รักเธอเสมอ เดอะมิวสิเคิล
บันทึกภาพ:  รักเธอเสมอ เดอะมิวสิเคิล
นำเสนอโดย www.starupdate.com หากนำข่าวไปใช้กรุณาอ้างอิงถึง www.starupdate.com ด้วย
ข่าวนี้อยู่ในหมวด PR Update, Special Update และ Tag: , , , , , , , , , ติดตาม comment ของข่าวนี้ผ่านทาง RSS feed
แสดงความเห็น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Sing.love & Dance เสร็จไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วกับ comeback concert ของ หนุ่ม บี พีระพัฒน์ ที่เกิดขึ้นที่ SearchStudio รามคำแหง 81 ที่การกลับมาขึ้นคอนเสิร์ตในครั้งนี้ได้กระแสตอบรับจากแฟนๆเป็นอย่างดี >>

“บี-พีระพัฒน์” ปล่อยซิงเกิ้ลใหม่ “แดดเที่ยงกลางทะเลทราย”ผลงานสุดภูมิใจ Mix ไกลถึงเกาหลี

เตรียมพบกับการรวมตัวครั้งพิเศษของเหล่าดิสโก้เมืองไทย บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์ -บี พีระพัฒน์ CRESCENDO >>

ครั้งแรกของ “บี – พีระพัฒน์” พร้อมรับมือความท้าทายใหม่ ดีไซน์เสียงร้องใส่บทเพลงสุดคลาสสิค ใน” “สุนทราภรณ์ เดอะมิวสิคัล อิน คอนเสิร์ต” >>

“บี พีระพัฒน์” ประกาศหยุดทำเพลง!! อกหัก ก่อนส่ง “ความทรมาน” เป็นการปิดท้าย >>