เรื่องย่อมรสุมสวาท

กุมาริกา หรือกวาง(เปรี้ยว-ทัศนียา) ลูกสาวคนรองของ บุรุษ(โอ๋-ฐาปกรณ์) อดีตข้าราชการระดับสูง ซึ่งหันไปจับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ กวางมีพี่น้องรวมห้าคน ได้แก่ วรเทวี(นินิว-กัญญารัตน์) พี่สาวคนโต ที่เกิดจากภรรยาเอกที่เสียชีวิตไปเช่นเดียวกับกวาง มานพ(วิคเตอร์-กฤชพล) น้องชายคนรองที่เกิดจากภรรยาเก็บซึ่งเลิกรากันไปแล้ว และเปี๊ยก(น้องพี-เสฐฐวุฒิ) กับแป้ง(น้องเฟรย่า-พิชชา) ลูกชายหญิงที่ถือกำเนิดจาก สะอาด(ปู-มัณฑนา) เมียคนล่าสุดที่เป็นคนใช้ในบ้านที่ทะเยอทะยานอยากเป็นคุณนายและไม่กินเส้นกับวรเทวี พี่น้องทุกคนของกวางมีนิสัยฟุ้งเฟ้อ กวางจึงมีหน้าที่คอยควบคุมค่าใช้จ่ายและดูแลน้องเล็กๆ บุคลิกร่าเริงของกวางเป็นที่ติดตาต้องใจ อัครพล(บิ๊ก-ณทรรศชัย) ลูกชายของ จิตรา(หมวย-สุภาภรณ์) เศรษฐีนีใหม่จอมตระหนี่ ที่มีบ้านอยู่ตรงข้ามกัน กวางกับอัครพลเข้ากันได้ดีเพราะต่างก็เป็นคนรักอิสระ

drama_sawat (12)

drama_sawat (16)

สยมภู (เวียร์-ศุกลวัฒน์) เป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะต้องเข้ามากอบกู้บริษัทแทนพ่อที่จบชีวิตลงด้วยไกปืน โดยที่ทุกคนคิดว่าภักดีทำไปเพราะบริษัทกำลังซวนเซ แต่สยมภูเป็นคนเดียวที่รู้ว่า พ่อฆ่าตัวตายเพราะเสียใจที่แม่ทิ้งเขากับพ่อหนีไปกับนักธุรกิจต่างชาติที่ร่ำรวย เหตุการณ์นี้ทำให้สยมภูกลายเป็นคนใจดำในเชิงธุรกิจ และเป็นเสือผู้หญิงที่ทำทุกอย่างเพราะต้องการแก้แค้นสิ่งที่แม่ทำกับเขาและพ่อ สยมภูเข้าไปในตึก รปภ. รีบส่งสัญญาณให้อัครพลรู้ อัครพลพากวางวิ่งหนี ความมืดทำให้ทั้งสองพลัดหลงกัน กวางวิ่งเข้าไปแอบในห้อง ซึ่งสยมภูพาสาวคู่ควงเข้าไปพลอดรักพอดี กวางทำเสียงดังรีบวิ่งหนี สยมภูไล่ตามจับกวางทัน อัครพลเอาไม้มาฟาดสยมภูล้มลง แล้วพากวางหนีออกไป สยมภูบาดเจ็บเข้าโรงพยาบาลกวางมาขอร้องสยมภูให้อภัยอัครพล สยมภูปฏิเสธ แถมว่ากวางเป็นเด็กใจแตก กวางโกรธมากด่าย้อนสยมภูก่อนกลับไปด้วยความแค้น สยมภูอยากเอาชนะกวางจึงปิดข่าวเรื่องที่เกิดขึ้นและไม่เอาเรื่องอัครพล ธุรกิจของบุรุษมีปัญหา บุรุษพบสยมภูโดยบังเอิญที่ธนาคารจึงขอความช่วยเหลือในฐานะเพื่อนของพ่อสยมภู บุรุษพาสยมภูมาดูบ้านของเขาที่ใช้ค้ำประกันเงินกู้ สยมภูได้พบกวางอีกครั้ง แต่สยมภูแกล้งทำเป็นไม่รู้จัก ขณะที่ในใจเตรียมแผนการแก้เผ็ดไว้แล้ว ทั้งคู่เจอกันที่งานเลี้ยงปะทะคารมกัน สยมภูขอจูบจากกวาง กวางตบหน้าสยมภู สยมภูจึงจับกวางประกบปาก หลังจากงานเลี้ยงข่าวการล้มละลายของบุรุษรั่วออกไป บุรุษหนีไปต่างจังหวัดเพื่อหลบเจ้าหนี้ ทิ้งให้ลูกเมียเผชิญโชคชะตาโดยลำพัง กวางสงสารพี่สาวที่ไม่มีเงินจัดงานแต่งจึงบากหน้าไปหาสยมภู สยมภูยอมให้เงินกวาง โดยกวางต้องคืนเงินในเวลา 1 เดือน กวางรับปากทั้งๆ ที่รู้ว่าทำไม่ได้ ครบ 1 เดือน สยมภูผิดหวังที่กวางไม่มาพบและขอร้องเขา      กวางเลี้ยงครอบครัวอย่างยากลำบากจากรายได้อันน้อยนิด ทำให้กวางต้องอดมื้อกินมื้อ สยมภูสั่งให้ทะนงระดมคนออกตามหากวาง จนพบว่ากวางทำงานใกล้ๆ ไซด์งานเขา สยมภูตัดสินใจสะกดรอยตามกวางกลับบ้าน และเมื่อพบว่ากวางเดินกลับบ้านแทนที่จะนั่งรถเมล์ และต้องไปพายเรือต่อเพราะบ้านอยู่กลางสวนลึก สยมภูสะท้อนใจและคิดจะช่วยเหลือกวาง สยมภูให้ทะนงประกาศรับสมัครพนังงานและส่งจดหมายไปบ้านกวาง กวางได้เข้าทำงานในบริษัท กวางรู้ว่าเจ้านายของกวางคือสยมภู กวางโกรธมาก ตัดสินใจลาออกแต่ก็ทำไม่ได้เพราะเปี๊ยกถูกรถชน ต้องใช้เงินค่ารักษาสูง กวางตัดสินใจทำงานต่อเพื่อปากท้องคนในครอบครัว สยมภูพากวางไปดูไซด์งานก่อสร้างทางภาคเหนือกับเขาสองต่อสอง เคราะห์ร้ายที่เสี่ยโอภาสศัตรูทางธุรกิจของสยมภู จ้างมือปืนมาดักยิงกลางทาง สยมภูขับรถหนีไปในป่าลึก พายุฝนตกหนักทำให้ทางขาด ทั้งคู่จึงหนีขึ้นเขาไป และได้อาศัยอยู่ที่หมู่บ้านธรรมชาติอันงดงามและจิตใจอ่อนโยนของชาวบ้านทำให้ทิฐิของกวางและสยมภูค่อยๆทลายลง สยมภูขอให้หัวหน้าหมู่บ้านทำพิธีแต่งงานให้เขากับกวางและตั้งใจจะสารภาพรักกับกวาง แต่อัครพลปรากฏตัวขึ้นซะก่อนและล้มป่วยเพ้อไม่ได้สติ กวางปรนนิบัติอัครพลอย่างห่วงใย ทำให้สยมภูช้ำใจเรียกทะนงมารับกลับ เมื่อทั้งหมดถึงกรุงเทพ กวางก็ถูกจิตราและปิยะธิดาขู่ว่าถ้าไม่ยอมออกไปจากชีวิตอัครพลจะเจอดี บ้านกวางถูกลอบวางเพลิง กวางโดดเข้าช่วยสะอาดจนบาดเจ็บ สยมภูได้หลักฐานว่าจิตราเป็นคนบงการเรื่องวางเพลิงบ้านกวาง สยมภูขอให้อัครพลเคลียร์ตัวเอง อัครพลยืนยันว่ารักกวาง สยมภูจึงบอกว่าเขากับกวางแต่งงานกันแล้ว ขอให้อัครพลยอมแพ้ อัครพลขอร้องให้กวางหนีไปอยู่เมืองนอกกับตน แต่กวางปฏิเสธ อัครพลแค้นมากจึงแก้ไขแบบแปลนตึกจนบริษัทสยมภูถูกฟ้องร้อง และส่งจดหมายขู่ฆ่าตัวตายเพื่อขอความเห็นใจจากกวาง กวางเกลี่ยกล่อมจนอัครพลทิ้งปืน ทั้งสองกอดกันปิยะธิดาตามมาเห็นก็เข้าใจผิดป่าวประกาศว่ากวางหนีสยมภูมาเป็นชู้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้กวางกับสยมภูมองหน้ากันไม่ติด สยมภูต้องแก้ไขปัญหาธุรกิจจึงทำงานอย่างหนัก ระวิวรรณใส่ร้ายว่ากวางเป็นคนขโมยข้อมูลไป สยมภูเจ็บปวดใจอย่างที่สุด และทะเลาะกันจนปลุกปล้ำกวางในคืนนั้น กวางน้อยใจการกระทำของสยมภูจึงหนีหน้า มานพทนไม่ได้ปริปากบอกความจริงให้กวางฟังว่า สยมภูคือคนที่ช่วยทำให้เขากลับตัวเป็นคนใหม่ เขาจึงได้ขอกวางแต่งงาน กวางฟังแล้วตื้นตันมาก เธอต้องการกลับไปขอโทษสยมภู แต่อัครพลกลับเข้ามาขอกวางแต่งงาน กวางปฏิเสธและสารภาพว่าเธอได้หลงรักสยมภู อัครพลโกรธจึงฉุดกวางหนีไป สยมภูตัดสินใจไปตามกวางคืนมา โดยไม่รู้ว่าตัวเองได้ถูกพวกของโอภาสสะกดรอยตามไป อัครพลพากวางหนีไปยังหมู่แห่งหนึ่งอย่างคนเสียสติ โดยอ้างว่าเพื่อลบอดีตกวางกับสยมภูให้หมด เขาบังคับให้หัวหน้าหมู่บ้านจัดงานแต่งงานให้เขา กวางเสียใจมากกับการกระทำของอัครพล จึงตัดสินใจจะโดดหน้าผาฆ่าตัวตายเพื่อจบปัญหาทุกอย่าง สยมภูมาถึงได้ยินที่กวางบอกว่าเธอรักสยมภูเพียงคนเดียวพอดี สมุนโอภาสที่ตามมาเห็นเหยื่ออยู่พร้อมหน้าก็ลั่นกระสุนทันที กระสุนถูกสยมภูล้มลง กวางเข้าเอาตัวบังสยมภูไว้ อัครพลเห็นภาพนั้นแล้วตระหนักว่าเขาไม่มีวันชนะใจกวางได้ จึงเข้าต่อสู้แลกชีวิตกับมือปืนจนถูกยิงตกหน้าผา แต่สยมภูกับกวางช่วยกันคว้าเอาไว้ ชาวบ้านมาถึงและจัดการกับมือปืนได้ แต่อัครพลไม่สามารถมีชีวิตอยู่อย่างพ่ายแพ้ได้ เขาดึงมือออกจากกวางและสยมภู ร่างลอยลิ่วลงสู่กระแสน้ำเบื้องล่างจบชีวิตในที่สุด

drama_sawat (23)

ระหว่างทางกลับกรุงเทพ กวางได้พบกับพ่อของเธอซึ่งหลบมาใช้ชีวิตอยู่ในหมู่บ้านบริเวณใกล้เคียง และมีลูกเล็กๆ กับสาวอีกคน บุรุษละอายใจจะหนีกวางไป แต่กวางขอร้องให้บุรุษกลับไปกับเธอเพื่อครอบครัวจะได้อยู่พร้อมหน้า วันทนีย์ตัดสินใจออกจากบ้านสยมภูเพื่อเริ่มชีวิตใหม่ ขณะที่ระวิวรรณสารภาพว่าเธอมีส่วนในการทำให้สยมภูแพ้ประมูล สยมภูให้อภัยและขอให้ระวิ วรรณอยู่กับเขาในฐานะเพื่อนรักต่อไป ปิยะธิดาย้ายกลับไปอยู่ต่างประเทศกับครอบครัว จิตราเพิ่งสำนึกว่าคนที่ทำให้อัครพลตายคือตนเองจึงหันหน้าเข้าทางธรรม

…เมื่อมรสุมพัดผ่าน ท้องฟ้าก็กลับแจ่มใสอีกครั้ง เหมือนกับชีวิตรักของ “กวาง” และ “สยมภู”…

ที่มา:  ฝ่ายประชาสัมพันธ์
บันทึกภาพ:  ฝ่ายประชาสัมพันธ์
นำเสนอโดย www.starupdate.com หากนำข่าวไปใช้กรุณาอ้างอิงถึง www.starupdate.com ด้วย
ข่าวนี้อยู่ในหมวด TV and Drama Update และ Tag: ติดตาม comment ของข่าวนี้ผ่านทาง RSS feed
Trackbacks are closed, but you can post a comment.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“เวียร์” ร้อนวิชา! ขอเป็นตากล้องสมัครเล่น ใน “มรสุมสวาท”