ก้าวข้ามอุปสรรคตามแบบฉบับ ‘เมยหลิน’ จาก Disney and Pixar’s Turning Red เขินแรงแดงเป็นแพนด้า

ยินดีต้อนรับเข้าสู่เรื่องราวการเติบโตของสาวน้อยสุดแสบซ่าแห่งเมืองโทรอนโตหอคอยสูงเฉียดฟ้าที่สุดในโลก Disney and Pixar’s Turning Red แอนิเมชันเรื่องใหม่ล่าสุดจากดิสนีย์และพิกซาร์ โดยนักสร้างหนังแอนิเมชันชาวแคนาดาเชื้อสายจีน “โดมี ฉี (Domee Shi)” ผู้คว้ารางวัลออสการ์จากการ์ตูนสั้น “Bao” มารับหน้าที่กำกับเป็นครั้งแรก พร้อมพาทุกคนออกไปโลดแล่นผจญเรื่องราวสุดป่วน ชวนให้รำลึกถึงช่วงเวลาของวัยรุ่นอันหอมหวาน เสพกลิ่นอายในยุค 90 ไปด้วยกันกับเมยหลิน สาวน้อยที่ดูผิวเผินเหมือนเป็นเด็กขี้อาย แสนเรียบร้อยแต่ความจริงแล้วเธอเป็นเด็กจี๊ดสุดแสบ เปี่ยมล้นไปด้วยความมั่นใจในตัวเองเต็มพิกัด ทว่าดันพบเจอเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันกลับกลายร่างเป็นแพนด้าแดง อันเป็นจุดเริ่มต้นของบทเรียนครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเธอ

เมื่อการเติบโตเป็นสิ่งที่เราทุกคนต่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และแน่นอนว่าทุกการเติบโตนั้นมักทำให้เราต้องทิ้งบางสิ่งไว้ข้างหลังเสมอ ซึ่งอาจจะรวมถึงการทิ้งตัวเองที่แสนดื้อดึง มาเป็นการรู้จักเรียนรู้และเข้าใจโลกให้มากขึ้น มองมุมกว้างเพื่อตระหนักถึงเหตุผลในทุกการกระทำ สิ่งที่เราไม่ชอบและขัดใจ เพราะชีวิตคนเราต่างต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากและต้องก้าวผ่านไปให้ได้ หากแต่ประสบการณ์ที่สั่งสมนั้นล้วนมีผลต่อการตัดสินใจเลือกวิธีรับมือกับปัญหาต่าง ๆ วิธีการก็แตกต่างกันไปตามเรื่องที่เราประสบในช่วงอายุและประสบการณ์ที่มี ณ ตอนนั้น

เราในวัยเด็ก สิ่งที่คิดว่ายากในวัยนั้นก็กลับกลายเป็นเรื่องขำขัน สามารถนำมาบอกเล่าต่อในวัยที่โตขึ้นมาจากการที่ข้ามผ่านเรื่องนั้น ๆ มาได้แล้ว ซึ่งในทุกสถานการณ์นั้นสำคัญที่สุดคือความเชื่อมั่นและยึดมั่นในตัวเอง ไม่มีปาฏิหาริย์ใด ๆ จะล้ำค่าไปกว่าการได้ลงมือทำจนผ่านพ้นทุกสิ่งไปได้ เฉกเช่นความกล้าหาญของตัวเมยหลิน พร้อมด้วยแรงซัพพอร์ตจากทุกคนที่คอยอยู่เคียงข้างเธอ

3 สิ่งสำคัญที่ทำให้ เมยหลิน สาวน้อยวัยว้าวุ่นผ่านพ้นบทพิสูจน์ของช่วงชีวิตไปได้

เด็กสาววัยย่าง 13 ปีที่กำลังอยู่ในช่วงบานสะพรั่งทั้งความคิด การกระทำ ที่พร้อมออกเผชิญโลกกว้างยืนหยัดด้วยตัวเอง ดังประโยคที่ว่า “เด็กทุกคนมีเฉดสีในแบบของตัวเอง ไม่ใช่ว่าเด็กเป็นผ้าขาวที่คอยรอแต้มสีใส่เพียงอย่างเดียว” แต่กว่าจะมีเฉดสีของตนเองอย่างเป็นรูปเป็นร่างได้นั้น ย่อมจะขาดกำลังใจสำคัญและแรงซัพพอร์ตไปไม่ได้เลย

• ครอบครัว : แรงซัพพอร์ตที่เป็นด่านแรกของชีวิตที่ส่งพลังมหึมาอย่างยิ่งใหญ่ที่สุด พร้อมพาออกเดินไปสู่ลู่ทางตามความสำเร็จที่ปูไว้ให้ แต่กลับแฝงไปด้วยความกดดันอันท่วมท้น เมยหลินเองที่ถูกแม่ของเธอวางแนวทางอย่างเข้มงวดให้ปฏิบัติตามทั้งการเรียน ทั้งภาระหน้าที่ที่ส่งต่อกันมาในครอบครัว ไปจนถึงชีวิตส่วนตัว จนลืมนึกถึงความสุขที่แท้จริงของลูกไป แต่ท้ายที่สุดต่างคนก็ต่างก็กลับมาทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน พร้อมกับมอบอิสระต่อตัวลูกอย่างเมยหลิน
• เพื่อนรัก : แอ็บบี้ มีเรียม และปรียา คือคนสำคัญที่ทำให้เมยหลินตระหนักและเชื่อมั่นในตัวเอง เพื่อให้เธอได้เป็นคนในแบบที่เธออยากเป็น เพราะไม่ว่าจะเติบโตกลายเป็นคนแบบไหน พวกเขาก็จะอยู่เคียงข้างเธอเสมอปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เพื่อนคือตัวแปรสำคัญในชีวิตก้าวต่อมา เพราะเมื่อเราต้องเติบโตขึ้นไม่ว่าจะในช่วงวัยไหน ๆ จะวัยเรียนหรือเข้าสู่วัยทำงานแล้ว ก็ยังคงต้องการเพื่อนเป็นแรงซัพพอร์ตทั้งกายและใจด้วย เมยหลินเอง ที่ต่อให้รูปลักษณ์ภายนอกจะเปลี่ยนไปอย่างไร แต่แก๊งเพื่อนรักอย่าง แอ็บบี้ มีเรียม และปรียา ก็ยังคงยืนหยัดที่จะอยู่เคียงข้างและรักเธอเช่นเดิม
• ศิลปินสร้างแรงบันดาลใจ : วง 4TOWN คือหนึ่งในกำลังใจอันล้ำค่าของเมยหลิน เธอไม่เคยคิดย่อท้อต่อการไล่ล่าตามความฝันที่จะได้เจอบอยแบนด์อันเป็นที่รัก ทำให้เธอต้องขะมักเขม้นหาหนทางในการพัฒนาตัวเองทุกรูปแบบเพื่อมุ่งมั่นทำตามความฝันในสิ่งที่ชอบให้สำเร็จ ศิลปินคนโปรดเปรียบเสมือนที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของ
  เมยหลิน และผองเพื่อนของเธอในวัยนี้ที่ได้ใช้เวลาร่วมกันทำสิ่งสนุกสนานมากมาย ซึ่งคนที่มีศิลปินที่รักในดวงใจ ก็คงจะเข้าใจเมยหลินและผองเพื่อนได้ดีเลยทีเดียว

เมยหลินก็เป็นเสมือนตัวแทนของเด็กคนหนึ่ง ที่วันหนึ่งอาจต้องตื่นขึ้นมาเจอแพนด้าแดงในกระจก เจอการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตแบบไม่ทันตั้งตัว แต่ก็มีพลังใจจากคนรอบข้าง ลุกขึ้นมาเผชิญหน้าฝ่าฟันอุปสรรคนั้น ๆ ให้ลุล่วงไปได้ มาเอาใจช่วยเมยหลิน ให้ฟันฝ่าอุปสรรคสุดอลเวงครั้งนี้ไปได้ใน Disney and Pixar’s Turning Red เขินแรงแดงเป็นแพนด้า สตรีม 11 มีนาคมนี้ บน Disney+ Hotstar3