บทสัมภาษณ์ “ออมสิน ผู้ให้เสียงให้ชีวิต สนิมน้อย จาก ยักษ์”

“สนิมน้อย” หุ่นกระป๋องเด็กสดใสน่ารักเพื่อนซี้ของเผือกและน้าเขียว

อีกหนึ่งตัวการ์ตูนที่ทุกคนต้องหลงรักจากภาพยนตร์แอนิเมชั่น “ยักษ์”

ให้เสียงให้ชีวิตโดยน้องออมสิน – ด.ญ.ชนินาภ ศิริสวัสดิ์

Q.ก่อนอื่นแนะนำตัวกันก่อนดีกว่านะ

O. สวัสดีค่ะ หนูชื่อเด็กหญิงชนินาถ ศิริสวัสดิ์ค่ะ ชื่อเล่นว่าออมสิน พากย์เสียงเป็น “สนิม” ในแอนิเมชั่นยักษ์ เป็นตัวน้องสนิมน้อยค่ะ ก่อนหน้านี้ก็เคยมีผลงานภาพยนตร์มาก่อนค่ะก็เคยเล่นเรื่องบุญชูเก้าค่ะ และก็หนังเทิดพระเกียรติอีกหลายๆ เรื่องค่ะ ส่วนละครก็มีเรื่องอุบัติรักเกาะสวรรค์ค่ะ แล้วก็ละครเทิดพระเกียรติ ตามรอยพ่อค่ะ มีร้องเพลงคอนเสิร์ตกว่ายี่สิบปีทุ่งแสงตะวัน สำหรับแอนิมชั่นเรื่องยักษ์งานนี้เป็นงานพากย์เสียงครั้งแรกค่ะ

Q.คิดว่าเสน่ห์ของแอนิเมชั่นอยู่ที่ตรงไหนอย่างไร

O. แอนิเมชั่นในความคิดของหนูก็คือมันจะใส่จินตนาการได้เยอะกว่าปกติ เพราะว่าถ้าสมมติเป็นละครอะไรแบบนี้คือเอาคนมาเล่นเลยก็จะเห็นอยู่ทุกวันก็จะไม่ได้จินตนาการอะไรเลย ส่วนอย่างเป็นแอนิเมชั่นเด็กเขาก็เหมือนรู้สึกว่าเขาได้จินตนาการไปด้วยอย่างเรื่องนี้นะค่ะเป็นเรื่องแอนิเมชั่นที่เป็นหุ่นยนต์มันทำให้เราใส่จินตนาการได้เต็มที่ เราดูไปเราสามารถจินตนาการได้มากกว่าในกรอบที่เราใช้อยู่ปกติทุกวัน

Q.มีโอกาสได้เข้ามาให้เสียงให้ชีวิตตัวละครสำคัญในภาพยนตร์แอนิเมชั่นยักษ์อย่างน้องสนิมน้อย แล้วเป็นการพากย์ครั้งแรกด้วยรู้สึกยังไงบ้าง

O. ตื่นเต้นค่ะ และก็สนุก และก็บางทีก็มีเกร็งๆ บ้าง เพราะว่าเป็นงานแรกกลัวจะทำได้ไม่ดีค่ะ ก็เลยพยายามตั้งใจทำให้ดีที่สุดค่ะ

Q.แล้วเป็นไงมาไงถึงได้เข้ามาเป็นน้องสนิมได้

O. คือพี่ต้อง (พัลลภ สินธุ์เจริญ) ติดต่อไปทางหนูนะค่ะเหมือนกับว่าเห็นมาจากหนังเรื่องบุญชูเก้าค่ะที่หนูรับบทเป็นกระแต เห็นบุคลิกหรืออะไรต่างๆ ก็เลยลองเรียกมาเทสต์พากย์เสียงดูค่ะ

Q.ทราบมาว่าตอนแรกที่เราเข้ามาพากย์ไม่ได้อายุเท่านี้ใช่ไหม

O. (หัวเราะ) ตอนที่เข้ามาพากย์ครั้งแรกสุดเลยเรียนอยู่ชั้น ป.2 ค่ะอายุประมาณ 7-8 ปีค่ะ ส่วนตอนนี้ปัจจุบันอยู่ ม.1 อายุ 13 ค่ะ ซึ่งก็นานมากๆ เลยประมาณห้าหกปีค่ะ

Q.เห็นบอกว่าตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้ให้เสียงพากย์ให้ชีวิตตัวน้องสนิมน้อย

O. ตื่นเต้นทุกครั้งค่ะที่ทำงาน คือมาพากย์เราก็ตื่นเต้นเพราะเหมือนกับทุกครั้งที่เรามาพากย์ใหม่ก็เหมือนเราได้ทำอะไรใหม่ๆ ค่ะ ยังไงก็ตื่นเต้นและดีใจค่ะ

Q.งั้นลองเล่าให้ฟังหน่อยว่าต้องคาแรคเตอร์ของน้องสนิมน้อยที่เป็นหุ่นกระป๋องเด็กเป็นอย่างไร

O. บุคลิกของสนิมก็คือจะเป็นหุ่นกระป๋องเด็ก คือในเรื่องแอนิเมชั่นยักษ์ทุกตัวก็จะเป็นหุ่นหมดเลยแล้วแต่ว่าใครจะเป็นหุ่นอะไร ส่วนสนิมจะเป็นหุ่นกระป๋องค่ะก็คือเป็นหุ่นที่ตัวเล็กมากๆ เลย ถ้าเป็นคนก็น่าจะเป็นเด็กผู้หญิงประมาณหกเจ็ดขวบค่ะ และก็ที่ชื่อสนิมก็เพราะว่าตัวของสนิมเองก็คือจะเป็นเด็กที่คล้ายกับเป็นหวัดตลอดเวลาค่ะ เพียงแต่พอเป็นหุ่นยนต์แทนที่จะเป็นหวัดก็จะเป็นสนิมแทน แล้วก็จะมีน้ำมูกสนิมไหลออกมาตลอดเวลาและก็ตัวก็จะเต็มไปด้วยสนิมหมดเลย สนิมตัวเขาจะเป็นสีชมพูตรงไหนที่มีสีอยู่ก็จะเป็นสีชมพูค่ะ แล้วที่เหลือก็จะเป็นสีสนิมน้ำตาล ส่วนบุคลิกนิสัย สนิมเป็นเด็กผู้หญิงที่ไม่หวานเจี๊ยบค่ะ เป็นผู้หญิงที่แก่นๆ กระโต๊กกระต๊ากเสียงดังเจี๊ยวจ๊าวแสบๆ แก่นๆ และก็ไม่ค่อยฟังใครค่ะ ดื้อซนๆ ส่วนเสน่ห์ก็คือจริงๆ ถ้าสนิมไม่ได้เป็นสนิม จะมีเพื่อนเยอะมากเพราะว่าสนิมเองเป็นเด็กที่มีจิตใจดีค่ะแล้วก็แบบรักเพื่อน ถ้าเกิดได้ดูหนังเรื่องนี้จะรู้เลยว่าสนิมรักเพื่อนมากในหลายๆ ตอน สนิมจะคอยรักษามิตรภาพกับเพื่อนไว้ค่ะ โดยที่เขาไม่ห่วงตัวเอง สนิมจะมีเพื่อนเป็นหุ่น2ตัวก็คือ ยักษ์กับเผือก ซึ่งทั้งคู่จะเป็นหุ่นที่ตัวเขาเป็นโลหะพิเศษที่แบบสนิมจามใส่ก็จะไม่เป็นสนิม เพราะทุกทีเวลาสนิมจามใส่ใครหุ่นตัวนั้นก็จะเป็นสนิมทันที ทั้งคู่ก็เลยยอมเป็นเพื่อนกับสนิม และกลายมาเป็นเพื่อนสองคนแรก สนิมก็จะรักทั้งคู่มากๆ เลย เพราะที่ผ่านมาสนิมพยายามจะหาเพื่อนมาตลอดชีวิตแต่ก็ไม่เคยมีเพราะด้วยโรคประจำตัวของสนิมนั่นเอง

Q.เห็นเป็นหุ่นกระป๋องอย่างนี้น้องสนิมก็มีภารกิจหน้าที่รับผิดชอบด้วย

O. สนิมเป็นหุ่นที่เป็นเด็กอยู่นะคะแต่ก็ทำงานไปด้วยก็คือเป็นผู้ช่วยของกุมภกรรณ ที่เป็นหัวหน้าคณะขายของเร่ก็คือจะเอาปืนไปขายเร่ตามที่ต่างๆ ไปพร้อมกับการแสดงโชว์ ซึ่งตัวสนิมเองเป็นทั้งลูกมือและ1ในผู้แสดงโชว์ด้วย จริงๆ ตัวสนิมเองก็จะมีความสามารถพิเศษหลายๆ ด้านอย่างเช่น การซ่อมปืนค่ะ ที่ต้องทำงานก็เพื่อหวังจะเก็บตังค์มาซ่อมแซมรักษาตัวเองที่ชอบจามเหมือนภูมิแพ้ แต่หลายๆ ครั้งสนิมก็ทำให้งานพังเพราะจามใส่ลูกค้าจนเป็นสนิม แล้วกุมภกรรณก็จะโกรธมากๆ จนบางทีก็ไม่ยอมจ่ายเงินค่าแรงให้สนิมเลยยังต้องทำงานอยู่อย่างนี้

Q.ความยากง่ายของการให้เสียงให้ชีวิตแอนิเมชั่นยักษ์

O. การพากย์นะคะเหมือนเป็นการแสดงละครเลยแต่ไม่เอาภาพค่ะ เราต้องมีการแสดงท่าทางและก็ต้องมีการพูดโดยใช้ความรู้สึกค่ะ ก็คือเหมือนเราแสดงจริงๆ เลยออกท่าทางจริงๆ เลย เวลาจะดึงก็ดึงจริง จะผลักก็ผลักจริงๆ เลยค่ะ ก็เหมือนการแสดงแต่ไม่เอาภาพเอาเสียงค่ะ ส่วนความยากในการพากย์ก็คือมันยากมาก ก็คือเหมือนบางเรื่องค่ะที่เรายังไม่เคยได้เจอด้วยตัวเอง เราก็อาจจะยังไม่ถึงความรู้สึกนั้นๆ แต่ตัวละครค่ะอารมณ์จะต้องเค้นอารมณ์จะต้องถึงให้มันรู้สึกกับอารมณ์นั้นๆ จริงๆ ค่ะ และก็พวกคำอุทานค่ะมันเป็นคำที่พยายาม โอ๊ะ อ๊ะ เอ๊ะ อะไรอย่างนี้ค่ะ มันก็เลยจะทำให้ไม่ค่อยตรงค่ะ และก็เป็นประโยคพูดยาวๆ บางทีเราก็พูดไม่ตรง บางทีเราก็พูดตรง แต่ไม่มีอารมณ์ เวลามีอารมณ์เราก็พูดไม่ตรงยังงี้ค่ะ ก็เลยค่อนข้างยาก ค่ะพี่ต้อง (พัลลภ สินธุ์เจริญ ผู้ควบคุมการพากย์) จะคอยช่วยอยู่ตรงด้านหน้าค่ะ จะคอยแบบต่อบทให้ค่ะเพื่อที่จะเหมือนส่งอารมณ์ถึงกันค่ะก็เลยจะพูดได้ฟีลมากขึ้นค่ะ ก็จะคอยช่วยและก็บางทีจะให้หนูพากย์แล้วใส่อารมณ์ด้วยตัวเองให้ได้ หรือปรับแปลงบทพูดเพื่อให้เข้ากับปากตัวละคร ซึ่งตัวละครเป็นหุ่นยนต์อ่านปากจะยากหน่อยก็เลยทำให้อาจจะมีติดขัดนิดหน่อยก็เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้มา เข้าห้องอัดและก็อัดเป็นจริงเป็นจังมากขนาดนี้ ก็สนุกดีค่ะ

Q.มีฉากในแอนิเมชั่นเรื่องยักษ์ที่เรารู้สึกประทับใจเป็นพิเศษไหม

O. ฉากที่ชอบเป็นพิเศษนะค่ะก็จะมีอยู่ฉากหนึ่งค่ะที่กุมกรรณไปเร่ขายของ และก็มีการแสดงโชว์ กุมภกรรณก็จะร้องเพลงแนะนำตัวเขา เราก็ร้องเพลงแนะนำตัวเรา ซึ่งหนูชอบร้องเพลงอยู่แล้วค่ะ ก็เลยรู้สึกว่าฉากนี้สนุกไปด้วยค่ะ และก็จะมีหลายๆ ฉากค่ะที่เวลาที่ตัวละครที่น้าเขียวกับพี่เผือกเล่นมุกกันไปกันมาแล้วเวลาเราฟังแล้วเราจะรู้สึกสนุกและก็ประทับใจค่ะ จริงๆ แล้วถ้าเกิดจะพูดจริงๆ แล้วประทับทุกฉากเลยค่ะ และก็ที่ประทับใจก็คือตอนที่สนิมยอมที่จะฝ่าฝืนคำสั่งของกุมภกรรณค่ะหนีไปช่วยพี่เผือก และก็แสดงให้เห็นว่า สนิมละทิ้งหน้าที่ก็จริงแต่เขาทำไปเพื่อมิตรภาพค่ะ ซึ่งถ้าเด็กๆ ได้ดูเขาน่าจะมีอะไรที่ทำให้เขาคิดได้มากขึ้นค่ะ ซึ่งหนูก็เป็นเด็กคนหนึ่งที่ได้ดูก็ได้รู้สึกประทับใจค่ะ ส่วนฉากที่ยากสำหรับหนูคือฉากตะโกนค่ะ คือเอาตอนเด็กๆ ก่อนนะคะ คือถ้าฉากยากคือฉากร้องไห้ถึงเราร้องไห้จริงๆ เลยนะค่ะแต่บางทีเสียงของเรามันฟังแล้วมันก็ไม่เหมือนร้องไห้เราก็จะต้องเค้นอารมณ์มากกว่าปกติคือมากกว่าใชีวิตประจำวันนิดหน่อยค่ะถ้าตอนโตมาคือตอนที่ปัจจุบันค่ะก็คือจะยากตรงที่ตะโกนเพราะว่าถ้าตะโกนแล้วเราใช้เสียงสูงมากๆ เสียงก็จะแตก พอใช้เสียงต่ำมากๆ เสียงมันก็จะดูเป็นสาวเกินไปค่ะ มันก็เลยจะมีปัญหาคิดว่ายาก

Q.เห็นบอกว่าในระหว่างการพากย์ถึงกับรู้สึกอินไปกับตัวน้องสนิมด้วย

O. ก็คือก็ไม่รู้ว่าคนอื่นรู้สึกหรือเปล่านะคะ แต่หนูว่าถ้าดูก็น่าจะรู้สึกนะเราจะรู้สึกเหมือนกับว่าถึงหนูพากย์เองยืนพากย์อยู่อย่างนี้ ฉากไหนที่ลุ้นนี่โอ้โหตัวโก่งเลย มันไม่ใช่การ์ตูนที่แบบดำเนินเรื่องเรียบๆ ง่ายๆ ทั้งเรื่อง แต่มันคือมันแฝงอารมณ์หรืออะไรบางอย่างที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนเราได้เข้าไปอยู่ในการ์ตูนนั้นจริงๆ เลยอย่าง เช่น เวลาที่การแข่งกับเวลาคือตอนที่เพื่อนที่กำลังจะช่วยชีวิตเราคือเราจะลุ้นไปด้วยจะห่วงเขาไปด้วย คือพูดง่ายๆ เลยเหมือนกับเราเป็นสนิมจริงๆ เลยค่ะทำให้เหมือนให้มีความรู้สึกเหมือนอยู่ในการ์ตูนเรื่องนั้นจริงๆ เลยค่ะ

Q.ในมุมมองของออมสินคิดว่าภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องยักษ์มีความสนุกสนานอย่างไร

O. ภาพยนตร์เรื่องนี้นะคะ อย่างแรกเลยแอนิเมชั่นค่ะ ตัวละครก็คือปราณีตกันมากค่ะ แก้กันหลายครั้งพยายามจะทำมันออกมาให้ดีที่สุดค่ะ เพราะฉะนั้นเรื่องภาพไม่ต้องเป็นห่วงสุดยอดมากค่ะ และก็ทีมพากย์ทุกคนด้วยค่ะ รับรองฟังแล้วไม่ผิดหวังว่าจะใส่อารมณ์อะไรเข้าไปเต็มที่ ส่วนเรื่องนี้นะคะจะมีจุดเด่นตรงที่ว่าอาจจะแฝงข้อคิดอะไรดีๆ เห็นเด่นชัดเลยก็คือเรื่องมิตรภาพ และก็หน้าที่และก็อะไรอีกหลายๆ อย่างที่ต้องให้เราเลือก ซึ่งทุกคนดูเรื่องนี้ก็จะรู้เลยค่ะว่าตัวเองจะต้องเลือกอะไรจะต้องเลือกยังไงกับมิตรภาพค่ะ

Q.เสน่ห์ของตัวการ์ตูนแต่ละตัวในแอนิเมชั่น ยักษ์

O. ในความคิดของหนู ในตัวละครทุกตัวในเรื่องยักษ์นะคะ ก็จะมีเสน่ห์ทุกตัวไม่ว่าจะเป็นฝ่ายร้ายหรือฝ่ายดีอย่างตัวสนิมน้อยคิดว่าใครดูก็จะต้องรักสนิมกันทุกคน เพราะว่าบุคลิกที่น่ารักสดใสก็ความรักเพื่อนรักมิตรภาพก็คือ สนิมจะยอมทำทุกอย่างเพื่อเพื่อนของตัวเองค่ะ และก็เรื่องทศกัณฐ์กับหนุมานนะค่ะ ถึงจะเป็นตัวละครที่มาจากตัวละครดั้งเดิมนะคะก็ยังไม่เคยมีใครเห็นอะไรแบบนี้ยังไม่เคยมีใครเห็นในรูปแบบนี้ เขาจะเป็นตัวละครที่มีความเกี่ยวข้องกันเป็นเพื่อนค่ะ ซึ่งตัวละครมีเสน่ห์ทุกตัวรวมทั้งกุมภกรรณค่ะ ก็จะมีเรื่องความจงรักภักดี ความแน่วแน่ค่ะ ซึ่งสามารถทำให้คนดูทุกคนชอบแน่นอนหรือแม้แต่นก สดายุก็จะน่ารักขำๆ ค่ะ

Q.ถ้าพูดถึง “ยักษ์” จะนึกถึงอะไร

O. ถ้าได้ยินคำว่ายักษ์ สิ่งแรกที่คิดถึงก็คงจะคิดถึงตัวอะไรก็ได้ที่รูปร่างเหมือนคนหรือรูปร่างคล้ายๆ ลิงคล้ายๆ สัตว์อะไรต่างๆ ที่ตัวสูงๆ อ้วนๆ และก็หน้าตาใจดีๆ หน่อยหรือไม่ก็หน้าตาดุไปเลย ก็ถ้าเป็นยักษ์ใจดีก็จะเป็นยักษ์ที่ชอบเล่นกับเด็กที่มีความเป็นเด็กในตัวเยอะๆ ถ้าเกิดเป็นยักษ์ดุก็จะเอาแต่ใจตัวเองมีเขี้ยวและก็คิ้วดกๆ ค่ะ ส่วนยักษ์ตัวแรกที่รู้จักก็น่าจะเป็นยักษ์จากตอนที่ไปไหว้พระกับคุณแม่ค่ะก็คือเห็นยักษ์วัดแจ้งค่ะที่ตัวสูงๆ ถือกระบอง หน้าตาน่ากลัวๆและก็รู้จักจากการดูหนังเรื่อง THE HULK ค่ะ ซึ่งเป็นยักษ์เขียวตัวอ้วนๆ สูงๆ เลยค่ะก็ไปรู้จักมาจากเรื่องนั้นค่ะ

Q.ถ้าต้องให้เลือกระหว่างมิตรภาพกับหน้าที่จะเลือกอะไร

O. เลือกมิตรภาพค่ะ เพราะว่าหน้าที่มันก็ควรควบคู่ไปกับความถูกต้องค่ะ ซึ่งเราก็ควรที่จะรู้ว่าหน้าที่มันถูกหรือหน้าที่ไหนมันไม่ถูก ซึ่งถ้าเรานำมิตรภาพที่ดีเป็นหลักเกณฑ์นะคะ หนูเชื่อว่าเราก็ต้องทำถูกอยู่แล้วค่ะ แต่พูดจริงๆ แล้วหน้าที่ก็สำคัญ มิตรภาพก็สำคัญค่ะ ซึ่งหนูว่าทุกคนในโลกมีหลักสัจธรรมแบบในเรื่องหนูว่าก็น่าจะดีค่ะ

Q.แล้วคิดว่าศัตรูจะเปลี่ยนมาเป็นเพื่อนกันได้ไหม

O. ศัตรูจะเปลี่ยนมาเป็นมิตรกันได้ไหม ได้ค่ะ ได้แน่นอนเลยค่ะ ถ้าเกิดทั้งสองฝ่ายปรับความเข้าใจกันและก็ไม่เอาแต่ทะเลาะและก็ใช้กำลังกันค่ะ เผลอๆบางทีอาจจะเป็นเพื่อนที่สนิทกันที่สุดเลยก็ได้ เพราะว่าจากการที่เราทะเลาะกันทำให้เราเห็นบุคลิกนิสัย และก็ความคิดต่างๆ ของศัตรูของเราค่ะ ซึ่งถ้าเกิดเราลองคบกันเป็นเพื่อนเราก็จะรู้อะไรหลายๆ อย่างจากศัตรูคนนั้นค่ะ

Q.ฝากผลงานกับผู้ชมหน่อย

O. ก็การ์ตูนเรื่องนี้นะค่ะ สร้างจากความตั้งใจของหลายๆ คน ซึ่งหนูก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ได้ร่วมสร้างสรรค์ขึ้นมาคืออยู่เป็นหนึ่งในผู้พากย์นะค่ะ ซึ่งมีลุงหนุ่มสันติสุข เสนาหอย, พี่เหมี่ยว ปวันรัตน์, พี่ตั๊ก บริบูรณ์, พี่แจ๊ป เดอะริชแมนทอย, พี่โน้ต อุดม ฯลฯ และก็มีอีกหลายๆ คนเลยค่ะ ที่ช่วยกันร่วมสร้างหนังเรื่องนี้ขึ้นมา ซึ่งใช้เวลานานมากๆ เลยค่ะ ก็อย่างที่บอกไปแล้วว่าจากหนูประมาณ ป.1 ป.2 ตอนนี้มาอยู่ ม.1 แล้วค่ะ ซึ่งใช้เวลาประมาณหกเจ็ดปีเลยแปลว่ามันเป็นหนังที่ยิ่งใหญ่อลังการ และที่สำคัญหนังเรื่องนี้นะค่ะกำกับโดยพี่จิก ประภาสนะคะ ซึ่งเป็นผู้กำกับที่เก่งมากๆ และก็เป็นผู้ใหญ่ใจดีซึ่งเป็นผู้คิดผู้เขียนเป็นผู้แต่งที่ซึ่งทำให้หนังเรื่องนี้สุดยอดขนาดนี้ค่ะ และก็รู้สึกดีใจและก็ภูมิใจที่ได้มาเป็นหนึ่งในผู้สร้างหนังเรื่องนี้ ได้เป็นผู้ที่ทำหนังเรื่องนะค่ะ ซึ่งอยากให้ทุกคนเห็นความตั้งใจของเราก็มาดูหนังเรื่องนี้กันเยอะๆ ค่ะ รับรองดูยังไงก็ไม่ผิดหวังค่ะ

ที่มา:  สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล
บันทึกภาพ:  สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล
นำเสนอโดย www.starupdate.com หากนำข่าวไปใช้กรุณาอ้างอิงถึง www.starupdate.com ด้วย
ข่าวนี้อยู่ในหมวด Movie Update และ Tag: , , , , , , , , , , , , , , , , ติดตาม comment ของข่าวนี้ผ่านทาง RSS feed
Trackbacks are closed, but you can post a comment.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“จีจ้า ญาณิน” ซิ่งสองล้อโชว์บู้สนั่นในภาพยนตร์ “จั๊กกะแหล๋น” สนุกแน่ที่ทรูโฟร์ยู ช่อง 24 >>

“สหมงคลฟิล์ม – มงคลเมเจอร์ – มงคลซีนีม่า” เปิดไลน์อัปกองทัพหนัง 2565 “ปีเสือสุดมาก” มันส์มาก อินมาก หวีดมาก ป่วนมาก เกรียนมาก ฟินมาก จัดเต็มครบทุกรส สุดทุกฟีล ให้ผู้ชมได้สนุกในโรงภาพยนตร์

มงคลเมเจอร์ – มงคลซีนีม่า ส่งหนังดัง หนังเด่น หนังรีวิวเยี่ยม ต้อนรับเปิดโรงภาพยนตร์จัดเต็ม โรแมนติก ดราม่า แอ็กชัน หลอน มังงะ ครบทุกรส อัดแน่นตลอดเดือนตุลาคมในโรงภาพยนตร์เท่านั้น

“หนุ่ม-สันติสุข” นำทีมความฮาจัดเต็มความสนุกใน “รักล้นแผง”

“ชูศรี” ดวลมุก “โหน-นาย”ประชันความฮาใน “รักล้นแผง”