“บุ๋ม” ไม่น้อยใจ “เอก” ไร้ของขวัญ ฟุ้ง..วันเกิดขอตระเวนทำบุญ

ทำเอายิ้มแก้มปริกันเลยทีเดียวเมื่อ “คุณภัทธิรา ปาลวัฒน์วิไชย” กรรมการผู้อำนวยการสายงานสถานีโทรทัศน์ ช่อง 2 มอบเค้กอวยพรวันเกิด “บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” พิธีกรรายการ “ดาราวาไรตี้โพล” ทาง “ช่อง 2” บันเทิง..ถึงรส ถึงคุณ โดยมี “คุณเกียรติคุณ” ผู้ช่วยผู้อำนวยการสายงานสถานีโทรทัศน์ ช่อง 2 และ “กิ๊ฟ-วรรธนะ” เป็นตัวแทนทีมงาน ร่วมแสดงความยินดี ซึ่งงานนี้เจ้าตัวเผยความรู้สึกว่า

(ว่าที่) สามีให้อะไรเป็นของขวัญวันเกิดปีนี้ ?

“ไม่รู้ ไม่มีมั้ง (หัวเราะ) ยังไม่ได้คุยกันเลย คงกินข้างธรรมดา ข้างๆ ถนน(หัวเราะ) เป็นคนชอบเดินตลาด เป็นคนที่ง่ายมาก แต่คนเขาจะหาว่าเราไฮโซ (หัวเราะ) อันนั้นคิดกันไปเอง ตัวจริงโก๊ะจะตาย”

ของขวัญชิ้นใหญ่ในวันเกิด ?

“อยากผ่อนบ้านให้หมด ให้ลูก ลูกสำคัญที่สุดมีค่าที่สุด”

ให้ของขวัญวันเกิดตัวเองด้วยการทำบุญ ?

“ส่วนใหญ่แล้วจะไปตามโรงเรียนต่างๆ ไปทำบุญโรงเรียนที่เราเคยสร้างไว้บ้าง โรงเรียนที่เราทำบุญอยู่แล้วบ้าง แต่ปีนี้เนื่องจากว่าแฟนคลับอีกลุ่มหนึ่งเขาบอกว่าไปต่างจังหวัดบ่อยเหลือเกิน บางคนไปไม่ได้ เลยขอเป็นในกรุงเทพ บุ๋มเกิดในช่วงวันเด็กพอดี 10 มกราคม วันเสาร์ที่ 2 ของเดือนก็จะอยู่ในช่วงนี้พอดี แต่ปีนี้มันตรงกับวันเด็กพอดี บุ๋มก็เลยเป็นเจ้าภาพเลี้ยงวันเกิดให้กับชุมชนต่างๆ 9 โมงเช้าก็เป็นที่แฟลตคลองจั่น 10 โมงที่บ้านนกขมิ้น ตอนบ่ายก็จะเป็นกองทัพอากาศ แล้วตอนเย็นก็เป็นของรามอินทรา 109 ซึ่งแต่ละชุมชนเขาก็เตรียมแฮปปี้เบิร์ดเดย์กับบุ๋ม แล้วก็จะมีแฟนคลับมาด้วย บุ๋มรู้สึกว่าวันเกิดถ้าเรามัวแต่ไปจัดงานหรูหรา แพงๆ แต่ยังมีคนจนๆ อีกตั้งเยอะตั้งแยะ กับเงินไม่เท่าไหร่ที่เขาจะได้กินเค้ก กินขนมกับเรา ร้องเพลงให้เรามันหายากกว่า”

ต้องการความสุขทางใจมากกว่า ?

“ใช่ บุ๋มว่าวันเกิดไม่ควรมีความสุขคนเดียว บางคนเลือกที่จะไม่มีความสุขคนเดียวด้วยการจัดปาร์ตี้แล้วมีเพื่อนๆ มา แต่บุ๋มเลือกที่จะแบ่งความสุขโดยการที่แบ่งเค้กไปให้น้องๆ ที่เขาไม่มีโอกาส ให้เขาได้มีความสุข เพราะเด็กบางคนไม่มีพ่อ ไม่มีแม่ ไม่เคยได้รับการจัดงานวันเกิดเลย”

ทำแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว ?

“10 ปีแล้วมั้ง เพราะบุ๋มทำงานสังคมมาเยอะ เราเลยรู้สึกว่าชีวิตมันสั้น ไม่รู้หรอกว่าเราจะเป็นดาราอีกกี่ปี รู้แค่ว่า ณ วันนี้เราทำดีพอรึยังที่จะให้คนอื่นพูดว่าคุณเป็นคนดี ที่ผ่านมาบุ๋มโดนข่าวหนักๆ เยอะ โนคนมองร้ายๆ ก็เยอะแต่การที่จะทำให้คนมองว่าเราเป็นคนดีได้มันพูดไปก็เท่านั้น สู้เราพิสูจน์ตัวเองสบายใจกว่า สักวันหนึ่งก็หวังว่าจะมีคนเห็นบ้างว่าเราทำจริงไม่จริง เราให้กับคนที่ด้อยโอกาส อย่างบุ๋มเองก็ประสบความสำเร็จทุกวันนี้ได้เพราะการศึกษาที่พ่อแม่ให้ ก็เลยมีไปให้ทุนการศึกษา ให้เด็กๆ ได้มีรอยยิ้มบ้าง เรารู้สึกว่าการแบ่งความรู้สึกตรงนี้มันทำให้ตัวเรามีคุณค่ามากขึ้น”

อุปการะเด็ก ?

“ตอนนี้จบปริญญาโทไปแล้วคนหนึ่ง เป็นครู แต่เป็นกะเหรี่ยงนะ แต่เป็นครูเป็นอนาคตของประเทศไปแล้ว เราก็สบายใจแล้ว นี่ก็เพิ่งรับเพิ่มมาอีกคนหนึ่งที่สุพรรณ อันนี้เขาอยากเรียนหมอ อันนี้เขาชัดเจนว่าอยากเรียนอะไร บางคนยังมัธยมอยู่เลย แล้วก็มีหลายคนที่เราส่งเงินเป็นรายปีไป อันนั้นเป็นของศุภนิมิตที่เขาจะจัดสรรไป คือเรายังมีแรงให้ได้ เราก็ให้ แล้วทุกครั้งที่เราเห็นเด็กประสบความสำเร็จ บุ๋มจะขอบคุณคนที่ให้งานบุ๋ม ขอบคุณที่ส่งงานให้บุ๋ม ให้บุ๋มได้มีพลังพอที่จะไปแบ่งปันคนอื่น”

มีโอกาสเจอน้องๆ เหล่านั้นไหม ?

“ตลอดค่ะ บางทีก็ส่งตั๋วไปให้เขามาหา เราเลี้ยงเหมือนลูก”

ไม่ค่อยนึกถึงตัวเอง ?

“อือ…ลืมนึก(หัวเราะ) บางทีเลขาถามอยากได้อะไรไหมวันเกิด นึกไม่ออกจริงๆ ส่วนใหญ่จะมองว่าคนที่เรารักมีความสุขรึยัง พ่อแม่มีความสุขรึยัง บุ๋มได้ของขวัญให้ตัวเองแล้ว ปริญญาเอก แฮปปี้แล้วไม่รู้จะต้องการอะไรอีก”

ทำดี แต่คนมองสร้างภาพ ?

“บุ๋มโชคดีที่บุ๋มได้เป็นศิษย์ท่าน ว. ท่านพูดว่าเอาความดังมาสร้างความดี ใครจะว่าสร้างภาพก็ปล่อยเขาไป เพราะภาพดีๆ มีอะดีแล้ว ช่วยสังคมมันดี สร้างภาพแล้วดีสร้างไปเถอะ อยากจะดูแต่ข่าวเสียๆ ของดาราหรือยังไง ดาราทำดีมันทนไม่ได้เหรอ(ยิ้ม) ท่านบอกว่าไม่เป็นไร เรารู้ตัวว่าเราเป็นคนดี คิดดี พูดดี”

ไม่เคยท้อเลย ?

“จะพูดแบบนั้นก็คงไม่ใช่ มีท้อบ้าง อย่างเรื่องที่บุ๋มออกมมรต่อสู้เรื่องกฎหมายข่มขืน บุ๋มรู้สึกว่าเราแค่เป็นดาราคนหนึ่งอยากทำอะไรดีๆ บ้าง เราเป็นแม่ของลูกสาว แค่รณรงค์เปลี่ยนกฎหมายแล้วฉันก็กลับมาเป็นดาราเหมือนเดิม ทำไมต้องออกมาด่ากันขนาดนี้ เราไม่เข้าใจไง เราก็เลยได้เข้าใจว่าสังคมมันเป็นแบบนี้ ทำอะไรก็ไม่ทำ แต่พอเห็นคนอื่นทำต้องมาด่า”

ณ วันนี้กฏหมายเปลี่ยนแล้ว เราชนะ ?

“เราชนะตัวเองมากกว่า เพราะถ้าวันนี้บุ๋มท้อแล้วถอย มันก็จบ มันเหมือนชนะตัวเองว่าเราได้ทำอะไรสำเร็จเพื่อประเทศชาติอย่างหนึ่งแล้ว”

ของขวัญชิ้นใหญ่ในวันเกิด ?

“อยากผ่อนบ้านให้หมด ให้ลูก ลูกสำคัญที่สุดมีค่าที่สุด”