เตรียมปลดปล่อยความกล้ากับ บททดสอบของชีวิตวัยรุ่นในภาพยนตร์ “เกรียนฟิคชั่น”

โพสต์เมื่อ: 22/03/2013

 ถ้าใจ มันพีคถึงจุด

ถ้าฮอร์โมน มันสูบฉีดพลุ่งพล่าน

ถ้าใจมันกล้า ไม่เคยมีคำว่ากลัว

ถึงเวลาปลดปล่อยมันออกมา

ต้องมีสักครั้ง ที่ใครๆก็อยากทำอะไรที่ทุกคนต้องชาบู

 สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล

และ สตูดิโอคำม่วน

เตรียมปลดปล่อยความกล้ากับ บททดสอบของชีวิตวัยรุ่นในภาพยนตร์

 

  

กับ 4 หนุ่ม ที่จะมาเป็นตัวแทนความเมพ ของปี 2013

เฟียต,เจเจ, แจ๊ค และ ปลื้ม

ในฐานะตัวแทนของวัยรุ่นไทยยุคนี้

พร้อมนักแสดง อาร์ตตัวกลั่น

ตั๊ก บริบูรณ์ , กิ๊บซี่ เกิร์ลลี่ เบอร์รี่,

โบ้ท เดอะเยอร์ส และ ป๋อมแป๋ม เทยเที่ยวไทย

ผลงานภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของ

ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล เกรียนตัวพ่อ

18 เมษายนนี้ 

 

 

แนวภาพยนตร์                           วัยรุ่น/คอมิดี้/โรแมนติก

ประกาศเกรียน                           18 เมษายน 2556

ผู้สร้างและจัดจำหน่าย                  สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล

บริษัทดำเนินงานสร้าง                   สตูดิโอ คำม่วน

อำนวยการสร้าง                          สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ

ควบคุมงานสร้าง                         จาตุศม เตชะรัตนประเสริฐ

ประสานงานสร้าง                        กนกพร บุญธรรมเจริญ

กำกับภาพยนตร์                         ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล

กำกับภาพ                                ชูเกียรติ ณรงฤทธิ์

ออกแบบงานสร้าง                       สฤษดิ์ นูมหันต์

กำกับศิลป์                                  พัชร เลิศไกร

ลำดับภาพ                                 ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล/จิรศักดิ์ จักรวาฬ

ฟิล์มแลบส์                                 กันตนา แล็บบอราทอรี่

บันทึกเสียง                                ห้องบันทึกเสียงกันตนา
ออกแบบเครื่องแต่งกาย                  เอกศิษฐ์ มีประเสิรฐกุล

บทภาพยนตร์                             ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล/ นิวรุจ ฑีฆะโภวรรณ

ดนตรีประกอบและออกแบบเสียง       พัทธมน พงศ์ชัยประเสริฐ

ตัวแทนความเกรียน                      พัทธดนย์ จันทร์เงิน/ กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม/ ปุริม รัตนเรืองวัฒนา

กิตติศักดิ์ ปฐมบูรณา/ลักษณ์นารา เปี้ยทา/วนิดา เติมธนาภรณ์

บริบูรณ์ จันทร์เรือง/ นิธิศ วารายานนท์/ นิติ ชัยชิตาทร

  

 

สิ่งที่สำคัญที่สุดของชีวิตวัยรุ่น เพื่อน  เพศตรงข้าม

อะไรห่ามๆที่ทำแล้วคนอื่นจะสนใจ

และสิ่งสุดท้ายที่นึกได้เมื่อสายเสมอ คือ การสอบ

 

เมื่อเด็ก ม.ต้น 4 คน เริ่มทำอะไรสนุกๆ ด้วยการถ่ายคลิปแล้วโพสตามกระแส Social Media ใน Youtube  “เกรียนฟิคชั่น” จึงกลายเป็นช่องฮิต ติดอันดับ Top 5 ของนักเรียนทั้งโรงเรียน  ทำให้ แก๊งเกรียน(ฟิคชั่น) อันประกอบด้วย ตี๋(พันธดนย์ จันทร์เงิน), โอ๊ต(กฤษณภูมิ  พิบูลสงคราม), ม่อน(ปุริม รัตนเรืองวัฒนา) และโมน(กิตติศักดิ์ ปฐมบูรณา)  เจ้าของรายการกลายเป็นคนสำคัญขึ้นมาทันที แต่พวกเขาก็รักษาสถานะ “Win” อยู่ได้ไม่นาน

เรื่องของเรื่องเกิดเมื่อ ตี๋ เกิด จับผลัดจับผลูได้ไปเป็นพระเอกละครเวทีประจำปี พร้อมกับเมฆดำแห่งความซวยครั้งใหญ่ของโรงเรียนได้ถือกำเนิดขึ้น อันนำความหายนะสุดพีคมาสู่ พลอยดาว (ลักษณ์นารา เปี้ยทา)หญิงตัวท๊อปดาวโรงเรียนที่ใครๆต่างหมายปอง จนเธออับอายหายไปจากโรงเรียนนานนับสัปดาห์  ถึงขั้นที่แก๊งเกรียนต้องถูกเนรเทศอัปเปหิออกจากชมรมและเกิดรอยช้ำดวงใหญ่ในใจของตี๋ โดยเฉพาะกับ อ.แดงต้อย (ป๋อมแป๋ม เทยเที่ยวไทย)ที่โกรธหัวฟัด จนถึงขั้นปรี๊ดแตกและมองพวกเกรียนเป็นเหมือนฝันร้ายของโรงเรียน

ถึงคราวที่พวกเขาต้องหาทางกู้ความมั่นใจ จาก กาก ให้กลายมาเป็น แก๊งเกรียน สุดเท่ที่ใครๆก็อยากมากระทืบ Like ไม่ใช่กระทืบไล่ และตาม Follow กันอีกครั้ง จน Ranking ค่อยๆไต่ระดับ สะสม Item สู่ระดับเมพ ขิงๆ โดยได้รับความช่วยเหลือจากรุ่นพี่และ อ.เสน่ห์ (ตั๊ก บริบูรณ์)อาจารย์สุดเนิร์ดที่ไม่รู้ว่าจะมาคอยช่วยหรือมาหลอกจีบ ทิพย์(กิ๊บซี่ เกิร์ลลี่ เบอร์รี่)พี่สาวของตี๋  ที่ตอนนี้เธอเองดันไปมีแฟนหนุ่มคนใหม่ เขตต์ (โบ้ท เดอะเยอร์ส) จนไม่สนใจน้องชาย

ใครว่าชีวิตวัยรุ่นมันจะง่ายดายขนาดน๊าน ทั้งจีบหญิง ง้อสาว แกล้งเพื่อน หวงพี่ แถมสอบปลายภาคที่ใกล้เข้ามาทุกที แก๊งเกรียน จะกลายเป็นแก๊งกาก หรือไม่ เอาใจช่วยพวกเข้าเหล่านี้ได้ใน เกรียน ฟิคชั่น

 

 

PLAYER

About             ตี๋ Tee+06232

Basic info       เกรียนเขียนบท ฉายา “เกรียนNoob”

Profile            พันธดนย์ จันทร์เงิน (เฟียต)

Follow           @Fiat_pattdon

Ranking          ***

Talk about       อย่าให้ความอายเสนอหน้า

เอามันมาชาบูความเกรียน

ลักษณะพิเศษ : เตี้ย สั้น แต่ไอเดียแจ่ม

 

About         โอ๊ต Oat06129

Basic info    ผู้เกรียนกับ  ฉายา “เกรียนเฟี้ยว”

Profile        กฤษณภูมิ  พิบูลสงคราม (เจเจ)

Follow        @Jaylerr

Ranking      ****

Talk about   เช้า Line สาย Ment  เย็น Up ค่ำปล่อย Bot

ลักษณะพิเศษ : ยาว ขาว ตาตี่ หล่อดูดี มี Options

 

About             ม่อน m’on06212

Basic info       เกรียนนำแสดง  ฉายา “เกรียนเมพ”

Profile            ปุริม  รัตนเรืองวัฒนา (ปลื้ม)

Follow            @Pluem_purim

Ranking          *****+++

Talk about       โลกนี้ไม่มีอะไรที่เด็กไทยทำไม่ได้

(ยกเว้นการบ้าน) (- -“)

ลักษณะพิเศษ : แสบ ป่วน เกรียน กาม แต่ก็แอบน่ารัก

 

About             โมน  mone06318

Basic info        เกรียนสมทบ ตัวประกอบในหนังสั้น

ฉายา                “เกรียนจ๊อก”

Profile            กิตติศักดิ์ ปฐมบูรณา (แจ๊ค)

Follow            @Jackkez

Ranking          *****

Talk about       ชิล์ลๆ ง่ายๆ เออใช่ ได้เลย ไม่เคยขัด

ลักษณะพิเศษ : เข้ม ซ่อนหล่อ แสบเซอร์ แต่สาวให้เบอร์ทุกที

 

 พลอยดาว

สวย เพอร์เฟค เกิดมาเพื่อเป็นซุป’ตาร์เท่านั้น

สาวสวยดาวประจำโรงเรียน มากความสามารถ เรียน เต้น แสดง ร้อง เธอทำได้อย่างเพอร์เฟคหมดทุกอย่าง จึงเป็นที่หมายปองของนักเรียนชาย แต่กลับถูกเพื่อนนักเรียนหญิงหมั่นไส้ ทำให้พลอยดาวไม่ค่อยมีเพื่อน มีความฝันอยากเป็นนักร้อง และนักแสดง

 รับบทโดย ลักษณ์นารา เปี้ยทา (มิว)

ผลงานที่ผ่านมา ละครโทรทัศน์เรื่อง วนาลี, รักนี้หัวใจมีครีบ

มิวสิกวิดีโอเพลง ไกลแค่ไหนคือใกล้ (Getsunova)

 

 AND

ก้อย

แฟนคลับแก๊งเกรียน ตามติดชีวิตเกรียนทุกสถานการณ์

 สาวตัวเล็กที่ปลื้มความเกรียน ของบรรดาเหล่าแก๊งเกรียน

จนช่วงมัธยมปลายก้อยจึงได้เข้ามาอยู่ร่วมแก๊งเดียวกัน เป็นคนรักเพื่อนแบบสุดๆ

พยายามหาทางช่วยตี๋ให้สมหวังความรักกับพลอยดาว โดยเป็นที่ปรึกษาและแนะนำทุกวิธีการจีบให้กับตี๋

รับบทโดย เจนจิรา จำเนียรศรี(เจน)

ผลงานที่ผ่านมา ภาพยนตร์เรื่อง ฝัน/หวาน/อาย/จูบ ,

  หลุด4หลุด ตอน ฮู อา กง, เด็กสาว

 

ทิพย์

พี่สาวคนสวย เสน่ห์แรง ไม่มีใครเกิน

พี่สาวตี๋ ทั้งสวยและมีเสน่ห์จนคนรอบข้างหลงใหลและพยายามเข้าหาตี๋

โดยหวังจะใกล้ชิดกับพี่สาวเขา แต่ทิพย์ก็มักจะผิดหวังกับความรักเสมอ

จนเมื่อทิพย์ได้พบกับเขตต์ หนุ่มไฮโซ และคิดจะฝากชีวิตไว้กับผู้ชายคนนี้

แล้วก็ต้องมีปัญหากับตี๋ เพราะตี๋ไม่ชอบที่เขตต์เป็นหนุ่มเพลย์บอย

 รับบทโดย วนิดา เติมธนาภรณ์ (กิ๊บซี่) 

ผลงานที่ผ่านมา ละครโทรทัศน์: วัยร้ายไฮสคูล, มงกุฏดอกส้ม, ดอกส้มสีทอง, กากับหงส์ ฯลฯ

ผลงานโฆษณา: ยามาฮ่า, 12พลัส, Benice, Nestea ฯลฯ

 ภาพยนตร์: คลับซ่าปิดตำราแสบ, นางไม้, แฟนเก่า, สมอลล์รูกูแนว เป็นต้น

 

เขตต์

หนุ่มไฮโซ หล่อ และรวย ซิ่งรถสปอร์ต

 หนุ่มหล่อไฮโซ บ้านรวย รักใครรักจริงเพียงแต่ยังไม่กล้าจะผูกมัด เป็นแฟนกับทิพย์

แต่ไม่ค่อยจะลงรอยกับน้องชายของทิพย์เท่าไหร่นัก แต่ก็พยายามช่วยเหลือ

ความสัมพันธ์ระหว่างพี่สาวกับน้องชายให้ดีขึ้น

 รับบทโดย นิธิศ วารายานนท์(โบ้ท)

ผลงานที่ผ่านมา ศิลปินมือเบสแห่งวง THE YERS, โฆษณา COKE,

 ภาพยนตร์เรื่อง 30 กำลังแจ๋ว, หนุ่มคลีโอประจำปี 2012

  

อ.เสน่ห์

เกรียนตัวพ่อ ผู้จุดประกายเรื่องเกรียนๆแด่นักเรียนที่รัก

 เป็นอาจารย์อยู่ชมรมภาพยนตร์ ชอบบ้าพลัง แต่ก็จุดประกายฝันให้กับเด็กนักเรียน

และแก๊งเกรียน ช่วยคลี่คลายปัญหาต่างๆ พยายามตีซี้กับ ตี๋ เพราะว่าตกหลุมรักพี่สาวของตี๋นั่นเอง

รับบทโดย บริบูรณ์ จันทร์เรือง(ตั๊ก)

ผลงานที่ผ่านมา ละครโทรทัศน์เรื่อง ผู้ใหญ่ลีกับนางมา, ชื่นชีวานารี, จำเลยกามเทพ, ปัญญาชนก้นครัว ฯลฯ

ละครซิทคอม ระเบิดเที่ยงแถวตรง, วงษ์คำเหลา เดอะซีรีย์ เป็นต้น, ภาพยนตร์เรื่อง รองต๊ะแลบแปล๊บ,

แรงเป็นไฟละลายแค่เธอ, เด็กเสเพล, เหยิน เป๋ เหล่ เซมากูเตะ,วาไรตี้ผีฉลุย, จั๊กกะแหล๋น, สาระแนโอเซกไก เป็นต้น

 

 อ.แดงต้อย

เกรียนตัวแม่ เหวี่ยงอย่างตุ๊ด เกรี้ยวกราดไม่แคร์สื่อ

เป็นคนเก่ง มีความสามารถด้านละครเวที มีอีโก้สูง พยายามจะผลักดัน พลอยดาว

ให้เป็นซุป’ตาร์ แต่ก็ต้องผิดหวัง เพราะแก๊งเกรียนมาสร้างปัญหาทำให้พลอยดาว

ไม่กล้าขึ้นเวทีอีกต่อไป จึงทำให้ไม่ชอบแก๊งเกรียน และตามราวีจนถึงที่สุด

รับบทโดย นิติ ชัยชิตาทร(ป๋อมแป๋ม เทยเที่ยวไทย)

ผลงานที่ผ่านมา ครีเอทีฟรายการ Five Life, พิธีกรรายการ แตกฟองไลฟ์, เทยเที่ยวไทย

ภาพยนตร์เรื่อง ชอบกด Like ใช่กด Love

 

 START

สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล แท็คทีม สตูดิโอคำม่วน สร้างภาพยนตร์ เกรียน ฟิคชั่น” หนังวัยรุ่น/โรแมนติก/คอมิดี้ นำโดยโปรดิวเซอร์สาวคนเก่ง จาตุศม เตชะรัตนประเสริฐ และผู้กำกับรุ่นใหม่ (มะเดี่ยว) ชูเกียรติ ศักดิ์ วีระกุล ซึ่งที่ผ่านมาผลงานของมะเดี่ยว ชูเกียรติ ล้วนแล้วแต่เป็นภาพยนตร์คุณภาพที่การันตีด้วยรางวัลจากสาขาภาพยนตร์มากมายทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ อาทิ คนผีปีศาจ, รักแห่งสยาม, 13 เกมสยอง หรือจะเป็นภาพยนตร์ล่าสุดที่ผ่านมา HOME ความรัก ความสุข ความทรงจำ และส่วนใหญ่จะเป็นภาพยนตร์แนวดารม่า หนังชีวิต ความรักหนักๆ จนเมื่อมาถึงภาพยนตร์ครั้งนี้ เขามีความตั้งใจที่อยากจะสร้างหนังวัยรุ่นยุค 2013 หรือที่หลายคนเรียกกันว่ายุค iOS

จาตุศม เตชะรัตนประเสริฐ โปรดิวเซอร์ของภาพยนตร์เล่าถึงการสร้างภาพยนตร์วัยทีนและการดึงมะเดี่ยวกำกับภาพยนตร์ในครั้งนี้ว่า “จากการที่ได้ร่วมงานกับมะเดี่ยวมาหลายเรื่อง เราเริ่มเห็นลายเซ็นต์ของเขาชัดเจนขึ้นในหนังแต่ละเรื่อง เขามีความโดดเด่นในการบอกเล่าเรื่องราว ความลึกซึ้งของบท รวมถึงจุดเด่นของการกำกับการแสดง สามารถดึงการแสดงของนักแสดงออกมาได้แบบพอดิบพอดี ไม่เยอะไม่น้อยเกินไป แต่หนังที่มีองค์ประกอบทุกอย่างครบถ้วนแบบนี้ส่วนใหญ่จะจบท้ายด้วยการเป็นหนังดราม่าชั้นดีเรื่องหนึ่ง  เลยบอกเขาว่า จุดแข็งของเขาหากมารวมเข้ากับความสนุกสนานของชีวิตวัยรุ่น การบอกเล่าเรื่องราวของวัยทีนในยุคนี้ น่าจะผสมกันกลายเป็นหนังวัยรุ่นสนุกเรื่องนึงที่มีโอกาสจะเป็น มาสเตอร์พีซ ของเขาได้ จึงกลายเป็นโปรเจคต์ เกรียน ฟิคชั่น เรื่องนี้”

มะเดี่ยว ชูเกียรติ นิสัยการดูหนังส่วนตัวแล้ว ชอบดูหนังแนววัยรุ่นเป็นชีวิตจิตใจ ตั้งแต่เด็กๆมะเดี่ยวจึงรับอิทธิพลจากหนังวัยรุ่นอย่าง เรื่อง ปลื้ม, น้ำเต้าหู้กับครูระเบียบ, กระโปรงบานขาสั้น โดยคิดว่าหนังวัยรุ่นมันเป็นบันทึกทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อย่างหนึ่ง ในแต่ละยุคสมัยของตัวเอง พร้อมเล่าถึงที่มาของภายนตร์เรื่องนี้ว่า “ใช่ เราเติบโตมาพร้อมๆกับหนังไทยวัยรุ่นยุคของ พี่เอ็ม สุรศักดิ์ วงษ์ไทย แล้วเราก็ดูหนังวัยรุ่นมาตลอด ซึ่งแต่ละยุคแต่ละสมัยวัยรุ่นจะเปลี่ยนและแตกต่างกันไป เราจึงอยากทำหนังวัยรุ่น มันเหมือนเราได้บันทึกเรื่องราวความทรงจำวัยรุ่นยุค2013เอาไว้ในหนังของเรา เริ่มจากสิ่งที่วัยรุ่นสนใจ ไปจนถึงเรื่องวุ่นๆในวัยเด็ก ชีวิตของเด็กมัธยมปลายที่บางครั้งเรื่องเล็กๆสำหรับเด็กในวัยนั้นมันกลายเป็นเรื่องใหญ่มาก มันมีเรื่องราวสนุกสนานมากมาย และสำหรับ เกรียน ฟิคชั่น คือ บันทึกยุคสมัยในเด็กวัยรุ่นของยุคนี้นั่นเอง”

เกรียน ฟิคชั่น นับว่าเป็นผลงานภาพยนตร์ลำดับที่ 7 ของ มะเดี่ยว ชูเกียรติ ที่มุ่งเน้นกลุ่มวัยรุ่นโดยเฉพาะ ซึ่งกว่าจะออกมาเป็นบทภาพยนตร์ได้นั้น เขาต้องอาศัยจากประสบการณ์ตรง ทั้งที่เคยผ่านมา และที่เคยร่วมงานกับเหล่าวัยรุ่น โดยครั้งนี้เขายังดึงรุ่นน้องฝีมือดีจากรั้วนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ นิวรุจ ฑีฆะโภวรรณ ร่วมเขียนบทภาพยนตร์ถ่ายทอดเรื่องราววัยเกรียน ขยายมุมมองวัยรุ่นอย่างถึงแก่น ซึ่งมะเดี่ยว ชูเกียรติ เล่าถึงเรื่องราวที่นำเสนอว่า  “เรื่องนี้เป็นเรื่องวัยรุ่นล้วนๆเลย หนังพูดถึงจิตวิญญาณของเด็ก เราเองก็ต้องทำตัวให้เด็กลง ต้องเข้าใจเด็ก ต้องปรับมุมมองหลายอย่างในโลกนี้ ทำการบ้านเยอะขึ้นพอสมควร ซึ่งหนังเรื่องนี้เป็นเหมือนบทบันทึกของวัยรุ่นยุคนี้ที่ชอบทำกิจกรรมเยอะ และชอบแสดงตัวตน เราจะเห็นจากการประกวดหนังสั้น คลิป เต้น ต่างๆมากมาย แล้วทุกครั้งที่มีเวทีประกวดต่างๆ เราก็จะเห็นคนเข้าแถวต่อแถวกันยาวมาก เพราะ คนต้องการแสดงตัวตน ต้องการพื้นที่เพื่อจะบอกโลกว่าฉันอยู่ตรงนี้ ฉันมีความสามารถตรงนี้ ซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่ทำง่าย เพราะมันมีทั้งยูทูป ทั้งอินเตอร์เน็ต ให้เด็กถ่ายคลิปลง จึงตอบโจทย์ว่าการพยายามที่จะมีตัวตนของน้องๆนำไปสู่สิ่งใดต่อสิ่งใด คิดว่าเด็กรุ่นนี้น่าจะอินน่าจะเข้าใจได้”

เพราะความเกรียนเกิดขึ้นได้กับทุกคน เกรียนเพราะอยากมีตัวตน เกรียนเพราะอยากให้คนมอง เกรียนเพราะกลัวคนจะไม่สนใจ โดยเฉพาะช่วงวัยรุ่นที่จะสะท้อนความเกรียนได้อย่างชัดเจน มะเดี่ยว ชูเกียรติ จึงเล่าถึงความเกรียนในเวอร์ชั่นครั้งนี้ว่า “เกรียนมันเป็นเรื่องของคนที่ยืนยันการมีตัวตนเป็นของตัวเอง คือ การสร้างตัวตนที่แตกต่างหรือบอกกับโลกว่าเราอยู่ตรงนี้นะ เหมือนจะให้คนสนใจน่ะแหละ แต่เด็กกลุ่มนี้จะคิดแตกต่างแบบสร้างสรรค์ เพราะเขาชอบถ่ายคลิป ชอบทำหนังสั้น ชอบแสดงตัวตน คือสิ่งที่วัยรุ่นทุกคนต้องการให้ตัวเองนั้นปรากฏอยู่มีจุดยืน ณ จุดใดจุดหนึ่ง”

 

SELECT

ด้วยความตั้งใจของผู้กำกับ มะเดี่ยว ชูเกียรติ ต้องการค้นหานักแสดงหน้าใหม่ ที่มีความสามารถทางการแสดงสูง ดังนั้นขบวนการแคสติ้งหานักแสดงจึงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ และค่อนข้างใช้เวลานานเป็นหลายเดือนกว่าจะเจอคนถูกใจที่ เหมาะสมกับคาแร็คเตอร์ และต้องรู้สึกเชื่อว่าไอ้พวกนี้มันเกรียนจริงๆ “เราต้องการเป็นแก๊ง แล้วไอ้คำว่าแก๊งนี้คือต้องดูสนิทกันจริงๆต้องเล่นให้เข้าขากันจริงๆ ซึ่งก็ใช้เวลานานมาก เราอยากให้คนดูมาดูหนังเรื่องนี้ เพื่อที่จะได้เจอกับเรื่องราวของเด็กกลุ่มนี้ ซึ่งเป็นใครที่ไหนก็ไม่รู้ แต่เรามาทำความรู้จักกับพวกเขาใหม่หมดเลย มันจะอินไปตามเนื้อเรื่องของพวกนี้เอง”

ความโดดเด่นของตัวพระเอก ตี๋ คือ ต้องตัวเล็ก หรือเตี้ยนั่นเอง มักจะถูกมองข้ามไปตลอด และไฮไลท์ต้องเป็นคนขี้น้อยใจ อยากให้เพื่อนสนใจเป็นปมในใจเล็กๆ แต่จะต้องเป็นคนฉลาด โดยผู้กำกับมะเดี่ยวถึงกับกุมขมับด้วยความที่กว่าจะหาคนแสดงลักษณะแบบนี้ได้นั้นแคสกันแล้ว แคสกันอีกก็ยังไม่เจอคนที่ใช่และเหมาะสม คนที่จะมาสวมบทตี๋ จะต้องหน้าตาน่ารัก แต่ต้องไม่หล่อจนเกินไป แสดงดี มีความสามารถ ร้อง เต้น ครบถ้วน “โอ้ว…โห นานพอสมควรกว่าจะหาคนที่เหมาะสม จนเมื่อมาเจอน้องเฟียต พัทธดนย์ และเราเห็นเขาชอบอัดคลิป เฟียตเขาถ่ายคลิปตัวเองร้องเพลง นี่แหละมันใช่เลย เราต้องการเด็กที่มีประสบการณ์ร่วมในการถ่ายคลิปอยู่แล้วด้วย เพราะเขาจะเข้าใจว่าตัวละครมันทำไปเพื่ออะไร มันทำอะไรกันอยู่”

ด้านหนุ่มที่จะมาสวมบทของ โอ๊ต หนุ่มหล่อเดือนโรงเรียน สูง หล่อ ขาว ตี๋ รวย นั้น แว๊บแรกเลยที่เข้ามาในหัวของผู้กำกับทันที คือ เจเจ กฤษณภูมิ จะเป็นใครอื่นไม่ได้ ด้วยความหล่อเตะตาขนาดนี้ ตั้งแต่ตอนมาแคสหนังเรื่องโฮมฯ นั่นคือครั้งแรกที่ได้พบกับเจเจ มะเดี่ยวเล่าว่า “ก่อนหน้านั้นเรื่องโฮมฯ เจเจมาแคสบท บีม แต่ที่ไม่ได้เพราะ หล่อเกินไป(555) พอมาเรื่องนี้มันใช่และเหมาะกับเจเจมาก กับบทเด็กผู้ชายในฝันของสาวๆม.ปลาย สมาร์ทดูดี ไม่ได้เรียบร้อยมาก มีความห้าวในตัวพอควร มันเหมาะเพราะชีวิตจริงของเจเจก็เป็นแบบนั้น อยู่เชียงใหม่มีสาวตามกรี๊ด จะเดินไปไหนก็ พี่เจเจกรี๊ด……..ด”

แจ็ค กิตติศักดิ์ ผู้พิชิตบทของ โมน กับคาแร็คเตอร์ เงียบๆ ไม่ค่อยพูด เพื่อนเฮไหนก็เฮนั่นด้วยตลอด แม้บทบาทที่ได้รับจะแตกต่างจากตัวตน แต่จากผลงานก่อนหน้านี้ Home ความรัก ความสุข ความทรงจำ มะเดี่ยวก็เล็งเห็นความสามารถของเขา “ทีแรกเราลองให้แจ็คแคสบทของ โอ๊ต ก่อน แต่ที่ไม่ได้เลือกแจ็คนั้น เพราะความหล่อที่ยังมาไม่ถึง(555) จึงเปลี่ยนตัวน่าจะดีกว่า แต่บทของโมนก็ไม่ธรรมดานะ ซึ่งมันเหมาะกับคนไม่ธรรมดาอย่างแจ็คนี่แหละ เราเลือกแจ็คเพราะเขาได้พิสูจน์ตัวเองมาแล้วว่าเป็นนักแสดงที่มีฝีมือ และอยากให้รอดูความเซอร์ไพรส์ของแจ็คในเรื่องนี้”

และหนุ่มคนสุดท้ายที่จะมารับบท “ม่อน” เด็กผู้ชายฮอร์โมนพลุ่งพล่าน เป็นพวกทะลึ่ง ลามก ตลก กวนตีน พูดเยอะพูดเก่งปากดี ขี้บ่น ก็คว้าตัว ปลื้ม ปุริม มาจากการเดินผ่านหน้าออฟฟิศสตูดิโอคำม่วน ระหว่างกำลังโดดเรียนนั่นเอง เพราะความมีเสน่ห์ น่ารัก แม้จะไม่เคยผ่านงานแสดงใดๆมาก่อนเลย มะเดี่ยวเล่าว่า “ปลื้มตอนมาแคสตั้งใจมาก สั่งให้ทำอะไรก็ทำ ถึงทำไม่ได้แต่ก็พยายามที่จะทำให้ดีที่สุด เช่น บอกให้เขาไปเต้น ซึ่งเขาเป็นคนไม่เคยเต้นเลยแต่เขาก็ทำให้ดีที่สุดของเขาและตัวตนของปลื้มแตกต่างจากบทม่อนอย่างสิ้นเชิง อะไรที่ม่อนเป็นมันตรงข้ามกับปลื้มทุกอย่าง แต่น้องก็พิสูจน์ให้เราเห็นถึงความการแสดงว่าเขาทำออกมาได้ดี”

นอกจาก 4 หนุ่มหล่อหน้าใส ยังมีนักแสดงร่วมสร้างสีสันให้กับ เกรียน ฟิคชั่น อาทิ (มิว)ลักษณ์นารา เปี้ยทา, (กิ๊บซี่)วนิดา เติมธนาภรณ์, (ตั๊ก)บริบูรณ์ จันทร์เรือง, (ป๋อมแป๋ม เทยเที่ยวไทย)นิติ ชัยชิตาทร, (โบ้ท เดอะเยอร์ส)นิธิศ วารายานนท์ และ (เจน)เจนจิรา จำเนียรศรี ร่วมถ่ายทอดเรื่องราวความสนุกสนานในครั้งนี้ ซึ่งล้วนแต่เป็นคาแร็คเตอร์ที่มีบทบาทสำคัญ และมีอิทธิพลส่งผลกระทบต่อแก๊งของ 4 หนุ่มในเรื่องนี้อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

กิ๊บซี่ วนิดา สาวเซ็กซี่ เสน่ห์แรงสูง เมื่อมะเดี่ยวนั่งจ้องทีวีรายการเกมโชว์ ที่เธอกำลังนั่งเริ่ดๆให้หนุ่มในรายการทายใจ จนทำให้มะเดี่ยวต้องยอมสยบความสวยของเธอ ถึงขั้นหาเบอร์โทรศัพท์รีบกดเบอร์โทรชวนร่วมแสดงหนังครั้งนี้อย่างด่วน โดยเล่าว่า  “กิ๊บซี่น่ารัก เราก็เคยเห็นผลงานเขามาตลอด พอมาเรื่องนี้ บทของทิพย์ จะต้องมาเป็นพี่สาวของตี๋ เป็นพี่สาวที่ไม่รู้จักโต และมักจะทะเลาะกันบ่อย เราเห็นความสามารถของกิ๊บซี่ ก็เลยชวนเขามาแสดง ซึ่งเขาถ่ายทอดอารามณ์ของ ทิพย์ และความเป็นผู้หญิงที่รู้สึกผิดกับอะไรบางอย่าง จริงๆเหมือนจะตลกแต่ก็มีความเป็นดราม่าเหมือนกัน กิ๊บซี่เองก็ชอบบทนี้ พอเขาชอบ เขาจะอินและถ่ายทอดออกมาได้อย่างดีมาก(ยิ้ม)” กิ๊บซี่ วนิดา ศิลปินและนักแสดงสาวมากความสามารถ เล่าถึงตอนตัดสินใจตอบรับงานแสดงทันทีโดย แม้จะยังไม่เห็นบทก็ตาม แค่รู้ว่าผู้กำกับเป็นมะเดี่ยว เธอก็พร้อมจะร่วมงานได้ทันที “จริงๆแล้วกิ๊บติดตามผลงานของพี่มะเดี่ยวอยู่แล้ว ก็รู้สึกว่าผู้กำกับคนนี้น่าสนใจ เป็นผู้กำกับคุณภาพ ถึงแม้ว่าไม่ใช่ผู้กำกับที่อยู่มาหลายสิบปี แต่เขาเป็นผู้กำกับที่มาใหม่แล้วมาแรง ผลงานเขาก็เป็นที่ยอมรับด้วย”

และหนุ่มหล่อสุดเท่ ที่ถูกเลือกมารับบทแฟนหนุ่มของทิพย์ (กิ๊บซี่ วนิดา) ก็ตกเป็นของ โบ้ท เดอะเยอร์ส ที่เพิ่งคว้าตำแหน่งหนุ่มคลีโอ ปีล่าสุด(2012)มาครอง มะเดี่ยวเล่าว่า “ที่เลือกโบ้ท เพราะว่าเขาเป็นคนเงียบครึม ดูหล่อ เหมาะกับบทของเขตต์มาก พอเราได้ร่วมงานกันจริงๆแล้วตัวตนของโบ้ทเป็นคนตลกใช่เล่นเลยล่ะ” ด้าน โบ้ท นิธิศ สลัดคราบหนุ่มนักดนตรีมือเบสแห่งวง เดอะ เยอร์ส มาแสดงภาพยนตร์ของผู้กำกับมะเดี่ยว ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ได้มีโอกาสร่วมงานกัน เล่าว่า “สำหรับการร่วมงานกับพี่มะเดี่ยว ผมยกให้สุดๆไปเลย อย่างตอนเข้าฉากก็จะมีแอคติ้งโค้ชมาสอนอยู่แล้ว ว่าต้องเล่นแบบนี้นะ และพี่มะเดี่ยวเขาก็จะช่วยทำให้ดูด้วยนะ แต่พี่เขาเล่นไปร้อยยี่ คือเล่นเกินไปไหนก็ไม่รู้ครับ แล้วเขาก็มาบอกว่าเมื่อกี้พี่เล่นเกินไปนะ เอาออกหน่อยเหลือแค่แปดสิบพอ มันก็ตลกดี”

บทนางเอกสาวสวย พลอยดาว ดาวเด่วของโรงเรียน มะเดี่ยวก็ได้วางตัวมาเรียบร้อย พร้อมกับลงมือเขียนบทนี้ขึ้นมาเพื่อ มิว ลักษณ์นารา โดยเฉพาะ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยร่วมงานละครเรื่อง วนาลี มาแล้ว “เราเหมือนเป็นผู้กำกับคนแรกในชีวิตน้องมิว สอนกันมาเยอะมาก ตั้งแต่น้องยังแสดงอะไรไม่เป็นเลยจนเล่นละครได้จบเรื่อง น้องมิวเป็นเด็กดี เป็นคนนิสัยน่ารักแล้วจริงๆเขาเป็นคนมีของ มีความสามารถทางการแสดง พอมีหนังเราก็นึกถึงเธอเป็นคนแรกเลยว่าต้องมาเล่นให้พี่นะ บทนี้ถูกเขียนมาเพื่อน้องมิวโดยเฉพาะ” ด้าน มิว ลักษณ์นารา เล่าถึงการเตรียมตัวกับบท พลอยดาว และการแสดงหนังครั้งแรกในชีวิตที่ต้องนำพื้นฐาน ยิมนาสติก เต้นบัลเลย์ เต้นแจ๊ส มาร่วมแสดง โดยเล่าว่า “ตอนแรกยังไม่รู้ว่ารับบทเป็นอะไร พี่มะเดี่ยวแค่เกริ่นให้ฟังว่า เป็นผู้หญิงที่สวย ต้องเก่งทุกเรื่อง เป็นดาวโรงเรียน ตอนนั้นก็คิดว่างานนี้เราคงต้องหนักมากแล้วแหละ เตรียมใจรับศึกหนักครั้งนี้ มีไปเรียนแอคติ้งสำหรับทางหนังด้วย เพราะเรื่องนี้ถือว่าเป็นหนังเรื่องแรกของมิว ก็เลยต้องมีการปรับตัวนิดนึง พื้นฐานการเต้นพอมีบ้างเล็กน้อยแต่ไม่ถึงกับเก่งอะไรขนาดนั้น บัลเลย์ แจ๊ส เน้นท่าสวยงาม พริ้วๆ ในแบบฉบับของพลอยดาว เพราะในเรื่องนี้ต้องแสดงละครเวทีถึง 2 เรื่องด้วย”

มะเดี่ยวเล่าต่อถึงคาแร็คเตอร์ที่ขาดไม่ได้เลยของเรื่องนี้ “ยังมีบทของ อ.เสน่ห์ ที่จะสร้างสีสัน เจาะจงเลือก ตั๊ก บริบูรณ์ ด้วยความที่เขาเป็นคนอารมณ์ดี ออกแนวบ้าบอ เราเคยร่วมงานกันมาก่อนหน้านี้ ซึ่งเรื่องนั้นเราให้ตั๊กรับบทดราม่า และเราก็ได้ค้นพบว่า ตั๊กเอ้ย!อย่าเปลี่ยนแปลงตัวตนเล้ยย…บทนี้จึงเหมาะสมกับเขามากอาจารย์ที่จะเพี้ยนๆและไปหลงรักพี่สาวของนักเรียนตัวเอง นอกจากนี้ก็ยังมีบท อ.แดงต้อย รับบทโดยพี่ป๋อมแป๋ม เลือกเพราะเราชอบดูรายการเทยเที่ยวไทยของเขา(555) ชอบความกล้า ชอบความตลกของเขา ตลกแบบไม่รู้ตัว เหวี่ยงอย่างตุ๊ด ไม่ผิดหวังเลยจริงๆ พี่ป๋อมแป๋มถ่ายทอดความเกรี้ยวกราดได้สนุกมากอยากให้ติดตามชม อ่อ!อีกคนนึงน้องเจน ก็มาร่วมแสดงในเรื่องนี้ กับบท ก้อย เพื่อนผู้หญิงตลกๆตัวทำฮา แล้วน้องเจนก็ตลกดีตัวเขาเองก็เป็นแบบนั้นด้วย เขาเป็นนักแสดงที่มีฝีมือควรที่จะได้รับบทดีๆแล้วบทก้อยในเรื่องนี้อยู่ดีๆก็ต้องโผล่เข้ามาในชีวิตของเด็กพวกนี้อยู่ประมาณ ม.5 ปลายๆ เป็นบทที่น่ารักและน่าจดจำ และน้องเจนก็ทำได้ดีอีกแล้ว(ยิ้ม)

เตรียมฝึกหนัก

แน่นอนวัยรุ่นอย่างเราหากคิดจะทำตัวเกรียน มันคงต้องมีขั้นตอนการเตรียมตัว ฝึกฝนการแสดง การเต้น กันก่อน ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆอย่างที่คิดเอาไว้เลย โดยเฉพาะกับนักแสดงหน้าใหม่ที่ ผู้กำกับมะเดี่ยวต้องเคี่ยวเข็ญกันอย่างหนัก งานนี้ไม่ธรรมดาเช่นกัน เหมือนจับปูใส่กระด้ง จึงต้องกำราบด้วยการหาแอ็คติ้งโค้ชโคตรเกรียนมาสอนทั้งการแสดง และการเต้น เป็นระยะเวลานานหลายเดือน กว่าจะออกมาเกรียนกันได้นั้น ถึงขั้นน้ำตาซึมเบ้ากันเลยทีเดียว

โดนสั่งให้ทำตัวเป็นตุ๊ด หากไม่มีสมาธิพร้อมจะท่องบท จะต้องเจอดีแบบนี้ หันหลังตบก้นควักมือเรียกให้คนมาดูกันซะ แล้วคนที่ต้องก้มหน้ารับโทษคนนั้นก็คือ  เจเจ กฤษณภูมิ “โดนหนักไม่น้อยครับโดนสั่งให้วิ่งกลางสนามบาสโรงเรียน แล้วก็ตะโกนบทออกมาเสียงดังๆ และคนก็เยอะมาก หากเสียสมาธิ ไม่ตั้งใจ จะมีการโดนทำโทษที่น่าอับอายขายขี้หน้ามาก คือ ไปยืนตรงระเบียงหน้าห้องเรียน แล้วทำเสียงเป็นตุ๊ดตะโกนดังๆว่า อยากได้ผู้ชายจัง, หนูสวยค่ะ  มีการหันก้นตบตูดกวักมือเรียก โอ้ย…อายอ่ะ แต่จะว่าไปแล้วมันก็เป็นการฝึกความกล้าของเราด้วยครับ”

 เป็นตุ๊ดไปก็เท่านั้น เพราะมันยังไม่สะใจแอ็คติ้งโค้ชเลยสักนิด การเป็นนักแสดงที่ดีได้จะต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากกว่านี้ นอกจากใจกล้าแล้ว ยังต้องอดทนกับกลิ่นได้อย่างดีเริ่ด และไม่ว่ากลิ่นจะรุนแรงขนาดไหน ปลื้ม ปุริม ขอยกมือเล่าถึงการเป็นนักแสดงที่ดีจะต้องแสดงออกด้วยหน้าตาระรื่นชื่นมื่นว่า “แอ็คติ้งโค้ชสั่งให้อมนิ้วเท้าตัวเองครับ อมแล้วต้องทำหน้าว่ามันอร่อยมากกก(ลากเสียงยาว) ส่วนผมกำลังจะก้มอมนิ้วอยู่แล้ว แต่ครูดันหันไปทางอื่นก่อน ผมเลยหยุดทำ(555) แต่ต่อจากนั้นโดนสั่งให้ถอดรีเทรนเนอร์ที่ใส่ฟันออกมาจากปาก เอามาอัดไว้ที่จมูกตัวเองแล้วก็ต้องทำหน้าทำตาว่า หอมมาก ชื่นใจที่สุด ตอนแรกก็คิดว่าจะพูดเล่น อำเล่นหรือเปล่าน๊า แต่สรุปว่าเขาสั่งให้พวกผมทำกันจริงๆ และต้องทำทุกคนเลยครับ”

จบครอสเรียนการแสดง ต่อด้วยครอสเรียนแดนซ์ทันที หลายคนยังไม่มีพื้นฐานการเต้น ยกเว้น แจ็ค กิตติศักดิ์ ที่สามารถเต้นได้อย่างคล่องแคล่ว โดยเล่าว่า “ผมพื้นฐานการเต้นมาบ้างแล้ว ปกติผมเต้นสไตล์ป็อปปิ้ง แต่ถึงจะเป็นคนเดียวในแก๊งเกรียนที่มีพื้นฐาน ผมก็ต้องขึ้นไปเชียงใหม่เพื่อเข้าเวิร์คช็อปร่วมกับน้องๆ เราจะได้ดูกลมกลืนเป็นเกรียนรุ่นเดียวกันครับ(555)” แถมแจ็คยังทำตัวเป็นพี่ที่น่ารักด้วยการสอนน้องๆเต้น แต่ดันเป็นเต้นท่าติดเรท ท่ายั่วยวน บุคคลที่จะยืนยันคือ เฟียต พัทธดนย์ “ตอนฝึกเต้น เป็นอะไรที่ยากแต่ก็ฮามากครับ ไม่มีใครเต้นเป็นก็จะเต้นมั่วๆไป มีพี่แจ็คเพียงคนเดียวที่เต้นเป็น ดังนั้นพี่แจ็คจึงช่วยสอนเต้นให้กับพวกเราด้วยครับ ซึ่งท่าเต้นพี่แจ็คก็จะเป็นท่าฮา ท่าติดเรท(555) คิดได้ไงสอนท่าเต้นเซ็กซี่ ยั่วยวน แบบเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลี ส่วนท่าฮาๆเป็นท่าเต้นสุดฮิตกังนัมสไตล์ เต้นกันทั้งแก๊งเลยครับ”

SHOW HIGHLIGHT

กังนัมสไตล์ยังต้องหลบ กับฉากสวิงแดนซ์ บนทุ่งหญ้าสาวันนา

เฉพาะฉากแดนซ์ ก็ถ่ายตั้งแต่เช้ายันเย็น ท่ามกลางทุ่งหญ้าสีเขียว และมีแบล็คกราวด์เป็นภูเขา เราจะได้เห็นลีลาการเต้นของ เฟียต พัทธดนย์, ปลื้ม ปุริม และแจ็ค กิตติศักดิ์ ที่ในฉากแดนซ์กันอยู่ดีๆ ตี๋ ก็หันไปหยิบพลุสีมาจุดเตะใส่เพื่อน วงแตกกลายเป็นแดนซ์กระจายขึ้นมาทันที เริ่มถ่ายตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้น ยันพระอาทิตย์ตกดินกันเลย แม้แดดจะร้อน เหงื่อจะออกท่วมตัวแต่นักแสดงทุกคนก็ทุ่มเทเต็ม100 โดยเฉพาะ แจ็ค กิตติศักดิ์ เต้นจนถึงขั้นเอ็นขาฉีก และด้วยสปิริทของรุ่นพี่เกรียน ยอมชูสองนิ้วสู้ตาย ถ่ายฉากเต้นต่ออีก 8 เทคทั้งที่ขาเจ็บหนัก

แจ็ค กิตติศักดิ์ เล่าถึงฉากโชว์สเต็ปจนได้เรื่องครั้งนี้ว่า “มันเป็นฉากซ้อมเต้นครับ ในฉากผมต้องวิ่งหนีในกลางทุ่งหญ้า ตอนที่ตี๋เตะพลุสีใส่พวกเรา แต่พื้นหญ้ามันไม่ได้เรียบเสมอกัน ผมทั้งวิ่ง ทั้งกระโดด แล้วก็งานเข้าเลยเอ็นขาฉีก ข้อเท้าพลิก โหวว…มันเป็นวันที่แสนทรมานมาก ทั้งแดดร้อน ทั้งขาเจ็บ ยังถ่ายไม่เสร็จอีก ผู้กำกับเลยขอถ่ายต่ออีก 5 เทค สรุปถ่ายไป 8 เทค ผมแทบจะร้องไห้น้ำตาเล็ดเลย นี่ถ้ามีขาสำรองผมจะขอเปลี่ยนขาใหม่ทันทีในตอนนั้น”  

เดอะมิวสิกคัล ตระการตา เสื้อ ผ้า หน้า ผม จัดเต็ม

และสิ่งที่จะปรากฏในภาพยนตร์เรื่องนี้ คือ ละครเวทีเดอะมิวสิกคัล 2 เรื่อง สโนว์ไวท์กับคนแคระ และ รจนากับเงาะป่า เรียกว่ามันสุดยอดตั้งแต่สถานที่ในการถ่ายทำ คือ โรงละครกาดเธียเตอร์ และสุดยอดของการแสดงจากเหล่านักแสดง เฟียต พัทธดนย์, เจเจ กฤษณภูมิ, แจ็ค กิตติศักดิ์, ปลื้ม ปุริม รวมถึงนางเอกสาวสวย มิว ลักษณ์นารา ทุ่มเทกับการซ้อม ทั้งร้อง และเต้น กันอย่างเต็มที่ รวมถึงสุดยอดการออกแบบงานสร้าง ออกแบบเครื่องแต่งกาย ที่ต้องใช้เวลาเตรียมงานเพื่อถ่ายฉากนี้เป็นระยะเวลานานถึงสองเดือน

มิว ลักษณ์นารา เล่าถึงฉากละครเวทีว่า “นับว่าเป็นฉากที่ยากมาก เพราะ ต้องทั้งร้อง ทั้งเต้น ต้องประจำตำแหน่งในจุดที่มาร์คไว้ ซึ่งบางทีเราต้องวิ่งวนไปวนมาก็มีเบลอๆยืนไม่ตรงจุดบล็อคกิ้งไว้บ้าง เลยรู้สึกว่ายาก มิวเองก็ยังไม่เคยแสดงละครเวทีมาก่อน นี่เป็นเวทีแรกที่ได้เล่น ซึ่งมันต่างจากแสดงละคร และการแสดงหนังโดยสิ้นเชิง เมื่ออยู่บนเวทีมันต้องเยอะ มันต้องใหญ่ ให้คนดูรู้สึกว่ามันเป็นแบบนี้จริงๆ เป็นอะไรที่ท้าทายมาก และที่สำคัญมากตัวละคร พลอยดาว ถูกกำหนดว่า มีเสียงร้องที่ดี แต่มิวเสียงไม่ดี ก็ไปเรียนร้องเพลง เสียงตัว ร และ ล ต้องชัดเจนมาก ก็ใช้ความพยายามทั้งหมดที่มีเลยค่ะ”

15 ชั่วโมง บนรถไฟ พิสูจน์ใจ กิ๊บซี่

ฉากความน่ารักของสองพี่น้อง “ทิพย์กับตี๋” เมื่อความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มเปลี่ยนจากการทะเลาะมาเป็นรอยยิ้มให้แก่กัน และเริ่มค้นพบความหมายของความสุขอย่างแท้จริง ท่ามกลางวิวทิวทัศน์อันสวยงาม ขบวนรถไฟและอุโมงค์ขุนตาล ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นอุโมงค์ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย เบื้องหน้านั้นภาพ แสง สี สถานที่ สวยและเป๊ะมาก แต่เบื้องหลังฉากนี้มันช่างแสนทรมานกับสาว กิ๊บซี่ วนิดา ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่บนรถไฟเป็นเวลายาวนานถึง 15 ชั่วโมง

กิ๊บซี่ วนิดา เล่าถึงฉากอึดครั้งนี้ว่า “เป็นหนังวัยรุ่นนะ แต่เราถ่ายทำกันอย่างกับหนังชีวิตเลย กินข้าว นอน ทำงาน บนรถไฟ โหดมากกับฉากนี้ ซึ่งเป็นรถไฟธรรมดาด้วยนะ ทั้งนักแสดงและทีมงานก็เต็มที่กับฉากนี้มาก เพื่ออยากให้ภาพมันออกมาสวย โดยเฉพาะตอนที่ขบวนรถไฟวิ่งผ่านช่องอุโมงค์ขุนตาลมันมืดมาก(555) แต่เมื่อเราเริ่มเห็นแสงสว่างมันจะค่อยๆสวยขึ้น เปรียบเหมือนชีวิตคนที่เริ่มเห็นทางสว่าง(ยิ้ม)”

คลิปนี้ มี(กลิ่น)ฮา แน่

ขึ้นชื่อว่าเป็น ตั๊ก บริบูรณ์ การแสดงจึงไม่ธรรมดาเหมือนนักแสดงปกติทั่วไป เรื่องการสอดแทรกมุก ทีเด็ด เรียกเสียงฮานั้นเป็นงานถนัดของหนุ่มตั๊ก แม้กระทั่งฉากถ่ายหนังสั้นของแก๊งเกรียน ที่ดึงตัวอ.เสน่ห์มาช่วยซ้อม แต่สงสัยบทพูดมันจะน้อยไป ตั๊กจึงเติมบทพูดขึ้นมาจนนักแสดงที่ร่วมเข้าฉาก และทีมงานนั้นแทบจะกัดลิ้นตัวเองกลั้นใจไม่ให้หัวเราะออกมา หรือแม้แต่กิ๊บซี่ ที่ขนาดยืนอยู่ห่างๆก็ยังกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่ไหว

ตั๊ก บริบูรณ์ เล่าถึงฉากนี้ว่า “คือนักเรียนของผมเขาจะถ่ายหนังสั้นกัน ผมก็เป็นอาจารย์ที่ดีรักเด็กจึงอาสามาช่วยต่อบท ซ้อมบทให้ โดยมาเล่นเป็นพ่อ ต้องทะเลาะ ดุ ว่าลูกชายตัวเอง ที่ไม่ยอมสนใจเรียน แสดงกับน้องแจ็ค ตอนแรกเขาก็ยังรับมุกพบไม่ค่อยได้หรอกนะ กว่าจะพ้นฉากนี้ก็หลายเทค ผมเต็มที่กับการแสดงมากนะ จรังจังมาก แต่หันมาอีกทีทีมงาน ผู้กำกับ น้องกิ๊บซี่ หัวเราะกันน้ำตาเล็ดเลย แต่ผมว่าน้องแจ็คเนี่ยเขาอดทนต่อกลิ่นปากผมได้เยี่ยมเลยครับ(555)”

เกร็ดภาพยนตร์

• ภาพยนตร์เรื่อง เกรียน ฟิคชั่น เป็นผลงานลำดับที่ 7 ของ ผู้กำกับ มะเดี่ยว ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล โดยก่อนหน้านี้ เคยกำกับภาพยนตร์เรื่อง คน ผี ปีศาจ (2547), 13 เกมสยอง(2549), รักแห่งสยาม(2550), ฝัน-หวาน-อาย-จูบ(2551), หลุดสี่หลุด(2554) และ Home ความรัก ความสุข ความทรงจำ(2555)
• แก๊งเกรียนหน้าใหม่ ดาวเด่นจากเชียงใหม่ กว่าจะเป็นเกรียนสมใจผู้กำกับมะเดี่ยว ถูกกจับฝึกโหดล่วงหน้ากว่า 2 เดือน ทั้งเรียนการแสดง, เรียนเต้น และหลากหลาย Skill ที่ถูกขัดเกลา เพราะนอกจากจะต้องแสดงภาพยนตร์ตามเส้นเรื่องหลัก พวกเขายังต้องมีการแสดงละครเวที 2 เรื่อง และเต้นโชว์เสต็ปอีก 2 โชว์ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายๆสำหรับนักแสดงหน้าใหม่อย่างพวกเขาเลย
• มะเดี่ยว ชูเกียรติ คือผู้กำกับคนแรกในชีวิตของ มิว ลักษณ์นารา ทั้งการแสดงละครโทรทัศน์ครั้งแรก เรื่อง วนาลี(2554) และการแสดงภาพยนตร์ครั้งแรก เรื่อง เกรียน ฟิคชั่น
• เพลงประกอบในฉากละครเวที ได้น้องพิช วิชญ์วิสิฐ(วงออกัส) ร่วมแต่งเนื้อร้องในสไตล์เดอะมิวสิกคัล แถมเตรียมเซอร์ไพรส์เอาใจแฟนคลับด้วยการร่วมแสดงรับเชิญในภาพยนตร์ครั้งนี้
• พลังเสน่ห์ของ กิ๊บซี่ วนิดา จากรายการเกมโชว์ที่ให้หนุ่มๆมานั่งทายใจในครั้งนั้นเอง ที่ทำให้ผู้กำกับมะเดี่ยวสุดประทับใจ และหลงปลื้ม จนอดใจไม่ไหวต้องโทรติดต่อขอมาร่วมงานแสดงภาพยนตร์ด้วยกันทันที
• เพราะต้องมารับบทพระเอกครั้งแรกในชีวิต เฟียต พัทธดนย์ จึงเครียดมากถึงขั้นอ้วกแตกกลางกองถ่าย
• เกรียนสุดฮอตขนานแท้ สาวตามกรี๊ดตั้งแต่ยังไม่เข้าวงการ เจเจ กฤษณภูมิ มีแฟนคลับ Follow กว่า 6 หมื่นชีวิต และไม่ว่าจะโพสต์ข้อความ หรือรูปภาพอะไรลงในโลก Social Network ของเขาเองนั้น สาวๆตามกด Like เพียบ
• แจ็ค กิตติศักดิ์ ถูกโหวตว่า เกรียนสุดแล้วในกองถ่าย ส่วน ปลื้ม ปุริม ถูกโหวตให้เป็นขวัญใจประจำกองถ่าย
• โบ้ท นิธิศ สูงเว่อร์ เวลาเข้าฉากคู่กับ กิ๊บซี่ วนิดา จึงกลายเป็นคู่รักต่างสัดส่วน ด้วยระดับความสูงที่ทิ้งห่าง กิ๊บซี่ เกือบ 30 ซม.
• การออกแบบดีไซน์ชุด รจนา ในฉากละครเวที ป็อป เอกศิษฏ์ ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย บอกว่าได้แรงบรรดาใจมาจากการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่อง อุลตร้าแมน ผสมกับความเป็นวัยรุ่นยุคใหม่ โดย มิว ลักษณ์นารา จะกลายเป็นทั้งนางรจนา 2013 ผสมกับ เจ้าแม่อุลตร้าแมน เสี่ยงทายพวงมาลัยหาคู่ เวอร์ชั่นพิเศษที่การันตีว่าไม่เหมือนใครอย่างแน่นอน

• สถานที่ถ่ายทำของเรื่องนี้ยังคงเน้นถ่ายทำแทบภาคเหนือเป็นหลัก อาทิ  โรงเรียนวารีเชียงใหม่ กับฉากบรรยากาศโรงเรียนต่างๆ, ริมอ่างเก็บน้ำแม่เมาะ ลำปาง กับฉากสวีตหวานโรแมนติกระหว่างโบ้ทกับกิ๊บซี่, โรงละครกาดเธียเตอร์ กับฉากละครเวทีอลังการงานสร้าง, สนามกีฬาเชียงใหม่ 700 ปีกับฉากความเกรียนสุดๆของเหล่าแก๊งเกรียน, ดอยอินทนนท์-ขุนวาง กับฉากถ่ายหนังสั้นของแก๊งเกรียนท่ามกลางดอกพญาเสือโคร่งที่บานสะพรั่งอย่างสวยงาม เป็นต้น

ทีมผู้สร้าง

ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล (ผู้กำกับภาพยนตร์)

เป็นผู้กำกับที่มีความสามารถและเชี่ยวชาญในงานศิลปะแทบทุกแขนง จนสร้างความโดดเด่นในผลงานเป็นที่ยอมรับทั้งในฐานะ ศิลปิน,นักร้อง,นักแต่งเพลง,โปรดิวเซอร์,นักปั้นมือทอง,มือเขียนบทฝีมือเยี่ยม,ผู้กำกับภาพยนตร์ระดับคุณภาพ,ผู้กำกับโฆษณา,มิวสิควิดีโอ ฯลฯ ที่ประสบความสำเร็จทั้งในประเทศไทยจาก ภาพยนตร์เรื่อง คนผีปีศาจ, 13เกมสยอง, รักแห่งสยาม, HOME ความรัก ความสุข ความทรงจำ ฯลฯ และในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับภาพยนตร์ “13 เกมสยอง” ที่สามารถคว้ารางวัลสำคัญในเวทีประกวด และเทศกาลภาพยนตร์ต่างๆ ในต่างประเทศ อาทิ รางวัล Best of Puchon ในเทศกาลภาพยนตร์แฟนตาซีนานาชาติ เมืองปูซอน ครั้งที่ 11ประเทศเกาหลี และรางวัล Asian Award จากสถาบัน European Fantastic Film Federation (EFFFF) ประเทศแคนาดา รวมไปถึงตัวมะเดี่ยวเอง ยังได้รับการกล่าวถึง ในฐานะคลื่นลูกใหม่แห่งวงการภาพยนตร์และทีวีเอเชียที่น่าจับตามองประจำปี 2010 โดยนิตยสาร Hollywood Reporter  และล่าสุดคว้ารางวัลภาพยนตร์และผู้กำกับยอดเยี่ยม เรื่อง HOME ความรัก ความสุข ความทรงจำ จากงานสุพรรณหงส์ ครั้งที่ 22 มาครอง

แต่สิ่งหนึ่งที่ได้รับการกล่าวถึงมาโดยตลอดซึ่งมีอยู่ในตัวของมะเดี่ยวนั่นคือ มุมมองและวิสัยทัศน์ในการคัดเลือก สร้างสรรค์ และดึงศักยภาพที่มีอยู่ในตัวตนของนักแสดง, ศิลปินและผู้ร่วมงาน ถ่ายทอดออกมาได้อย่างน่ายกย่อง ไม่ว่าจะเป็นการปั้นนักแสดงหน้าใหม่ให้แจ้งเกิดจากภาพยนตร์แต่ละเรื่อง ซึ่งรวมทั้ง มาริโอ้ เมาเร่อ, พิช วิชญ์วิสิฐ หิรัญวงษ์กุล ไปจนถึงการได้มีโอกาสร่วมงานกับนักแสดงรุ่นใหญ่อย่าง กฤษดา สุโกศล แคลปป์(น้อย วงพรู), นก-สินจัย เปล่งพานิช,กบ-ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี,พลอย-เฌอมาลย์,นุ่น-ศิรพันธ์ วัฒนจินดา ,เจมส์ เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์ และลิฟท์ สุพจน์ จันทร์เจริญ เป็นต้น