ข้อมูลน้องมอมแมม รอดปาฏิหาริย์จากละครของ ณเดชน์

โพสต์เมื่อ: 19/01/2012

รายการเช้าดูวู้ดดี้ รายการสดเมื่อเช้าวันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคม เวลา 8 โมงเช้า ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี วู้ดดี้ จับมือ ซุปตาขวัญผู้ที่ไปค้นพบกับความมหัศจรรย์ของชีวิตเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง พร้อมมาเผยนาทีชีวิตของ น้องมอมแมม ด.ญ.พรชนก คำกำพุทธ ที่ป่วยเป็นโรคหัวใจพิการซ้ำซ้อนอย่างรุนแรงชนิดพิเศษ ต้องเข้ารับการรักษาและผ่าตัดจนนับครั้งไม่ถ้วน ทั้งๆ ที่ป่วยหนักเจียนตายมาหลายครั้ง จนผู้เป็นพ่อก็ทำใจถึงขั้นจองวัดรอ แต่ที่มหัศจรรย์ก็เพราะน้องมอมแมม ชอบดูละครเรื่องเกมร้ายเกมรัก ที่ง ณเดชน์ เล่นคู่กับ ญาญ่า โดยเฉพาะบทสายชลของพระเอกเรื่องนี้ที่ทำให้น้องมีกำลังใจ ร่างกายฟื้นจากอาการป่วยเร็วขึ้นทุกครั้งทั้งก่อนและหลังการเข้ารับการผ่าตัด ถือว่าเป็นปฏิหารย์ ที่น้องมอมแมมรอดตายเพราะสายชลจริงๆ

น้องมอมแมม เด็กหญิงพรชนก คำกำพุทธ ได้รับการเปิดเผยในรายการเช้าดูวู้ดดี้ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา โดยแพทย์หญิง พิมพ์ภัค ประชาศิลป์ชัย ได้เล่าให้ฟังว่า น้องมอมแมม เป็นคนไข้ที่อยู่ในความดูแลของคุณหมอ และป่วยเป็นโรคหัวใจพิการตั้งแต่กำเนิดแบบซ้ำซ้อน ซึ่งตัวน้องมอมแมมจะมีหัวใจเพียงแค่สองห้องเท่านั้น และไม่มีเส้นเลือดไปเลี้ยงที่ปอด ทำให้มีอาการตัวเขียว เคยเข้ารับการผ่าตัดมาแล้วถึง 3 ครั้ง และต้องเข้า ๆ ออก ๆ โรงพยาบาลตลอดเวลา ไม่สามารถใช้ชีวิตเหมือนเด็กทั่วไปได้ โดยผู้ป่วยโรคนี้มีอัตราการรอดชีวิตเพียง 1-2% เท่านั้น

ปัจจุบันนี้ น้องมอมแมม วัย 7 ขวบ มีร่างกายที่เล็กกว่าเด็กในรุ่นราวคราวเดียวกัน น้องอยู่ในความดูแลของจ่าสิบเอกพนม คำกำพุทธ ผู้ซึ่งเป็นคุณพ่อ เนื่องจากคุณแม่ของน้องเสียชีวิตไปตั้งแต่น้องอายุ 4 ขวบ โดยคุณพ่อได้เล่าว่า ก่อนหน้านี้ลูกสาวเคยเข้ารับการผ่าตัดมาแล้ว 3 ครั้ง ซึ่งทุกครั้งที่น้องต้องผ่าตัด คุณพ่อก็จะทำใจไว้ล่วงหน้า เพราะรู้ดีว่ามีโอกาสที่จะต้องสูญเสียลูกสาวไปได้ทุกเมื่อเนื่องจากน้องมีอาการหนักมาก ในการผ่าตัดครั้งแรก และครั้งที่ 2 คุณพ่อก็เกือบจะไม่ได้เห็นหน้าลูกสาวคนนี้อีกแล้ว แต่คุณหมอก็พยายามรักษาอย่างเต็มที่ จนน้องมอมแมมรอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด และมีอาการดีขึ้นเล็กน้อย แต่หลายวันต่อมา อาการของน้องมอมแมมกลับแย่ลง ตัวบวม เขียว แพทย์จึงต้องทำการผ่าตัดครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา และได้บอกข่าวร้ายกับคุณพ่อว่า น้องไม่น่าจะมีโอกาสรอดอีกแล้ว เพราะผ้าก๊อซที่อุดเส้นเลือดหัวใจไว้ไปทับเส้นเลือดใหญ่และเส้นเลือดดำ

สุดท้ายแล้วในการผ่าตัดครั้งที่ 3 น้องมอมแมมกลับรอดชีวิตราวปาฏิหาริย์ ซึ่งคุณพ่อบอกว่า ก่อนจะเข้าห้องผ่าตัดในครั้งนี้ คุณพ่อรู้สึกเป็นห่วงลูกสาวมาก แต่น้องมอมแมมกลับบอกคุณพ่อว่า “ไม่เป็นไร ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวหนูจะออกมาหาสายชล” คำพูดนี้ ทำเอาคุณพ่องงมาก ๆ ว่าไม่รู้ “สายชล” คือใคร จนมานึกออกภายหลังว่า “สายชล” คือชื่อของ “ณเดชน์ คูกิมิยะ” ในละครเรื่องเกมร้ายเกมรักที่น้องมอมแมมชอบดูมาก ๆ โดยจะนั่งดูละครจนจบทุกคืน เพราะชื่นชอบหนุ่มณเดชน์เอามาก ๆ

ขณะที่คุณยาย และคุณป้าของน้องมอมแมมซึ่งนั่งดูละครด้วยกันกับน้องมอมแมม ก็พูดถึงหลานสาวคนนี้ว่า ตั้งแต่ที่น้องมอมแมมได้ดูเกมร้ายเกมรักก็มีอาการดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ แถมยังกลายเป็นคนพูดง่าย สอนง่าย และเจ้าตัวมักจะพูดเสมอว่า อยากเป็น “นางฟ้า” อยากไปหา “สายชล” และถามบ่อย ๆ ว่า “สายชล” อยู่ที่ไหน ทะเลอยู่ที่ไหน โดยล่าสุดอาการน้องดีวันดีคืน

นอกจากนี้ทางรายการเช้าดูวู้ดดี้ ก็ได้เชิญ ดร.รุ่งรัตน์ จิตวโรภาส อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสมองและปฏิกิริยาเคมีในร่างกาย มาให้คำตอบ ซึ่ง ดร.รุ่งรัตน์ ก็อธิบายว่า ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจากจิตใต้สำนึกที่มีผลสำคัญส่งถึงสมอง ทำให้สมองส่งสารบางอย่างถึงร่างกาย ยกตัวอย่างกรณีของน้องมอมแมมที่ชอบดูละคร ทำให้เกิดความสุขกับตัวเอง และมีกำลังใจที่ดี หรือการที่อยากพบสายชล อยากเป็นนางฟ้า ก็คือความหวัง ทั้งหมดนี้คือจิตใต้สำนึก เมื่อมีจิตใต้สำนึกที่ดีแล้ว สิ่งเหล่านี้คือตัวกระตุ้นให้สารเคมีในสมองหลั่งออกมาส่งผลให้เซลล์ตอบสนองดีขึ้น สุขภาพแข็งแรง ภูมิคุ้มกันดีขึ้นได้นั่นเอง

(คลิปน้องมอมแมม ออกอากาศวันที่ 12 มกราคม 2555)

http://www.youtube.com/watch?v=tAlwRDqb3oU

(เทปรายการเช้าดูวู้ดดี้วันจันทร์ที่ 16 มกราคม) หลังจากรายการออกอากาศไปแล้ว ทีมงานเห็นถึงพลังการต่อสู้ของน้องมอมแมม จึงติดต่อไปยัง ณเดชน์ และนำคลิปนี้ไปให้ ณเดชน์ ได้ดู ว่าละครสามารถสร้างปาฏิหาริย์ขึ้น ทำให้น้องมอมแมมอาการดีขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นที่น่าประหลาดใจกับทุกคน ซึ่งขวัญใจของน้องมอมแมมก็คือ สายชล ที่รับบทโดย ณเดชน์ คุกิมิยะ นั่นเอง ณเดชน์ นั่งดูคลิปอย่างตั้งใจ และเผยกับทีมงานว่า “รู้สึกว่าน้องเขาเก่ง มีพลังที่จะต่อสู้กับความเจ็บปวด แววตาเขาเข้มแข็งมาก น้องเขาน่ารัก และรู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่ง เขาต้องได้รับกำลังใจที่ดีมากโดยเฉพาะจากคุณพ่อของน้องและกำลังใจจากทุกคน ละครที่ผมเล่นทำให้ชีวิตน้องดำเนินต่อไปได้ รู้สึกว่าเป็นบุญอันประเสริฐมากสำหรับผม อยากตอบแทนให้กับน้องเขา อยากให้เวลากับน้องเขาครับ”