ไม่ยึดติดชื่อเสียงเพราะเชื่อว่าวงการบันเทิงไม่ถาวร หวังคนจำได้แค่ “เอสกันตพงศ์” ที่เล่นละครแล้วคนดูอิน

ที่นี่หมอชิตวันอาทิตย์นี้ พี่ดู๋ สัญญา พร้อมพิธีกรคู่หู ลิง สมเกียรติ บึ่งรถตรงไปไปพัทยาเพราะนัดไปเจอแขกรับเชิญ คุณเอสกันตพงศ์ บำรุงรักษ์ ไว้ที่ อุทยานสามก๊ก  พัทยาเพื่อที่จะไปต่อกันที่บ้านพักตากอากาศของครอบครัวคุณเอสที่อยู่ใกล้ๆบริเวณอุทยาน

ซึ่งวันนี้ เอสกันตพงศ์ จะมาพูดคุยเปิดเผยเรื่องราวชีวิตของตัวเองแบบหมดเปลือก  เริ่มกันตั้งแต่วัยเด็ก  ที่ถูกเลี้ยงดูมาแบบคุณหนูลูกชายนักการเมืองที่ต้องออกไปพบปะประชาชนกับคุณพ่อตั้งแต่เด็ก   ความแสบความซนในวัยเด็กที่คุณแม่บ่นให้ฟัง  แถมยังติดผ้าห่มสีแดงที่ต้องห่มบนตัวดำๆ จนคุณแม่เรียกว่าเจ้าเงาะทีเดียว  จากวัยเด็กจนโตมาวัยรุ่นถึงเรื่องราวการเรียนการทำงานจนได้เข้ามาอยู่ในวงการบันเทิง ซึ่งเอสเล่าให้ฟังอย่างละเอียด  พร้อมทั้งให้เหตุผลว่าเป็นคุณหนูอยู่ดีๆ  แล้วทำไมถึงอยากจะมาทำงานวงการบันเทิง  ซึ่งเจ้าตัวก็เล่ากันแบบตรงไปตรงมาว่า

“ทำไมถึงตัดสินใจมาทำงานในวงการบันเทิง มันดูแตกต่างกับสิ่งที่เอสเรียนมาและ

ตัวตนของเอสมาก??เอส:ผมเป็นคนที่ชอบดูหนังมาก ผมเป็นคนไม่เที่ยวเลยแม้ว่าจะเป็นเทศกาลใดๆ ทั้งสิ้น การดูหนังของผมคือเหมือนเป็นการอ่านหนังสือเล่มหนึ่งเพราะผมก็เป็นคนที่ชอบอ่านหนังสืออยู่แล้ว พอดูหนังไปเรื่อยๆ ก็คิดว่าโอเค ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องทัศนคติ กำลังใจเรามันถูกสร้างมากจากหนังเรื่องนี้ แล้วทำไมไม่มีหนังไทยที่สร้างขึ้นมาแบบนี้บ้าง จึงทำให้เราคิดว่าถ้ามีโอกาสไม่จำเป็นต้องเป็นนักแสดงก็ได้ ไม่ต้องอยู่หน้ากล้อง จุดไหนก็ได้แต่เราอยากทำให้เขาเห็น เราคาดหวังอะไรกับงานในวงการบันเทิง?? เอส: ถ้าถามว่าอยากจะดังไหม ผมรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องไม่ถาวร ถ้าวันนั้นมีคนมาตีตราว่าผมดังหรือไม่ดังก็ไม่เป็นไร ผมขอให้คนจดจำผมในฐานะ เอสกันตพงศ์ คนที่แสดงหนังแสดงละครแล้วคนดูอิน ก็พอแล้วครับ”

พูดคุยกันจนหมดเปลือกแล้วเอสชวนพี่ดู๋และลิงไปเที่ยวอุทยานหินล้านปีฟาร์มจระเข้ที่มีสัตว์มากมายหลายชนิดแต่ที่สำคัญคือ  บ่อเลี้ยงจระเข้น้ำเค็มที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย  มีอยู่ประมาณ 5,000 ตัว ที่นี่จะเลี้ยงไว้เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวไม่ได่เอามาฆ่า ทำเป็นผลิตภัณฑ์อย่างอื่นเลย    และเมื่อพี่ดู๋เห็นว่าเอสชอบการให้อาหารจระเข้แบบนี้ เลยจัดให้แบบพิเศษ ให้เอสได้ลงไปให้อาหารจระเข้ใกล้ๆแบบตัวต่อตัวในบ่อที่จัดแสดง มีจระเข้อยู่ในนั้นร่วม 20 ตัว โดยมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลความปลอดภัย ซึ่งเอสก็ทำได้สำเร็จ  ส่วนอาการตระหนกตกใจระหว่างการให้อาหารจะออกมาแบบไหน น่าสงสาร ขำ หรือ ฮา อย่างไรติดตามชมกันได้ในรายการ  ในรายการที่นี่หมอชิตคืนวันอาทิตย์ที่ 19 มกราคมนี้ ทางช่อง 7