“พรพิมล” บิ๊กบอสค่ายโคลีเซี่ยม มั่นเนื้อเรื่องสนุก ช่อง 7 สีดัน “ลิขิต-ฮาน่า” ขึ้นแท่นพระ-นางละครหลังข่าว

หลังจากส่งละครแนวแอ็คชั่น ดราม่า คอมเมดี้ ลงจอช่อง 7 สี มาหลายเรื่องแล้ว ค่ายโคลีเซี่ยม อินเตอร์กรุ๊ป ภายใต้การบริหารงานของผู้หญิงเก่งและแกร่ง “พรพิมล มั่นฤทัย” ไม่เคยสร้างความผิดหวังให้กับผู้ชมเลย เพราะเหตุนี้ละครเรื่อง “โก๊ะ” จึงสร้างยาวถึงหลายภาคด้วยกัน วันนี้วิกน้อยสีขอส่งละครแอ็คชั่นฟอร์มดีเรื่อง “ข้ามากับพระ” ของค่ายนี้มาลงจอให้คอละครบู๊ได้มีความสุขและสนุกกันอีกครั้ง เพราะในอดีตละครเรื่องนี้เคยเป็นภาพยนตร์บู๊ฟอร์มใหญ่มาก่อน โดยเอาพระเอกชื่อดังของยุคนั้นมาประชันบทบาทร่วมกันบนจอถึง 2 คนคือ สมบัติ เมทะนี และ สรพงศ์ ชาตรี โดยมี คมน์ อรรฆเดช กำกับการแสดง

เมื่อค่ายโคลีเซี่ยมได้นำละครเรื่องนี้กลับมารีเมคใหม่เป็นละครทีวี จึงได้มอบหมายให้ลูกศิษย์ก้นกุฏิ “ทองก้อน ศรีทับทิม” รับหน้าที่เป็นผู้กำกับเหมือนเดิม โดยเนื้อเรื่องยังเป็นเค้าโครงเดิมของ “พนา ภานุมาศ” นักประพันธ์ชื่อดัง แต่ได้นำมาดัดแปลงใหม่โดย “อาร์ม อิสระ” เพื่อให้การดำเนินเรื่องเหมาะสมกับความถูกใจของคนดูในสมัยนี้ โดยมี “ภูมิ พญาไฟ” รับหน้าที่เขียนบทละครโทรทัศน์ สำหรับดารานำแสดงเป็นเลือดใหม่อนาคตไกล เพราะช่อง 7 สีที่ได้ฟันธงให้ขึ้นแท่นเป็นพระ-นางละครหลังข่าวเรื่องแรกคือ ลิขิต บุตรพรหม และ ฮาน่า ลีวิส โดยมีพระ-นางรุ่นพี่อย่าง วัชรบูล ลี้สุวรรณ และ จิลล์ โรเจอร์ มาร่วมให้ความสนุกอีกคู่หนึ่ง และยังเป็นการกลับมาเล่นละครอีกครั้งในรอบ 10 กว่าปีของพระเอกนักบุญ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ในบทของหลวงพ่อเสือที่มีอดีตอันฝังใจ จึงตัดสินใจทิ้งอาชีพผู้พิทักษ์สันติราษฎร์แล้วไปบวชเป็นพระ เพื่อชดใช้บาปที่คิดว่าตัวเองเป็นผู้กระทำขึ้น

“ข้ามากับพระ” เป็นละครที่นำมารีเมคใหม่แต่บรรยากาศในเรื่องยังเป็นละครแนวย้อนยุค โดยใช้สถานที่ของจังหวัดกาญจนบุรีเป็นหลักในการถ่ายถ่ายทำ นอกจากนี้ยังมีการตระเวณไปถ่ายทำในสถานที่สวยๆและเหมาะสมกับเนื้อเรื่องอีกหลายที่อาทิ ปากช่อง บ้านโป่ง ราชบุรี สุพรรณบุรี ฯลฯ ถึงแม้จะเป็นละครแอ็คชั่นแต่ก็มีเสียงหัวเราะเข้ามาสอดแทรกตลอด โดยเฉพาะมาดลีลากวนๆยวนๆของพระเอก ในเมื่อได้ชื่อว่าเป็นละครบู๊เพราะฉนั้นจึงมีฉากบู๊ให้ได้ดูกันอย่างเต็มอิ่มแน่นอน แม้แต่นางเอกซึ่งได้ชื่อว่าเป็นคุณหนูอย่าง ฮาน่า ลีวิส ก็ยังได้โชว์ลีลาบู๊กับเขาเหมือนกัน งานนี้ทำเอาเธอหวิดเสียโฉมเพราะมีการพลาดคิวบู๊เล็กน้อย เพราะกลัวคนที่เข้าฉากด้วยจะเจ็บตัว เธอเลยยอมเจ็บเสียเองจนหน้าลงไปจูบกับดิน ทำเอาทุกคนในกองถ่ายถึงกับตกใจแต่เธอก็ยิ้มได้และลุกขึ้นมาถ่ายทำต่อไปได้อีก

ฮาน่า ลีวิส ในบทของ แก้วตา ได้พูดถึงละครเรื่องนี้ว่า “ถึงแม้ในเรื่องจะเป็นลูกสาวคนเดียวของเสี่ยกิจที่ดูเป็นผู้หญิง แต่ความจริงแล้วแล้วก็มีความห้าวอยู่ในตัวเหมือนกันค่ะ ตจอนแรกที่รู้ว่าจะได้เป็นนางเอกละครเรื่องนี้ก็รู้สึกกดดันเหมือนกัน กลัวว่าตัวเองจะทำไม่ได้ จะทำให้คนอื่นเขาต้องเสียเวลาหรือเปล่า คือกลัวไปหมดเลยเพราะตัวอาน่าเองไม่ได้พื้นฐานในการเล่นละครบู๊มาก่อนเลย แต่พอได้มาเล่นแล้วรู้สึกว่ามันก็ไม่ได้ยากอย่างที่เรากลัว เพราะทางอาทองก้อนก็จะเป็นคนสอนคิวบู๊ให้ด้วย และตัวฮาน่าเองก็เป็นคนที่ชอบเล่นอะไรที่ผาดโผนอยู่แล้ว ทีแรกฮาน่าคิดว่าตัวเองคงไม่ได้เล่นอะไรที่บู๊ๆกับเขาหรอก แต่มีอยู่ฉากหนึ่งที่อาทองก้อนขอให้ฮาน่าได้โชว์บู๊กับเขานิดหนึ่ง ฮาน่าก็บอกว่าได้ค่ะเพราะคิดว่าคงไม่มากเท่าไหร่ ที่ไหนได้อาทองก้อนจัดเต็มเลยค่ะ ถือว่าเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ของตัวเองด้วยค่ะ ยังไงฮาน่าก็ขอฝากละครเรื่อง “ข้ามากับพระ” ไว้ด้วยนะคะ มีอะไรก็ติชมกันเข้ามาได้ฮาน่ายินดีที่จะรับฟัง เพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไขในเรื่องต่อไปค่ะ”

ทางด้าน ลิขิต บุตรพรหม พระเอกหนวดงามในบทของ “ศักดิ์ ปกาศิต” ได้พูดถึงละครหลังข่าวเรื่องแรกของตัวเองว่า “ผมต้องขอขอบคุณผู้ใหญ่ของช่อง 7 ไว้ด้วยครับ ที่ได้มอบความไว้วางใจให้ผมได้เล่นเป็นพระเอกเรื่องนี้ ซึ่งตัวผมเองก็ไม่เคยคาดคิดมาก่อน ในเมื่อทางผู้ใหญ่ให้ความไว้วางใจแล้วผมก็เต็มที่กับละครเรื่องนี้อย่างมากๆครับ ฉากบู๊ทุกฉากผมจะเล่นด้วยตัวเองหมด ถึงแม้บางฉากจะเป็นฉากที่ค่อนข้างเสี่ยงก็ตาม แต่ก่อนถ่ายทำเราก็จะมีการซักซ้อมกันเป็นอย่างดีแล้ว ที่ผมไม่ใช้แสตนด์อินก็เพราะบางฉากจะต้องถ่ายแบบสโลว์โมชั่นซึ่งก็จะเห็นหน้าของผมแบบเต็มๆ จะให้คนอื่นเล่นแทนก็ไม่ได้ครับ อย่างฉากที่ผมโดนพี่ท๊อปแกล้งถีบให้ตกจากรถ แล้วผมจะต้องมวนตัวลงไปกับพื้นแล้วยิงต่อสู้กับผู้ร้ายอีกเป็นอะไรที่สนุกมากครับ เรื่องการเจ็บเนื้อเจ็บตัวก็มีเป็นประจำแต่จะเป็นการเจ็บเล็กๆน้อยๆของการเล่นละครบู๊ ตอนนี้ละครจะออนแอร์แล้วผมก็รู้สึกตื่นเต้นว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ยังไงผมก็ขอฝากละครเรื่องนี้เอาไว้ด้วยนะครับ” หนุ่มบิ๊กเอ็มพูดทิ้งท้ายเอาไว้อย่างอารมณ์ดี

สำหรับ พรพิมล มั่นฤทัย ในฐานะผู้ดำเนินงานสร้างได้เปิดใจว่า “ที่หยิบเอาเรื่องนี้ไปเสนอให้กับทางช่อง 7 เพราะเห็นว่าเนื้อเรื่องดี มีคติสอนใจสอดแทรกเอาไว้ในความสนุกด้วย ตอนที่ทำเป็นหนังก็ดังมากๆเพราะได้พระเอกอย่างสมบัติกับสรพงศ์มาเล่นด้วยกัน พอเอามาสร้างเป็นละครย่อมมีความแตกต่างจากหนังไปบ้าง เพราะเราต้องปรับเปลี่ยนเนื้อหาให้เข้ากับยุคสมัยและความชอบของคนดูในยุคนี้ พอเอามาสร้างเป็นละครความสนุกก็จะมีมากขึ้น เพราะเราสามารถที่จะใส่รายละเอียดอะไรลงไปได้อีกตั้งมากมาย เพราะละครมีความยาวตั้ง 30 ชั่วโมง ตอนเป็นหนังแค่ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น สำหรับ “ข้ามากับพระ” เวอร์ชั่นละครเรารับรองว่าความมัน ความสนุก ไม่แพ้ตอนที่เป็นหนังใหญ่อย่างแน่นอนค่ะ” บอสสาวคนเก่งกล่าวทิ้งท้ายเอาไว้อย่างหนักแน่น