“ชัมบาลา” คนแต่ละคนออกเดินทางด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน แต่สำหรับผู้ชาย 2คน ที่ต่างมีมุมมองและเรื่องราวความรักต่างกัน

สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล
ภูมิใจเสนอ
ครั้งแรกในการโคจรมาพบกันของ
อนันดา เอเวอริงแฮม ผู้ชายที่ออกเดินทางพร้อมความหลัง
ซันนี่ ซี สุวรรณเมธานนท์ แต่เขาออกเดินทางด้วยความหวัง
ณ ดินแดนบนหลังคาโลกที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 4,000 เมตร
ชัมบาลา(SHAMBHALA)

คนแต่ละคนออกเดินทางด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน
สำหรับผู้ชาย 2คน ที่ต่างมีมุมมองและเรื่องราวความรักต่างกัน
กำลังจะพบกับการเดินทางครั้งสำคัญที่สุดในชีวิต
ที่ทำให้มุมมองความรักของทั้งคู่เปลี่ยนไป
23 ส.ค. พร้อมออกเดินทางและถามใจตัวเองว่า How far did you go for love?

เปิดบันทึกการเดินทางสู่เรื่องราวของ “ชัมบาลา”

วุฒิ(ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์) ชายหนุ่มสุดเซอร์ผู้ที่ยึดมั่นในความรักมากกว่าสิ่งใด และพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้ น้ำ(ฝน นลินทิพย์ เพิ่มภัทรสกุล) แฟนสาวผู้ที่ฝันว่าครั้งหนึ่งในชีวิต เธอจะเดินทางไปถึง ชัมบาลา ดินแดนที่ผู้คนเชื่อกันว่า เป็นประตูของโลกที่อยู่ในจุดที่ใกล้กับสวรรค์มากที่สุด แต่เมื่อร่างกายที่ไม่อำนวยเธอจึงยกความฝันนั้นให้แก่วุฒิ ไปเยือนชัมบาลาแทนเธอ วุฒิแบกความหวังของน้ำโดยหวังที่จะเติมเต็มความฝันครั้งสุดท้ายก่อนที่เธอจะจากโลกนี้ไป เดินทางสู่ชัมบาลา พร้อมกับ ทิน(อนันดา เอเวอริงแฮม) พี่ชายสุดกาก แถม ไม่กินเส้น ที่อาสาเดินทางไปเป็นเพื่อนถ่ายภาพ ช่วยเก็บหลักฐานการเยือนธิเบตของวุฒิ และ สักครั้งที่เขาทั้งคู่จะไปถึงชัมบาลา ทินเดินทางสู่ชัมบาลา พร้อมการแบกความหลังของความผิดหวังจากเจน(โอซา แวง)หญิงสาวที่เขารัก ฉากหน้าเขาเลือกที่จะเดินทางไปเยือนดินแดนแห่งนี้ เพียงเพื่อเป็นตัวป่วนน้องชาย แต่ส่วนลึกในใจ เขาไปเพื่อลืมบางอย่างในก้นบึ้งหัวใจของเขา อาการหนาว ความเหนื่อย แรงกดอากาศสูง และ ออกซิเจนที่น้อยเกินไป กลายเป็นคำถามในใจของพี่น้องคู่นี้ ว่า เส้นทางที่พวกเขาเดินไป จะใช่เส้นทางสู่สวรรค์อย่าง ชัมบาลา แน่หรือ หาคำตอบได้ 23 สิงหาคมนี้

4 ตัวละครหลักร่วมร้อยเรียง “ศรัทธาแห่งความรัก” สู่สรวงสวรรค์ “ชัมบาลา”
อนันดา เอเวอริงแฮม รับบท ทิน
พี่ชายอารมณ์ร้อน นิสัยเกรี้ยวกราด เอะอะโวยวาย ขี้โมโห พร้อมเหวี่ยงทุกชีวิตที่อยู่บนโลกใบนี้ เคยทุ่มเทความรักจนหมดใจ จนไม่สามารถรักใครได้อีกแล้ว
นักแสดงหนุ่มลูกครึ่งออสเตรเลีย-ลาววัย 30 ปี เริ่มต้นเข้าวงการตอนอายุ 14 ปี มีอันดากับฟ้าใสเป็นผลงานการแสดงภาพยนตร์เรื่องแรก เป็นศิษย์เอกของหม่อมน้อย มล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล ผกก.ปรมาจารย์ทางด้านการแสดงชั้นแนวหน้าของเมืองไทย ตลอดระยะเวลา 15 ปีในวงการบันเทิงมีผลงานภาพยนตร์ทั้งในและต่างประเทศอินดี้และกระแสหลักถึง 22 เรื่อง ผลงานละคร 6 เรื่อง ผลงานภาพยนตร์แต่ละเรื่องของเขามักได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพยนตร์เรื่องแฮปปี้เบิร์ดเดย์และชั่วฟ้าดินสลายที่คว้ารางวัลจากสถาบันต่างๆ มากมาย ล่าสุดมี “ชัมบาลา” เป็นผลงานการแสดงภาพยนตร์เรื่องล่าสุด นอกเหนือจากงานแสดงอนันดายังทำหน้าที่โปรดิวเซอร์ในภาพยนตร์หลายต่อหลายเรื่องที่เขาเข้าไปมีส่วนร่วม

ซันนี่ ซี สุวรรณเมธานนท์ รับบท วุฒิ
น้องชายที่มีนิสัยแตกต่างอย่างสุดขั้วกับพี่ชาย สุภาพ จิตใจดี เก็บความรู้สึก ชีวิตอยู่ในกรอบ ไม่โลดโผน ศรัทธาและยึดมั่นในความรักที่มีต่อ น้ำ แฟนสาว ซึ่งเปิดร้านกาแฟเล็กๆ ด้วยกัน
นักแสดงหนุ่มสุดฮอตวัย 31 ปี ลูกครึ่งไทย-สิงคโปร์-ฝรั่งเศส เริ่มต้นเข้าวงการและประสบความสำเร็จจากบทไข่ย้อยในเพื่อนสนิท และคว้ารางวัลนักแสดงนำฝ่ายชายยอดเยี่ยมจากคมชัดลึกอวอร์ด ก่อนที่จะมีผลงานอีก 2 เรื่องตามมาอย่างสายลับจับบ้านเล็ก,รถไฟฟ้ามาหานะเธอ (ในบทรับเชิญ) รวมทั้งซิทคอมสุดฮิตอย่าง เนื้อคู่ประตูถัดไปและเนื้อคู่อยากรู้ว่าใคร นอกจากนี้ยังมีบทบาทในฐานะพิธีกรรายการโทรทัศน์,พระเอกมิวสิควิดีโอ,พรีเซนเตอร์โฆษณาสินค้า ฯลฯ ล่าสุดกำลังจะมีภาพยนตร์เรื่องชัมบาลาที่พลิกบทบาทครั้งสำคัญ

โอซา แวง รับบท เจน

หญิงสาวชาวต่างชาติ ผู้หลงเสน่ห์ในความเป็นไทย ก่อนที่จะตกหลุมรักและเลือกตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกับหนุ่มไทยอย่าง “ทิน” ด้วยความรักยอมทำทุกอย่าง ไม่ว่าจะเรียนรู้ภาษาไทยและหัดทำอาหารไทย
ซูเปอร์โมเดลสาวลูกครึ่งจีน-สวีเดนวัย 30 ปี เจ้าของตำแหน่ง FHM Asian Sexiest ถึง 3 ปีซ้อน เริ่มต้นเป็นนางแบบตอนอายุ 18 ปี ก่อนหน้านี้มีผลงานการแสดงเรื่องสวยลากไส้, Clouds in my coffe (สิงคโปร์), Drink Drank Drunk (ฮ่องกง), Prince and Me Part 4 (ฮอลลีวู้ด) ล่าสุดเป็นกรรมการตัดสินรายการ SUPERMODEL ME season 3 ที่สิงคโปร์ และ ชัมบาลา ที่แฟนๆ จะได้เห็นโอซา แวงพูดภาษาไทยเต็มๆ ตัวบนแผ่นฟิล์ม นอกจากนี้โอซายังมีงานด้านแฟชั่นโดยเป็นดีไซเนอร์เสื้อผ้าให้กับ CHAPS และมีงานถ่ายแบบและพรีเซ็นเตอร์ให้กับสินค้าต่างๆ ทั้งในเมืองไทย, สิงคโปร์, ฮ่องกง

นลินทิพย์ เพิ่มภัทรสกุล รับบท น้ำ

หญิงสาวที่มีหัวใจอิสระ รักและชื่นชอบในงานศิลปะ เป็นแรงบันดาลใจและสอนให้ “วุฒิ” เรียนรู้และเข้าใจชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรัก
สาวน้อยวัย 25 ปี พิธีกร (รายการ HOME SWEET HOME) นักแสดงที่หลายคนคุ้นหน้าคุ้นตาจากมิวสิควิดีโอของศิลปินต่างๆ มากมายตั้งแต่เบิร์ด ธงไชย, ว่าน, บี้ เดอะสตาร์, กะลา, ตุ้ย เอเอฟ ไปจนถึงดา เอ็นโดรฟิน (ยิ่งรู้จักยิ่งรักเธอ) นอกจากนี้ยังมีผลงานการแสดงในภาพยนตร์เทิดพระกียรติเรื่องทางแยกวัดใจ (GTH), ภาพยนตร์บัตเลอร์ทางทรูมูฟวี่ และล่าสุดกำลังจะมีภาพยนตร์เรื่องชัมบาลา ที่รับบทเป็นคนรักของซันนี่

DIRECTOR’s NOTE โดย ปี๊ด ปัญจพงศ์ คงคาน้อย

“บทภาพยนตร์ที่ดีต้องจับใจและทุกตัวละครต้องสัมผัสได้”

“มีรุ่นน้องของผมคนหนึ่งเขาสอนผมว่าหนังที่ดีคือหนังที่ TOUCH กับคนดูได้ ผมก็ไม่เข้าใจว่า TOUCH ของมันคืออะไร จนเขาอธิบายให้ผมฟังว่าคือคนดูสามารถเป็นตัวละครหนึ่งในนั้นได้ ซึ่งเฮ้ยจริงวะ ที่มีคนบอกว่าบทหนังผมมัน TOUCH กับคน ตอนแรกผมก็ไม่เข้าใจ พอมาอ่านอีกทีคุณสามารถเป็นทิน (ตัวละครที่รับบทโดยอนันดา) ได้นะ คุณสามารถเป็นคนที่เคยทำผิดต่อความรัก เคยสำมะเลเทเมา พยายามหาทางออกได้ คุณสามารถเป็นวุฒิ (ตัวละครที่รับบทโดยซันนี่) ที่สังคมหรือสิ่งรอบข้างสามารถเปลี่ยนแปลงคุณให้เป็นอีกแบบหนึ่งได้ คุณสามารถเป็นตัวละครเจนที่แสดงโดยโอซา แวง คือผมเชื่อว่าผู้หญิงทุกคนต้องการเวลา ต้องการกำลังใจจากคนที่รัก คุณสามารถเป็นผู้หญิงที่ดูเหมือนว่าจะอ่อนแอ แต่จริงๆ แล้วเข้มแข็งเหมือนน้ำ (คนรักของซันนี่ในภาพยนตร์) รับบทโดยฝน นลินทิพย์ได้ คือตัวละครในนี้ทั้งหมดมันมีอยู่จริงบนโลกใบนี้ มันขึ้นอยู่กับว่าในช่วงเวลาไหน คุณเป็นตัวไหน อย่างช่วงเวลานี้วัยรุ่นคุณอาจจะเป็นทิน พอผ่านไปสักพักคุณอาจจะเป็นวุฒิ วันหนึ่งคุณอาจจะเป็นโอซา แวงหรือเป็นฝน ได้หมด เพราะฉะนั้นสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นในหนังเรื่องนี้ เมื่อคุณได้เข้าไปดูแล้ว มันเป็นเป้าหมายของผมเลยว่า ผมอาจทำหนังขึ้นมาหนึ่งเรื่อง แล้วเมื่อคุณได้เข้าไปดูแล้วเกิดฉุกคิดอะไรบางอย่าง ตัวผมแค่มีหน้าที่ทำให้คนดูฉุกคิดได้ว่า เฮ้ยถ้าเขามีชีวิตแบบทินในเรื่อง เขาจะทำยังไงกับตัวเขาเองนะ เฮ้ยถ้าตอนนี้เขาเป็นแบบวุฒิเขาจะต้องทำยังไง เขาจะไปต่อยังไง ซึ่งผมว่าตรงนี้น่าจะเป็นหน้าที่ของคนทำหนังทุกคน และถ้ามันสามารถทำได้จริงๆ ผมก็คิดว่าแค่นี้ผมก็ประสบความสำเร็จแล้ว”

เปิดลิ้นชักความฝันตลอด 10 ปีของ “ผกก.ปี๊ดปัญจพงศ์” กับ “โปรเจ็คต์หนังทิเบต”

สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล พร้อมชวนทุกคนออกเดินทางสู่ “สวรรค์บนหลังคาโลก” ที่ที่ต้องใช้ศรัทธา ความรักและความมุ่งมั่นในการเดินทาง ที่ที่คนนับล้านเฝ้าฝันถึงว่าครั้งหนึ่งในชีวิตจะต้องไปเยือนและสัมผัสให้ได้ กับ “ชัมบาลา” ภาพยนตร์โรแมนติค-ดราม่าที่หลายคนรอคอย และมีหลายสิ่งหลายอย่างของตัวภาพยนตร์ที่พูดได้ว่ามีความพิเศษแตกต่างจากภาพยนตร์ไทยหลายๆ เรื่องที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกที่ยกกองไปถ่ายทำและเดินเรื่องในดินแดนบนหลังคาโลกอย่างทิเบตเป็นหลัก และเลือกใช้โลเกชั่นที่เรียกได้ว่าเป็น UNSEEN ทิเบตที่แม้แต่คนทิเบตเองก็อาจจะยังไม่เคยสัมผัสมาก่อน นอกเหนือไปจากการได้ 2 ซูเปอร์สตาร์ชายชั้นแนวหน้าของเมืองไทย อย่าง “อนันดา เอเวอริงแฮม” และ “ซันนี่ ซี สุวรรณเมธานนท์” มาพลิกบทบาทครั้งสำคัญในการโคจรมาพบกันครั้งแรก รวมไปถึงการที่โปรเจ็คต์ใช้เวลาถึง3ปีภายใต้การระดมทีมงานระดับฝีมือในด้านต่างๆ ตั้งแต่ผู้กำกับภาพระดับท็อปไฟว์ของเมืองไทยอย่าง น้ากล้วย-ณัฐวุฒิ กิตติคุณ (โหมโรง, นางนาก, ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช, องค์บาก 1-3, ต้มยำกุ้ง) ผกก.ศิลป์ บรรพต งามขำ (ปืนใหญ่จอมสลัด, องค์บาก2-3), เล็ก GREASY CAFE(อภิชัย ตระกูลเผด็จไกร) เจ้าของรางวัลศิลปินชายยอดเยี่ยม-คมชัดลึกอวอร์ด, แฮมเบอร์เกอร์อวอร์ด ,fat awards มาประพันธ์และขับร้องเพลง “ประโยคบอกเล่า” เพื่อใช้ประกอบภาพยนตร์เรื่องชัมบาลาโดยเฉพาะ ฯลฯ โดยทั้งหมดร่วมทุ่มเทแรงกายและแรงใจกันอย่างสุดชีวิตจนในที่สุดภาพยนตร์พร้อมแล้วที่จะปรากฎสู่สายตาทุกคนที่เฝ้ารอคอยในวันที่ 23 ส.ค.นี้แล้ว

แต่ใครจะคาดคิดว่ากว่าจะเกิดเป็นโปรเจ็คต์ในฝันของ “ปี๊ด-ปัญจพงศ์ คงคาน้อย” ผู้กำกับซึ่งผ่านประสบการณ์คร่ำหวอดในวงการโทรทัศน์, โฆษณา, มิวสิควิดีโอมาทั้งชีวิต และเป็นเจ้าของไอเดียโปรเจ็คต์หนังทิเบตที่เขาเริ่มต้นคิดเมื่อ 11 ปีที่แล้วและเขียนเป็นบทภาพยนตร์ร่วมกับ ณัฐ นวลแพง (นาคปรก) จะกลายเป็นจริงหลังจากที่มีโอกาสได้ไปเยือนทิเบตครั้งแรกในชีวิต ตามด้วยครั้งที่ 2 3 และ 4 ในเวลาต่อมา ก่อนที่จะมีโอกาสเขียนบทภาพยนตร์อีกนับสิบๆ เรื่องแต่ก็ไม่มีบทภาพยนตร์เรื่องใดที่อยู่ในลิ้นชักความฝันของเขาจะดึงดูดใจในการเลือกหยิบมาสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิตเท่าโปรเจ็คต์หนังทิเบตที่เขารู้สึกร่วมและมีความสุขทุกครั้งตลอดระยะเวลาเป็นปีๆ ในการขัดเกลาปรับเปลี่ยนและแก้ไขตัวบทภาพยนตร์จนในท้ายที่สุดกลายมาเป็น “ชัมบาลา” หนังเรื่องแรกในชีวิตของเขาอย่างสมใจ

“ในระหว่าง 10 ปีก่อนที่จะมาทำชัมบาลา ผมเขียนบทและส่งบทหนังทุกปี จำได้ว่าเขียนมาจนถึงปีที่ 8 ก็มีสตูดิโอๆ หนึ่งเขาเริ่มสนใจให้เราเขียนบทไปเสนอ ตอนนั้นรู้สึกว่า 7 ปี 7 เรื่องหรือเยอะกว่านั้น เราเอาเรื่องที่มันมีความประทับใจติดอยู่ในใจดีกว่า ซึ่งเราพยายามย้อนถามว่าชีวิตเราผ่านมา ประสบการณ์ช่วงไหนที่เรารู้สึกอยากจะเขียน ก็จำได้ว่าเฮ้ยตอนไปทิเบต (ทำรายการแดนบีมเดอะซีรี่ส์รายการท่องเที่ยวที่ไปยังทุกทวีปที่มีอยู่บนโลกใบนี้) ก็เลยกลับมาคิดถึงเรื่องทิเบต หลังจากที่ได้เขียนและปรับเปลี่ยนแก้ไขอยู่หลายครั้ง ก็มีช่วงที่ท้อ แต่ก็รวบรวมกำลังใจอยู่เกือบปีเหมือนกัน เริ่มต้นใหม่เปลี่ยนมุมมองทัศนคติง แต่ก็ไม่ลืมความเป็นตัวของตัวเอง ในระหว่างนั้นเพื่อนที่ทำงานอยู่ที่สหมงคลฟิล์มแนะนำว่าลองเสนอที่นี้ด้วยมั้ย จำได้ว่าวันแรกที่เรามาที่นี่ คนที่นี่ก็ให้โอกาสเราแล้ว เราก็รู้สึกว่าเราทำกับที่นี่ดีกว่า เพราะว่าตอนที่คุยกันทีแรกกับที่นี่เหมือนกับไม่ค่อยมีใครบังคับเราเลย เหมือนกับอิสระมาก แล้วแต่เราจะคิดเราทำ แล้วก็ได้ไอเดียต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นจากคุณเสี่ย (เสี่ยเจียง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐประธาน บ.สหมงคลฟิล์มอินเตอร์เนชั่นแนล) คุณหนึ่ง (อัครพล เตชะรัตนประเสริฐโปรดิวเซอร์ภาพยนตร์เรื่องชัมบาลา) หรือทีมงานที่นี่ บอกว่าหนังที่ควรจะเป็น จะเป็นอย่างไร ก็เลยปรับๆๆๆ ออกมาก็เลยกลายเป็นชัมบาลาในปัจจุบัน จากเดิมที่เคยเป็น knocking on a heaven’s door ในเวอร์ชั่นดราฟท์แรก”