“มีน พีรวิชญ์” ปลื้มคนชื่นชอบฝีมือการแสดง ยอมรับทำงานหนัก เร่งสร้างความมั่นคง หวั่นธุรกิจทางบ้านปิดกิจการ >>

ทำเอาปลื้มใจสุดๆ ที่ทุ่มเทในการแสดงและได้รับคำชื่นชมกลับมาเป็นกำลังใจ สำหรับนักแสดงหนุ่มมากความสามารถ “มีน – พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร” ซึ่งกำลังมีผลงานเรื่อง กรงดอกสร้อย ออกอากาศทางช่อง 3 โดยรับบทเป็น รณภพ ซึ่งหนุ่มมีนเผยว่ากระแสตอบรับดีมากๆ จนผู้จัดละครอย่าง “เมย์ – ปทิดา กำเนิดพลอย” ลั่น! ถ้าเรตติ้งสูงพร้อมเลี้ยงใหญ่ “ตอนนี้ละครเรื่องกรงดอกสร้อยออนแอร์เข้าสู่ตอนที่ 4 แล้ว ฟีดแบคสำหรับผมดีมากๆ การทำงานเรื่องนี้เป็นการแสดงในอีกแบบที่ไม่เคยได้มีโอกาสเล่น หลังจากออนแอร์ไปทางครอบครัว ญาติๆ  หรือเพื่อนคุณพ่อ คุณแม่ก็บอกว่าดูอยู่ จะคอยถามตลอดว่าคุณรณภพจะร้ายไหม หรือจะเป็นยังไง ดูแล้วก็ลุ้นกับละครไปด้วย ดีใจที่ทุกคนชอบละครเรื่องกรงดอกสร้อย”

ซึ่งความฮอตของหนุ่มมีนก็ยังพุ่งอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ละครกำลังออนแอร์ ก็ยังเทคิวถ่ายละครอีก 3 เรื่อง แบบแทบจะไม่มีวันหยุด ชนิดทำงานตัวเป็นเกลียว หัวเป็นน็อต เก็บตังค์แบบรัวๆ  “หลังจากถ่ายกรงดอกสร้อยเสร็จ ก็ได้มีเวลาพักประมาณ 2 เดือน เลยวางแผนไปต่างประเทศ หาแรงบันดาลใจใหม่ๆ ได้ไปเรียนการแสดงเพิ่มเพื่อปรับใช้ในการทำงาน ตอนนี้กลับมาทำงานเต็มที่ มีละครอยู่ 3 เรื่อง ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่หนักมากๆ แต่คิดว่าน่าจะบริหารเรื่องเวลาได้อยู่”

และที่ต้องทำงานหนักชนิดแทบจะไม่มีวันพักเลย เพราะเจ้าตัวบอกอย่างเร่งเก็บเงินเพื่อดูแลครอบครัว หวั่นธุรกิจทางบ้านจะปิดกิจการ หลังมีรายได้ให้ใช้จ่ายแค่ค่าน้ำ ค่าไฟ “ด้วยธุรกิจของครอบครัวที่ทำร้านอินเทอร์เน็ต ยอมรับว่าที่ผ่านมาก็มีรายได้ทำให้อยู่ได้ แต่ตอนนี้ร้านอินเทอร์เน็ตค่อนข้างซบเซา รายได้ไม่เหมือนเดิม ทุกวันนี้มีเงินเข้ามาแค่ได้จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ หักค่าใช้จ่ายไปในบางเดือนพนักงานที่จ้างมามีรายได้เยอะกว่าแม่ในทุกวันนี้อีก ธุรกิจที่บ้านก็แทบจะไม่ได้เพียงพอต่อการใช้ชีวิต แต่สุดท้ายในตอนนี้แม่ก็ยังอยากทำอยู่”

ทางที่ต้องเลือกเมื่อเผชิญกับวิกฤตธุรกิจครอบครัว ควักเงินลงทุนก้อนใหญ่หรือพอแค่นี้ ? “ต้องยอมรับว่าปัจจุบันคนเข้าใกล้เทคโนโลยีมากขึ้นครับ เล่นเกม เล่นโซเชียล ทำงานในมือถือได้ ส่วนอุปกรณ์ก็ล้ำสมัยมากขึ้นในราคาที่ถูกลง คนมีคอมอยู่ที่บ้าน เมื่อก่อนเราต้องมาเล่นเกมด้วยกันก็จะอาศัยร้านอินเทอร์เน็ตได้ แต่ตอนนี้มีการพัฒนาเกมดีขึ้น ต้องใช้คอมตัวที่แรงขึ้น ถ้าเราจะไปลงทุนอัพคอมแพงๆ และมาขายชั่วโมงละ 15 – 20 บาท ก็ไม่คุ้มแล้ว ตอนนี้ร้านอินเทอร์เน็ตเหมือนไม่ได้มีไว้เพื่อเล่นเกมแล้ว แต่เป็น Community มากกว่า มีเด็กๆ แวะมานั่งคุยกับคุณพ่อ คุณแม่ผมอยู่บ้าง หรือมาเล่นแค่ไม่กี่ชั่วโมง ส่วนตัวมองว่าถ้าจะไปรอดต้องมีแผนที่จะขยายเป็นร้าน

ใหญ่ๆ และดี อัพเกรดคอมใหม่ ผมมองว่าถ้าจะเป็นธุรกิจอินเทอร์เน็ตก็ยังมีร้านที่ทำได้ดีอยู่ เพราะว่า E-Sport ก็กำลังมา ถ้าเราปรับร้านเป็นเกมมิ่งที่มีคอมคุณภาพสูงและมีค่าชั่วโมงที่สูงขึ้นก็น่าจะไปต่อได้ แต่ด้วยความที่ร้านของครอบครัวอยู่ฉะเชิงเทรามองว่าอาจจะไม่เฟื่องฟูเท่ากับในกรุงเทพ รวมถึงคุณพ่อ คุณแม่ ก็อายุมากแล้ว ตัวผมเองไม่ได้มีแผนสำหรับการรับช่วงต่อกิจการ แต่สิ่งที่เราทำได้คือ ตอนนี้เรามีรายได้ และเลี้ยงดูท่านไหวเลย ทางครอบครัวก็น่าจะค่อยๆ ถอยออกมาจากธุรกิจที่ทำอยู่”

โดยหนุ่มมีนยอมรับว่าถึงจะเหนื่อยในการทำงานแบบแทบจะไม่มีวันหยุด แต่ทั้งหมดก็เพื่อครอบครัว หลังจากสร้างความภูมิใจสร้างบ้านในกรุงเทพเสร็จแล้ว ก็อยากให้ครอบครัวย้ายมาอยู่ด้วย “ตอนนี้คุณพ่อใจอ่อนย้ายมาอยู่ที่กรุงเทพด้วยกันแล้ว แต่คุณแม่ยังห่วงธุรกิจที่บ้านอยู่ ถึงลูกค้าจะไม่ค่อยมี ธุรกิจจะซบเซา แต่คุณแม่ที่ดูแลร้านมาตลอดก็ยังอยากที่จะเปิดร้านอินเทอร์เน็ตอยู่ อยากอยู่กับเพื่อนบ้านพยายามชวนให้คุณแม่มาอยู่ด้วยกันตลอด สักวันท่านคงน่าจะใจอ่อนแล้วมาอยู่กันแบบพร้อมหน้า พร้อมตาครับ”

ถึงจะทุ่มเทหาเงินดูแลครอบครัว ตั้งใจกับการแสดง แต่หนุ่มมีนก็ยังมีช่วงได้พักผ่อนกับกิจกรรมใหม่ที่หลงรักหนักมากกับการดำน้ำ พร้อมด้วยเพื่อนร่วมทริปสุดซี้ “เรื่องการดำน้ำเพิ่งมาสนใจเมื่อช่วงโควิด ได้ยินมาว่าประเทศไทยมีที่สวยๆ อย่างทะเล เลยไปลงเรียนดำน้ำอย่างจริงจัง เวลาได้หยุดงาน 5-7 วัน ก็จะวางแผนไปดำน้ำ ถือเป็นการพักผ่อนด้วย ออกไปเจอธรรมชาติ ได้อยู่บนเรือ ซึ่งการดำน้ำยังช่วยฝึกสมาธิ  เพื่อนในวงการร่วมทริปที่ไปด้วยกันก็จะเป็น วี วิโอเล็ต และเก้า จิรายุ นี่แหละที่จะนัดไปดำน้ำด้วยกัน วางไว้ว่าจะได้ทริปดำน้ำปีละครั้ง”

โดยหนุ่มมีน ยังขอฝากทิ้งท้ายให้ติดตามผลงานการแสดงเรื่อง กรงดอกสร้อย ที่ออกอากาศวันศุกร์ – อาทิตย์ ทางช่อง 3 เรื่องราวจะน่าติดตามมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเรื่องนี้เจ้าตัวบอกตั้งใจมากๆ ได้ปรับเรื่องการแสดงในอีกมิติ เพื่อให้ได้เห็นถึงศักยภาพในการทำงานที่พัฒนาขึ้นในแต่ละบทบาท