แกรนด์พรีเมียร์ “CHINESE ZODIAC” (ไชนิส โซดิแอค) วิ่งปล้นฟัด ถือฤกษ์ดีวันที่ 12/12/12 เปิดตัวยิ่งใหญ่ในปักกิ่งสเตเดี้ยม

ถือว่าเป็นภาพยนตร์แห่งการเฉลิมฉลองส่งท้ายปี 2012 โดยเมื่อวันที่ 12 เดือน 12 ปี 2012 ก็คือฤกษ์งามยามดีสำหรับการจัดงานแกรนด์พรีเมียร์ของ Chinese Zodiac ภายในสเตเดี้ยมรังนกในกรุงปักกิ่ง โดยนอกจาก เฉินหลง แล้ว ก็ยังได้สามนักแสดงสาวในเรื่องอย่าง จางหลานซิน, เหยาซิงถง และ ลอร่า วีสเบ็คเกอร์ ที่ให้เกียรติเข้ามาร่วมเปิดงาน รวมถึงนักร้อง/นักแสดงชื่อดังอย่าง วังลีฮอม และ หลางหล่าง นักเปียโนชาวจีนที่มีชื่อเสียงดังระดับโลกอีกด้วย

ภายในงาน เฉินหลง ก็กล่าวถึงแรงบันดาลใจในการทำภาพยนตร์เรื่อง Chinese Zodiac ว่า “ผมต้องการทำหนังในสไตล์ แจ็คกี้ ชาน ที่ผสมผสานแอ็คชั่นและตลก ที่มีทั้งความตื่นเต้น สนุก มันส์ และสามารถดูได้ทั้งครอบครัว นี่คือหนังที่ใช้เวลาในการเดินทางกว่า 7 ปี ตั้งแต่ที่ผมคิดถึงเรื่องราวและพัฒนาบทภาพยนตร์ทีละเล็กละน้อย ด้วยการเดินทางไปรอบโลกและเก็บรายละเอียด เพื่อที่จะนำมาสร้างแต่ละซีเควนซ์ในภาพยนตร์เรื่องนี้ อาจเรียกได้ว่า CZ12 คือลูกที่ผมเลี้ยงโตมากับมือ และก็เป็นหนังที่ผมภูมิใจมากที่สุดในรอบ 10 ปี”

โดยซีเควนซ์งานเปิด เฉินหลง ก็ยังเรียกเสียงฮือฮาสร้างเซอร์ไพรซ์ให้กับแฟนๆ ด้วยการร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ที่ชื่อ “12 Zodiacs” ร่วมกับนักร้องหนุ่มสุดฮอต วังลีฮอม โดยบนเวทีก็ยังมีการให้ จางหลานซิน นักแสดงสาวที่เคยเป็นแชมป์โลกเทควันโด้ ปี 2004 แสดงความสามารถ ด้วยการเตะเป้าที่อยู่เหนือหัวขณะที่ปิดตาอยู่ ซึ่งเธอก็สามารถเตะโดนเป้าได้อย่างแม่นยำ ในขณะเดียวกันบนเวทีก็มีการตั้งโชว์หัวรูปปั้นทองแดง 12 นักษัตร ที่ทีมงานได้จำลองขึ้นมาเพื่อใช้ในภาพยนตร์ โดย เฉินหลง ก็ยังได้บริจาคหัวรูปปั้นทั้งหมดให้กับทางการจีนอีกด้วย

หลังจากจบงาน เฉินหลง ก็ให้สัมภาษณ์ถึงข่าวที่เขาได้รับการรับรองจากกินเนสส์บุ๊ก หลังจากที่ Chinese Zodiac เขาเป็นคนที่ได้รับเครดิตมากที่สุดถึง 15 ตำแหน่ง โดยเมื่อถูกถามถึงส่วนงานไหนที่เขาชอบสุด เขาก็เผยว่า “ผมอยู่ในวงการมา 52 ปี จะพูดเลยก็ได้ว่าผมเกิดและเติบโตในกองถ่าย ผมทำมาแล้วทุกตำแหน่ง ตั้งแต่ช่างไฟไปจนถึงเด็กเข็นกล้อง นี่คือส่วนหนึ่งในชีวิตผม มีหลายคนถามผมว่าคุณแบกรับความรับผิดชอบขนาดนี้ได้ยังไง มันไม่ยากเลยเพราะผมโตมากับมัน แต่ถ้าถามถึงตำแหน่งที่ผมชอบที่สุด ผมคงต้องตอบว่าผู้กำกับ เพราะนี่คือตำแหน่งที่ผมสามารถควบคุมได้ทุกกระบวนการ ผมรู้ว่าตัวเองต้องการอะไรและอยากเห็นอะไรในหนัง นั่นคือเหตุผลที่ผมต้องการทำด้วยตัวเอง”