บุญรอดบริวเวอรี่ และสิงห์ คอร์เปอเรชั่น นำความประทับใจกลับมาให้คนไทยอีกครั้ง หลังประสบความสำเร็จอย่างงดงามในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติที่ฮาวาย จัดฉายภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “คีตราชนิพนธ์ บทเพลงในดวงใจราษฎร์” ชมฟรี ๒-๗ ธันวาคมนี้ ที่โรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ทั่วประเทศ

เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวาระมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๕ ธันวาคม ๒๕๕๘ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด เตรียมส่งมอบความสุขและนำความประทับใจกลับมาให้คนไทยทั่วประเทศอีกครั้ง โดยการจัดฉายภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “คีตราชนิพนธ์ บทเพลงในดวงใจราษฎร์” ผลงาน ๔ ภาพยนตร์สะท้อนชีวิตต่างวัย โดย ๔ ผู้กำกับชั้นแนวหน้าของเมืองไทย ซึ่งมีแรงบันดาลใจจาก ๔ บทเพลงพระราชนิพนธ์ ที่ได้สร้างความประทับใจและแรงบันดาลใจให้กับคนไทยมาแล้วเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา อีกทั้งยังได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนภาพยนตร์จาก Southeast Asia ฉายใน Hawaii International Film Festival 2015 เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา และ ในเทศกาล East Winds Film Festival 2016 ณ เมือง โคเวนทรี อังกฤษ

ในงานแถลงข่าว จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี กรรมการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอด บริวเวอรี่ จำกัด กล่าวถึงที่มาของโครงการว่า “ภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติชุดนี้เป็น ๑ ใน ๓ ของโครงการผลิตสื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพระเกียรติคุณและพระอัจฉริยภาพด้านดนตรี ได้แก่ สารคดีสั้น ชุด คีตราชา, กิจกรรมแคมป์สำหรับเยาวชน “Pro Musica Junior Camp supported by Boon Rawd Brewery” และโครงการผลิตภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ชื่อชุด “คีตราชนิพนธ์ บทเพลงในดวงใจราษฎร์” ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดย บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และบริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด โดยเป็นโครงการใหญ่และเป็นที่ภาคภูมิใจของบริษัทมาก เพราะนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ได้พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เชิญบทเพลงพระราชนิพนธ์มาเผยแพร่ เนื่องจากบทเพลงพระราชนิพนธ์ที่พระราชทานไว้นั้นมีคุณค่าและควรที่จะเผยแพร่ให้ประชาชนได้ตระหนักถึงความงดงาม ความหมายที่แฝงอยู่ในบทเพลง โดยเฉพาะเยาวชนคนรุ่นใหม่ควรจะรู้จักเพลงพระราชนิพนธ์ให้มากขึ้น เราจึงคิดทำภาพยนตร์ชุดนี้ขึ้น”

ณัฐวรรณ ทีปสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงานประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ร่วมเปิดเผยถึงความพิเศษของการกลับมาฉายอีกครั้งว่า “การกลับมาครั้งนี้เรียกว่ามีความพิเศษเกิดขึ้นหลายอย่าง เรื่องแรกคือ ได้มีการเรียบเรียงดนตรีขึ้นใหม่ โดยนำทั้ง ๔ เพลงมาเรียบเรียงแบบเมดเลย์ และได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เผยแพร่ในรูปแบบนี้ได้ ส่วนการขับร้องก็ได้เชิญศิลปินเดอะ สตาร์ ๕ ท่านมาร่วมขับร้องเพลงนี้ ถือว่าเป็นการประชาสัมพนธ์ให้ขยายไปสู่กลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่มากขึ้น และอยากชักชวนให้คนรุ่นใหม่ได้รู้จักบทเพลงพระราชนิพนธ์อันทรงคุณค่าด้วย นอกจากเรื่องดนตรีแล้วความพิเศษอีกอย่างคือ ครั้งที่แล้วเมื่อเดือนพฤษภาคม เราจัดฉายในกรุงเทพฯ เป็นเวลา ๔ วัน บัตรเข้าชมฟรี ๓๐,๐๐๐ ใบนั้นเต็มทุกที่นั่ง การกลับมาฉายครั้งนี้ เพื่อให้ผู้ชมได้ชมกันอย่างทั่วถึง เราได้จัดเตรียมบัตรไว้ทั้งหมด ๓๐๐,๐๐๐ ที่นั่ง ให้ชมฟรี ในโรงภาพยนตร์เครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ทั่วประเทศ”

ในงานแถลงข่าวยังมี ๔ ผู้กำกับ ได้แก่ นนทรีย์ นิมิบุตร, วัลลภ ประสพผล, ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ และยงยุทธ ทองกองทุน รวมทั้งตัวแทนนักแสดงจากภาพยนตร์ทั้ง ๔ เรื่อง ที่จะมาเปิดเผยความประทับใจในการเป็นส่วนหนึ่งของโครงการภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติดังกล่าว พร้อมรับชมไฮไลท์สุดประทับใจจาก ๕ ศิลปิน เดอะสตาร์ แก้ม-วิชญาณี เปียกลิ่น, กัน-นภัทร อินทร์ใจเอื้อ, ริท-เรืองฤทธิ์ ศิริพานิช, โดม-จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม และตั้ม-วราวุธ โพธิ์ยิ้ม ที่จะมาร่วมกันขับร้องบทเพลงพระราชนิพนธ์ทั้ง ๔ เพลง ซึ่งนำมาเรียบเรียงใหม่ในแบบเมดเล่ย์ เพื่อประชาสัมพันธ์โครงการ และเชิญชวนเยาวชนคนรุ่นใหม่ ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการสัมผัสพระอัจฉริยภาพทางดนตรีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวผ่านภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติทั้ง ๔ เรื่องนี้ด้วย ในวันศุกร์ที่ ๒๗ พฤศจิกายนนี้ ณ โรงภาพยนตร์พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ๗ ชั้น ๖ ศูนย์การค้าสยามพารากอน

ทั้งนี้ในช่วงค่ำได้จัดฉายรอบพิเศษ ภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “คีตราชนิพนธ์ บทเพลงในดวงใจราษฎร์” โดยมีแขกรับเชิญทั้งในแวดวงสังคม และวงการบันเทิงกว่าพันคนที่ได้เข้าร่วมงานเลี้ยงรับรองและรับชมภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติ พร้อมรับชมการขับร้องบทเพลงพระราชนิพนธ์ที่เชิญมาประกอบภาพยนตร์ ได้แก่ เพลง สายฝน จากนักร้องระดับตำนานของเมืองไทย อัญชลี จงคดีกิจ และเพลง ชะตาชีวิต จากนักร้องคุณภาพ ธนิดา ธรรมวิมล (ดา เอนโดฟิน) ณ โรงภาพยนต์สยามภาวลัย ศูนย์การค้าสยามพารากอน

วาปี ภิรมย์ภักดี รองประธานกรรมการ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด กล่าวถึงความสำเร็จของโครงการผลิตภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “คีตราชนิพนธ์ บทเพลงในดวงใจราษฎร์” ว่า “เนื่องในวาระมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๘ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๘ ที่จะกำลังถึงนี้ บริษัทบุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และบริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด จึงได้นำภาพยนตร์กลับมาฉายอีกครั้ง เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา รวมทั้งให้ประชาชนได้ร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ได้พระราชทานบทเพลงพระราชนิพนธ์ และจดจำเรื่องราวจากภาพยนตร์ไปเป็นแรงบันดาลใจในการคิดและปฏิบัติตนให้เป็นคนดีต่อสังคม โดยเฉพาะเยาวชนคนรุ่นใหม่ ทั้งนี้นอกจากภาพยนตร์ คีตราชนิพนธ์ บทเพลงในดวงใจราษฎร์ จะสร้างความประทับใจและเป็นที่ชื่นชมแก่ผู้ที่ได้ชมชาวไทยแล้ว ยังได้รับเชิญให้นำไปฉายที่เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกาในปีนี้ และในเดือนพฤษภาคมปีหน้า ยังได้รับเชิญไปฉายในเทศกาล East Winds Film Festival ณ เมืองโคเวนทรี ประเทศอังกฤษด้วย

ภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติชุด คีตราชนิพนธ์ บทเพลงในดวงใจราษฎร์ ประกอบด้วยภาพยนตร์ ๔เรื่อง สร้างจากแรงบันดาลใจจากบทเพลงพระราชนิพนธ์ ๔ เพลง ได้แก่ เรื่อง “The Singers” กำกับโดย นนทรีย์ นิมิบุตร ได้แรงบันดาลใจจากบทเพลงพระราชนิพนธ์ “ชะตาชีวิต” ขับร้องโดย นีรนุช ปัทมสูต และ ธนิดา ธรรมวิมล (ดา เอ็นโดรฟิน), เรื่อง “อมยิ้ม” กำกับโดย วัลลภ ประสพผล ได้แรงบันดาลใจจากบทเพลงพระราชนิพนธ์ “ยิ้มสู้” ขับร้องโดย ปราการ ไรวา จากวงดนตรีเก็ตสึโนวา, เรื่อง “ฝนตกที่ห้วยขาแข้ง” กำกับโดย ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ ได้แรงบันดาลใจจากบทเพลงพระราชนิพนธ์ “สายฝน” ขับร้องโดย อัญชลี จงคดีกิจ และเรื่อง “ดาว” กำกับโดย ยงยุทธ ทองกองทุน ได้แรงบันดาลใจจากบทเพลงพระราชนิพนธ์ “ความฝันอันสูงสุด” ขับร้องโดย สหรัถ สังคปรีชา และ ด.ญ.กรณิศ เล้าสุบินประเสริฐ

ร่วมชมภาพยนตร์ “คีตราชนิพนธ์ บทเพลงในดวงใจราษฎร์” ที่กลับมาสร้างความประทับใจ จัดฉายให้ได้ชมฟรีอีกครั้ง ระหว่างวันที่ ๒ – ๗ ธันวาคมนี้ ที่โรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ทั่วประเทศ รวม ๓๐๐,๐๐๐ ที่นั่ง โดยติดต่อรับบัตรได้ ๑ ชั่วโมงก่อนรอบฉายแต่ละรอบ ๑ ท่านรับบัตรได้ ๒ ที่นั่ง ท่านที่มาถึงก่อนได้รับบัตรก่อน (แจกจากแถวบนลงล่าง) ที่นั่งในแต่ละสาขามีจำนวนจำกัด สามารถติดตามรอบการฉายเพิ่มเติมได้ที่ www.คีตราชนิพนธ์.com ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป