“สไปร์ซซี่ ดิสก์” ทุ่มงบปรับลุคศิลปินยกค่าย พร้อมส่งน้องใหม่ แจ้งเกิดฉลอง 11 ปี !!! >>

ครบรอบ 11 ปีทั้งที ค่ายเพลง สไปร์ซซี่ดิสก์ (SPICYDISC) ขอจัดหนัก!! จัดเต็ม!! ปิดสตูดิโอขนศิลปินที่กำลังจะมีผลงานในปี 60 มาปรับลุคใหม่ตั้งศรีษะจรดปลายเท้า ซึ่งบอกได้คำเดียวว่า เป๊ะ และ ปังมากๆ โดยบรรยากาศการถ่ายทำในวันนั้น อบอุ่นไปด้วยพี่น้องศิลปินที่มาแสตนบายรอถ่ายภาพ ซึ่งศิลปินที่มาร่วมปรับลุคในวันนี้ ล้วนเป็นศิลปินคุณภาพที่ สไปร์ซซี่ ดิสก์ คัดสรรมาเป็นอย่างดี ทั้งหน้าใหม่หรือรุ่นสุดยอดตัวท็อปของประเทศ ที่ทยอยปล่อยผลงานกันมาตั้งแต่ต้นปี รวมไปถึงในปีนี้ ทุกคนจะได้พบกับพาเหรดอัลบั้มจากศิลปินสไปร์ซซี่ ดิสก์ ไม่ว่าจะเป็น บอย ตรัย, The Rube (เดอะ รู๊บ), Helmetheads (เฮลเมทเฮดส์), The Parkinson (เดอะ พาร์คินสัน) และ Kidnappers (คิดแน็ปเปอร์ส) อีกทั้งยังเตรียมพบกับโปรเจ็คยักษ์ที่จะเกิดขึ้น อาทิ “คอนเสิร์ตใหญ่ จากวง MILD (มายด์)” ที่น่าจะได้มาสนุกกันประมาณเดือนกันยายนนี้  และ “Spicydisc birthday (สไปร์ซซี่ดิสก์ เบิร์ธเดย์) คอนเสิร์ตฉลองครบรอบ 11 ปี ของค่ายสไปร์ซซี่ ดิสก์” ซึ่งจะมีขึ้นประมาณปลายปีนี้ บอกเลยว่าเราจัดเตรียมงานครั้งนี้กันอย่างสุดความสามารถ ให้แฟนเพลงได้ สนุก มันส์ เต็มอิ่มครบรสแบบลืมโลกกันไปเลยทีเดียว

กลับมาที่เรื่องของการปรับลุคในวันนี้ มาเริ่มต้นถ่ายโปรไฟล์เซ็ตกับ The Rube (เดอะ รู๊บ) ศิลปินรุ่นใหม่ผู้มีใจรักษ์ความเป็นไทยอย่างแรงกล้า ซึ่งหลังจากที่ปล่อยเพลง I’M SORRY (สีดา) ออกมาเซอร์ไพรส์วงการเพลงไทย เกิดเป็นกระแสคลื่นลูกใหม่ที่ประยุกต์ดนตรีสากล และไทยได้อย่างยอดเยี่ยม จนทำให้เพลงนี้ติดอันดับหนึ่งตามชาร์ตวิทยุทั่วประเทศอยู่หลายสัปดาห์ รวมไปถึงเพลงอื่นๆ ของพวกเขาไม่ว่าจะเป็น FIN (วันทอง),FOE (ไม่ใช่พระเอก) และล่าสุดกับ FAIL (ขันหมากล่ม) ก็ได้รับการสนับสนุนจากแฟนเพลงเป็นอย่างดี จนทำให้พวกเขาได้รับรางวัลจากเวทีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น MTHAI Awards, The Guitar Mag Awards 2016, Joox Awards 2017 มาเป็นเครื่องการันตีความสามารถที่ไม่ธรรมดาของพวกเขา และอีกหนึ่งความโดดเด่นอีกอย่างของ เดอะ รู๊บ นั่นคือการแต่งกายที่ผสมผสานความเป็นไทย โดยได้แรงบันดาลใจมาจากเครื่องแต่งกายของทหารในสมัยรัชกาลที่ 5 มาประยุกต์เข้ากับสูทร่วมสมัยอย่างลงตัว ยิ่งไปกว่านั้น ลุคล่าสุดของ เดอะ รู๊บ นั้นจะมีความทันสมัยมากขึ้น ทั้งสีของสูทที่เปลี่ยนจากสีดำมาเป็นสีแดง ซึ่งในเฉดสีแดงนี้มีชื่อเรียกแบบไทยๆ ว่า สีแดงชาติพยัคฆ์ บวกกับคัทติ้งต่างๆ ให้ดูมีความเป็นสากลนิยมมากขึ้น ล้ำไปอีกขั้น!

ต่อด้วยพี่ใหญ่ของค่ายกับ บอย ตรัย ภูมิรัตน ผู้ชายที่มีหลายบทบาทในคนเดียวไม่ว่าจะเป็น นักแต่งเพลง – นักร้อง – ดีเจ และคุณพ่อ (ของน้องชื่นใจ) ที่มีเพลงฮิตมากกว่าร้อยบทเพลง ซึ่งหลังจากห่างหายจากการทำอัลบั้มเต็มของตนเองไปกว่า 10 ปี ในที่สุดก็ปล่อยเพลงออกมาให้ฟังกันแล้วกับ ฮานาบิ และ เรื่องน่าเบื่อที่สวยงาม มาให้แฟนเพลงได้ฟัง รวมไปถึงในปีนี้ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดน่าจะได้ฟังอัลบั้ม “ขุนเขาแห่งหมี” จากผู้ชายคนนี้แน่นอน ในส่วนของลุค บอย ตรัย จะมีทั้งสีเข้ม และสีสดใส จึงทำให้บอย ตรัย มีทั้งพาร์ทที่ดูภูมิฐาน สุขุมในแบบผู้ใหญ่ และสดใสเพื่อให้เข้ากับภาพลักษณ์ที่อบอุ่นของเขา

คนต่อไปที่เราจะกล่าวถึงนั่นก็คือ ว่าน ธนกฤต ศิลปินที่มากด้วยความสามารถไม่ว่าจะเป็นการร้อง หรือการแสดงผู้ชายคนนี้ก็ทำได้ดีเสมอ ล่าสุด เขาได้คว้ารางวัล ศิลปินเดี่ยวยอดนิยม ในงาน สีสัน อวอร์ด ครั้งที่ 28 จากอัลบั้ม“ALONEVERA” (อะโลนเวร่า) เป็นรางวัลที่การันตีถึงความเป็นศิลปินของว่านจริงๆ และสำหรับการปรับลุคของว่านเน้นใช้เสื้อผ้าโทนขาว และสีเข้ม ซึ่งสะท้อนถึงตัวตนของว่านที่เป็นคนง่ายๆ สบายๆ และมีความคิดสร้างสรรค์ โดยในปีนี้ ว่านยังคงมีผลงานเพลงออกมาให้ฟังกันตลอด แต่จะเป็นช่วงเดือนไหนต้องฝากติดตามกันต่อไป

ต่อมากับศิลปินที่น่าจับตามมองอีกวงหนึ่ง กับ Helmetheads (เฮลเมทเฮสด์) ที่จัดจ้านทั้งดนตรี และแฟชั่น ซึ่งพวกเขามีเพลงออกมาให้ฟังกันไป 4 เพลงแล้วกับ อินสตาแกรม, อันเฟรนด์, เอมตี้รูม และ เอ็มเอสเอ็น จนกลายเป็นเจ้าแห่งโลกโซเชียลไปแล้ว และในปีนี้เตรียมรอฟังอัลบั้มเต็มของพวกเขาได้เลย ไม่ผิดหวังแน่นอน! และกลับมาที่เรื่องของลุควง อย่างที่ทราบกันอยู่แล้วว่า เฮลเมทเฮดส์ มีสไตล์ชัดเจน ดังนั้นทางทีมงานจึงดึงเอาจุดเด่นตรงนี้ของวงมาใช้ อย่างในชุดสูทจะเป็นในโทนดำที่แอบมีความวินเทจจาก จิ้ง (นักร้องนำ) ที่หยิบสูทตัวใหญ่มาใส่ทำให้ดูมีความเท่ไปอีกแบบ หรือจะเป็นลุคที่ได้รับอิทธิพลมาจากแฟชั่นวงร็อค แอนด์ โรล ด้วยแจ็คเก็ตหนังทำให้ภาพที่ออกมาดูเท่มีสไตล์เป็นอย่างมาก

ศิลปินวงต่อมาคือ Nap a Lean (แนป อะ ลีน) ที่หลังจากส่ง “ไม่คิดถึงเลย” ออกมาได้โดนใจคนมีอดีต ให้แห่แชร์กันอย่างท่วมท้น และในปีนี้ เตรียมรอฟังเพลงใหม่จากพวกเขากับ “หยุดเลย…อย่าร้อง” ที่บอกได้คำเดียวว่าเฮิร์ทโดนใจจนต้องกดแชร์รัวๆ อย่างแน่นอน โดยลุคของแนป อะ ลีน ที่ถูกปรับเปลี่ยนนั้น จะมีความสุขุมขึ้น จากเด็กหนุ่มไปสู่ชายหนุ่ม ด้วยเสื้อผ้าโทน ขาว – ดำ ดูมีความลึกลับน่าค้นหาตามดนตรีของพวกเขา

วงต่อมาที่มาร่วมเปลี่ยนลุคในครั้งนี้นั่นคือ The Parkinson (เดอะ พาร์คินสัน) ศิลปินที่มากด้วยความสามารถที่ยังคงคอนเซ็ปต์เรียบหรูในชุดสูทคัทติ้งเนียบ แต่สิ่งที่เพิ่มมาคือลุคยีนส์ เป็นชุดลำลองของวงที่สามารถใส่ขึ้นเล่นตามโชว์ต่างๆ ได้ และสำหรับใครที่รออัลบั้มเต็มของพวกเขาเตรียมตัวให้พร้อม! เพราะได้ยินมาว่าในปีนี้จะได้ฟังอัลบั้มเต็มล้นคุณภาพจากพวกเขา เดอะ พาร์คินสัน แน่นอน

และในปี 60 นี้ สไปร์ซซี่ ดิสก์ ขอเปิดตัวศิลปินน้องใหม่ 2 วง นั่นคือ Rooftop (รูฟท็อป) ดูโอ้หน้าใสที่ไม่ได้มีดีเพียงหน้าตา มาพร้อมดนตรีแนวป็อป – ร็อค ที่ฟังง่ายแต่หนักแน่น กับซิงเกิล “เครื่องช่วยหายใจ” ซึ่งน่าจะได้ฟังเพลงนี้กันประมานกลางเดือนมิถุนายนนี้ แต่ก่อนที่จะได้ฟังเพลงจากพวกเขา ทางค่ายได้นำโก้ วศิน อัศวนฤนาท และบี๊บ ศิรสัณห์ หอวิจิตร มาปรับลุคให้มีความแคชชวลมากขึ้น แต่แฝงไปด้วยความเท่ โดยใช้โทนสีหลักเป็น ขาว – ดำ – เทา เน้นให้มีลูกเล่นของเสื้อแจ็ตเก็ตเข้ามาเพิ่มให้ชุดมีเลเยอร์มากขึ้น ขับสเน่ห์และความเท่ที่มีอยู่แล้ว ให้แผ่ออร่ายิ่งขึ้นไปอีก

และอีกหนึ่งวงน้องใหม่แต่หน้าคุ้นที่จะมีผลงานในปีนี้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ Morning Soon  (มอร์นิ่ง ซูน) ที่ปรับลุคใหม่เป็นแนว Grunge (กรันจ์) คุมโทนด้วยเสื้อผ้าสีเข้มรองเท้าหุ้มข้อผสานไปกับสไตล์สปอตแวร์ ซึ่งที่มาของลุคนี้มาจากแนวเพลงของพวกเขาที่เป็น ป็อบ – ร็อค และแฟชั่นสไตล์นี้บ่งบอกถึงตัวตนของพวกเขาได้เป็นอย่างดี ส่วนเพลงใหม่ของมอร์นิ่งซูน คาดว่าจะได้ฟังกันในเดือนกรกฎาคมนี้ มาในชื่อเพลง “มีสไตล์มีสตางค์” แค่ได้ยินก็แทบจะอดใจลุ้นกันไม่ไหวแล้วเนี่ยย!

ติดตามกันต่อไปว่า สไปร์ซซี่ ดิสก์ (SPICYDISC) จะมีกิจกรรมดีดี อะไรมามอบให้กับแฟนๆ กันได้ที่ www.facebook.com/spicydisc.fanpage รวมไปถึงข่าวสารต่างของศิลปินในค่ายได้ทางแฟนเพจเช่นกัน