ทำความรู้จัก “พีค ภีมพล” มือสแนร์สุดหล่อ จากละครสะท้อนมุมมองวัยรุ่นมีฝัน“The Rhythm of Life จังหวะชีวิต…ลิขิตฝัน” >>

เรียกได้ว่าความหล่อกระแทกตา ความสามารถกระแทกใจ จนแฟนๆแอบปันใจให้ พีค-ภีมพล พาณิชย์ธำรง จากละครเรื่อง “The Rhythm of Life จังหวะชีวิต…ลิขิตฝัน” ที่กำลังออกอากาศทางไทยพีบีเอส ช่องหมายเลข3 ผลงานการผลิตของบริษัท เจ เอส แอล โกลบอล มีเดีย จำกัด ในบท แท็ป มือกลองสแนร์คนเก่งแห่งโรงเรียนชนะวิทย์ เพื่อนสนิทอคิณ ที่ได้ขึ้นมาเป็นหัวหน้าวงโยธวาทิตแทนที่อคิณหลังจากที่เขาย้ายโรงเรียนไป เมื่อความฝันต้องแลกมากับความเจ็บปวดและความพยายาม เขาจะต้องเจออุปสรรคอีกมากมาย กว่าจะพาตัวเองให้ก้าวขึ้นมาอยู่ในจุดที่จะประสบความสำเร็จ แท็ปจึงต้องพิสูจน์ให้ทุกคนรู้ว่าเขาก็มีดีไม่แพ้เพื่อน วันนี้เรามาทำความรู้จักเขากันให้มากขึ้นดีกว่า

ตอนที่ทางทีมงานติดต่อให้มาเล่นเรื่องนี้รู้สึกอย่างไรบ้าง

พีค : รู้สึกดีใจที่ได้มารับบทนี้ แท็ปเขาเป็นมือกลองสแนร์ด้วย เป็นดนตรีที่เราเคยเห็นเพื่อนในวงโยของโรงเรียนเล่น แต่เราอ่ะไม่มีโอกาสที่จะได้ไปเล่น ก็เป็นโอกาสครั้งใหญ่เหมือนกัน กดดันมากๆ แต่มันก็ทำให้เราได้พัฒนาตัวเองทางด้านการแสดงด้วย แล้วก็ฝีมือการตีกลอง การเข้าถึงบทบาทตัวละครที่มันแตกต่างจากเดิมที่ค่อนข้างยาก เพราะบทแท็ป จะเป็นเด็กที่มีปมค่อนข้างมากทั้งเรื่องของครอบครัว และเรื่องของการยอมรับ การมีตัวตนในสังคมเพื่อน เรื่องของเป้าหมายความฝัน ตัวละครนี้เลยมีความซีบซ้อนค่อนข้างมาก  ก็เลยรู้สึกว่าเป็นประสบการณ์ใหม่ดีครับ

ถึงจะมีพื้นฐานด้านดนตรี โดยเฉพาะการตีกลอง แต่ก็ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่

พีค : ผมเคยตีกลองชุดมาก่อน คือเราก็เป็นคนที่เล่นดนตรีกับเพื่อนๆ นี่แหละ แต่ว่าพอมารับบทนี้เป็นมือสแนร์ จากกลองชุด ทั้งชุดใหญ่ๆ เหลือแค่สแนร์ตัวเดียว ซึ่งคำถามของเราคือจะทำยังไงให้มันเกิดเสียงที่แตกต่างกันหรือว่าแพทเทิร์นที่มันซับซ้อนมากขึ้น เป็นโจทย์ที่ค่อนข้างยากมากๆ ในตอนแรกก็ยังไม่ชินกับการจับไม้ กับจังหวะ ที่ตอนเราตีกลองชุดเราไม่เคยเจอจังหวะแบบนี้ ปกติเราก็แค่นับจังหวะ 4 หรือ 8 แต่อันนี้จังหวะมันหลากหลายมากๆ เหมือนเปิดมุมมองการเล่นดนตรีของเราอีกสเต็ปหนึ่งเลย แล้วอีกอย่างนึงคือเราได้ไxเรียนเพื่มเติม ไปเจอกับพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ วงโยธวาทิตจริงๆ ที่เขาไปแข่งจริงๆ แล้วเขาก็มาช่วยสอนเรา มันทำให้เราได้เห็นทัศนคติของเขา ได้เห็นวิธีการแสดงออกของเขา ซึ่งเรานำสิ่งเหล่านี้แหละมาใช้ในการแสดงครับ

แท็ป ความยากที่ทำให้พีคต้องพยายามเป็นเท่าตัว

          พีค เอาจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวละครไหน เราจะพยายามที่จะหาอะไรที่มันเหมือนหรือมันต่างแล้วมารีเลทกับตัวเรา เราอาจจะเป็นตัวละครสัก 60-70% แล้วค่อยใส่ความเป็นตัวเราเข้าไป อย่างตัวแท็ปเนี่ยเขาจะมีเป้าหมาย มีความมุ่งมั่น อยากเป็นที่หนึ่ง เหมือนเขาเป็นเพอร์เฟคชั่นนิสต์ ซึ่งตัวเราก็มีสิ่งเหล่านี้ที่เป็นตัวเชื่อมกับตัวแท็ปได้เหมือนกัน

แล้วก็จะมีเรื่องของการได้รับการเลี้ยงดูมาจากแค่แม่คนเดียว ซึ่งแม่ก็ไม่ค่อยมีเวลาให้ ถ้าพูดตรงๆ คือแท็ปเป็นคนที่แทบจะไม่มีคนรอบข้างเลยด้วยซ้ำ เหมือนมันจะขัดแย้งกับตัวอคิณ บทนี้ที่ตน ต้นหน แสดง เพราะว่าอคิณอยู่โรงเรียนนี้คือเพื่อนๆ ซัพพอร์ต มีครูริน บทที่โมบายล์BNK48 แสดง คอยให้คำปรึกษาทุกๆ อย่าง แท็ปก็เลยจะเป็นเหมือนคนละขั้วกับอคิณเลย แต่เขาก็ยังอยากเป็นที่หนึ่งอยู่ มันจะมีตวามขัดแย้งกันอยู่ในเรื่องนี้แหละ ก็ต่างคนก็ต่างไม่ยอมกัน แต่จุดนี้แหละที่จะเชื่อมกับตัวเราเหมือนกันนะ เพราะว่าเราก็เป็นคนที่อยากทำทุกอย่างให้มันดีหรือว่าบางทีเราก็อยากแข่งกับตัวเองบ้าง เหมือนกับแท็ปเลย

คิดว่าอะไรคือสเน่ห์ของแท็ป ในมุมมองของพีค

พีค : ที่จริงแท็ปเป็นคนที่รักเพื่อนมากๆ เป็นรุ่นพี่ที่ใจดี รุ่นน้องจะรู้สึกว่าสบายใจในการเปิดอกคุยกับเรา อันนี้คือด้านที่แท็ปเลือกที่จะแสดงออกต่อทุกๆคน แต่สิ่งที่ทุกๆ คนไม่รู้อาจจะเป็นความอ่อนแอข้างในของแท็ป ซึ่งความอ่อนแอเหล่านี้มันก็เป็นได้ทั้งข้อดีข้อเสีย เพราะว่าแท็ปเป็นคนที่อ่อนไหวมาก ไม่ว่าน้องมีปัญหาขนาดไหนก็พร้อมที่จะช่วย พร้อมที่จะรับฟัง จนมันอาจจะกลับมาทำร้ายตัวเราเองด้วยซ้ำ นี่เป็นสิ่งที่ผมรู้สึกว่าเป็นจุดที่เด่นที่สุดของแท็ปครับ

พีค ได้อะไรบ้างจากการได้มาเล่นเรื่องนี้

พีค : ผมได้อะไรเยอะมากจากการเล่นเรื่องนี้ เราเป็นคนที่ชอบในการแสดงอยู่แล้ว ซึ่งบทบาทที่ได้รับมันก็แตกต่างกันไปเรื่อยๆ อาจจะมีซ้ำบ้าง ต่างบ้าง แต่สำหรับเรื่องนี้ในบทของแท็ปเรากลับมาเป็นนักเรียนอีกครั้งนึง แต่เป็นนักเรียนที่มีความโตกว่าเยอะ แล้วมันมีความเข้มข้นอยู่ในความรู้สึกมากๆ มันเป็นบทที่ถ้าพูดตรงๆ คือเรายังไม่เคยเล่นบทประมาณนี้นะ จริงๆ ปัญหามันดูโตกว่าบทอื่นที่เคยผ่านมาซึ่งบทมีความกดดันในตัวเองมาก จนบางทีบางฉากมันอาจจะไม่จำเป็นต้องร้องไห้ก็ได้ หรือไม่จำเป็นต้องแสดงความรู้สึกออกมาก็ได้ แต่ว่าตัวแท็ปมันปลดปล่อยออกมา จนบางทีพี่เอ้อผู้กำกับก็จะบอกว่า เอ้ย อันนี้ขอไม่ร้องนะ ไม่อย่างนั้นละครของเราจะกลายเป็นเรื่องดราม่าทั้งเรื่อง มันจะเครียดเกินไป

พูดถึงการทำงานร่วมกับนักแสดงคนอื่นบ้าง

พีค : การทำงานส่วนใหญ่ของพีคจะอยู่กับฝั่งพี่บอล วิธวัฒน์ สิงห์ลำพอง กับพี่ต่าย ชุติมา ทีปะนาถ ช่วงแรกๆ ของเรื่องจะเป็นเข้ากับบอลซะเยอะ คือทุกคนก็จะรู้จักพี่ๆ เขาตั้งแต่ Seasons Change แล้ว เฮ้ย เขาเท่มากๆ จนเราได้มาเจอ ได้มาร่วมงาน รู้สึกว่าเขาเป็นนักแสดงที่เก่ง พี่บอลคือส่งความรู้สึกมาเต็ม ทุกเทค ทุกคัท ไม่ว่าจะรับหน้าเราหรือรับหน้าเขา คือเขาเล่นเต็มจนเราทึ่ง มีความเป็นครูมากๆ ก็ทำให้เราประทับใจในจุดนั้นมากๆ แล้วพอเจอกับพี่บอลเสร็จก็ต้องมาเจอกับพี่ต่าย เรารู้สึกว่าเขาก็เป็นนักแสดงที่เก่งมาก ประทับใจในวิธีการเล่น วิธีการแสดงของเขา ลักษณะการพูด หรือว่าท่าทางที่บางทีมันไม่ต้องใหญ่มาก มันไม่ต้องเยอะ คือน้อยแต่มาก และเก็บรายละเอียดสุดๆ เรียกว่าเป็นนักแสดงคุณภาพเลยครับ

อีกคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ ตน ต้นหน ซึ่งเป็นการทำงานด้วยกันครั้งแรกแต่ก็คือจูนกันง่ายมาก ด้วยความที่เราชอบในดนตรีเหมือนกัน เลยพูดคุยภาษาเดียวกัน การทำงานเลยง่ายขึ้นมากในการรับส่งอารมณ์การแสดงกัน ซึ่งตน เก่งมากทำให้เราเชื่อว่าเขาคืออคิณจริงๆ นอกจากนี้ก็ยังมีเพื่อนๆอีกหลายคนในเรื่องที่ถึงแม้จะไม่ค่อยได้เข้าฉากด้วยกันเท่าไหร่นักแต่เวลามาเจอกันก็ทำให้บรรยากาศการทำงานสนุกสนานมากครับ

มาถึงเรื่องราวความฝันของพีคบ้าง

พีค : ความฝันของพีค ณ ตอนนี้ที่เราในฐานะเป็นนักแสดง เราก็มีความฝันที่อยากจะเป็นนักแสดงที่เก่งขึ้น ที่มีคุณภาพมากๆ ทำให้บทบาทที่เราได้รับ ไม่ว่าจะเป็น ละคร หนัง ซีรีส์ ที่เราเล่นเนี่ยมันส่งผลไปถึงจิตใจคนดูได้ หรือว่ามันสามารถเข้าไปเปลี่ยนความคิดคน เข้าไปอยู่ในส่วนนึงของความทรงจำของใครหลายๆ คน เพราะว่าพวกหนังพวกละครเนี่ย มันก็เป็นส่วนนึงในเราเหมือนกัน ตอนเด็กๆ เราเคยดูอะไรเราจำสิ่งนั้นมาถูกมั้ย เวลาเรานึกถึงเราก็ยังจำได้ว่า เอ้ย ตอนที่เราอายุเท่านั้นเราดูเรื่องนี้หนิ เราแค่อยากส่งต่อความรู้สึกนี้ไปถึงคนดู เออแล้วก็การที่ได้แสดงมันเป็นอะไรที่มีพลังมากๆ เลยครับ ผมเองก็ชอบตรงนี้มากๆ

แล้วถ้าความฝันเต็มไปด้วยอุปสรรคพีคจะรับมืออย่างไร

พีค : เรารู้สึกว่าเป้าหมายมันเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ถ้าเรามีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว เราเห็นภาพนั้นจริงๆ ไม่ว่าเราจะเหนื่อย จะหยุดพัก แต่สุดท้ายถ้าเป้าหมายมันยังอยู่ ยังไงเราก็ได้เดินต่อไปแน่นอน ถึงไม่ถึงไม่รู้แต่ว่าเราได้ลงมือทำ อย่างน้อยระหว่างทางเราแวะเจออะไร มันอาจจะเปิดเส้นทางใหม่ให้เราไปเจอสิ่งใหม่ๆ ก็ได้ แต่ว่าครั้งนึงอ่ะ มันเคยเป็นเป้าหมายของเราอ่ะ อย่างน้อยมันทำให้เราเป็นเราอยู่ทุกวันนี้ มันส่งผลต่อการกระทำของเรา ก็เลยคิดว่าเป้าหมายเป็นสิ่งสำคัญครับ อุปสรรคมันเรื่องรองไง

สุดท้ายแล้วฝากผลงานหน่อย

พีค : ทุกๆ คนจะได้ความบันเทิงจากเรื่องนี้แน่นอน มีครบรส ครบอารมณ์ สุข เศร้า เหงา ตลก เป็นกำลังใจ ได้ลุ้นตามตัวละครทุกตัวแน่นอนครับ เพราะว่าทุกๆ ตัวในเรื่องมีบทบาทสำคัญหมด เกี่ยวข้องกันหมด ซึ่งตอนนี้กำลังเข้มข้นมาก ใกล้จะถึงโค้งสุดท้ายกันแล้ว แล้วก็อีกสิ่งนึงที่อยากจะฝากคือเรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่เล่าถึงตำแหน่งหรือว่าบทบาทที่มีในโรงเรียนครับ มันจะพูดถึงความเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องในโรงเรียนหรือว่าตำแหน่งในวงโยฯ การซ่อมซึ่งทุกๆ อย่างมันเป็นสิ่งที่มันเกิดขึ้นจริงๆ ในประเทศของเรา อยากให้ทุกๆคนเห็นภาพมัน แล้วก็เข้าใจในเจตนาหรือว่าทุกๆ อย่างในวงโยฯเป็นอย่างไร ทุกๆ คนมีแพชชั่นในการเล่นดนตรีแหละ แต่ว่ามุมมองของเรามันต่างกันแค่นั้นเอง อยากให้ทุกๆ คนเปลี่ยนมุมมองแล้วก็เข้าใจในการเล่นดนตรีครับ

ติดตามชม ได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไทยพีบีเอส ช่องหมายเลข 3     เริ่มตอนแรกวันที่ 14 พฤษภาคม นี้ สามารถรับชมย้อนหลังได้ทาง vipa และติดตามความเคลื่อนไหว เบื้องหลังกองถ่ายสนุกๆได้ที่แฟนเพจ ละครไทยพีบีเอส www.thaipbs.or.th/therhytmoflife

ที่มา:  ฝ่ายประชาสัมพันธ์
บันทึกภาพ:  ฝ่ายประชาสัมพันธ์
นำเสนอโดย www.starupdate.com หากนำข่าวไปใช้กรุณาอ้างอิงถึง www.starupdate.com ด้วย
ข่าวนี้อยู่ในหมวด TV and Drama Update และ Tag: , ติดตาม comment ของข่าวนี้ผ่านทาง RSS feed
Trackbacks are closed, but you can post a comment.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“ทรูวิชั่นส์” ชวนสะกิดหัวใจวัยรุ่นคลั่งรักกันอีกครั้งใน “วอน (เธอ)” >>

M39 และ แมด อะไรดี ห่วงใยทุกชีวิต ให้ความร่วมมือรัฐ ยกเลิกกิจกรรมรอบกาล่าภาพยนตร์เรื่อง ”วอน (เธอ)” >>

#KISSBOYSTH โปรเจคใหม่จากการรวมตัวกันของหลากค่ายหลายสังกัด “5 หนุ่มหล่อ 5 คาแรคเตอร์ 5 ฤดูกาล” กับคอนเซปต์ “คิ เซะ ซึ” >>

5 หนุ่ม #KissBoysTH เปิดบ้านทดลองใช้ชีวิตร่วมกันผ่านรายการแบบเรียลลิตี้ ทำเอาไทม์ไลน์สั่นสะเทือน ติดอันดับ 4 เทรนด์ทวีตเตอร์เป็นที่เรียบร้อย >>

KISSBOYSTH โปรเจคใหม่จากการรวมตัวกันของหลากค่ายหลายสังกัด “5 หนุ่มหล่อ 5 คาแรคเตอร์ 5 ฤดูกาล” กับคอนเซปต์ “คิ เซะ ซึ” >>