Mild Profile Master Peace Album

จุดเริ่มต้น…  ของกลุ่มนักดนตรีเมืองเหนือ ที่ชื่นชอบแนวเพลงป็อบเป็นชีวิตจิตใจ… พวกเขาได้รวมตัวกันโดยความบังเอิญ ณ สถานที่แห่งความทรงจำของทุกคน นำโดย   “เป้ – บดินทร์ เจริญราษฎร์ (ร้องนำ), เต่า – เจน มโนภินิเวศ (กีตาร์),ขุน – พิทวัส ขุนทอง (เบส), ทอม – ณธีพัฒน์ ประเสริฐมนูกิจ (คีย์บอร์ด), เป้ – ไพสิฐ คำกลิ่น  (แซ็กโซโฟน) และไมค์ – ธงไชย ทิมพูล (กลอง)” 

ย้อนกลับไปยัง ถนนคนเดิน  จ.เชียงใหม่ ถนนนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของประสบการณ์ ดนตรี มิตรภาพ และความสำเร็จบนเส้นทางดนตรีของวงดนตรีป็อบ สุดฮิต อย่าง MILD”(มายด์)  จนมาถึงทุกวันนี้ พวกเขาต่างคน ต่างมีเส้นทางเป็นของตัวเอง… โดย เริ่มต้นจากการรวมตัวของสมาชิกเพียง 4 คน เป้ (ร้องนำ), เต่า (กีตาร์), เป้ (แซ๊ก) และขุน (เบส)  ซึ่งทุกคนต่างออกมาค้นหาประสบการณ์ของตัวเอง ในสถานที่เดียวกัน ด้วยการเล่นดนตรีเปิดหมวก ถนนคนเดิน เมืองเชียงใหม่ จนกลายเป็นถนนของคนเพลงกลุ่มนี้ขึ้น

จากวันแรกที่พวกเขาทั้ง 4 คนรวมตัวกัน ก็เป็นวันที่วง “MILD”  ได้เกิดขึ้นอย่างเป็นทางการ อีกด้วยประสบการณ์ที่มากขึ้น มายด์ก็ถูกเติมเต็มโดยสมาชิกอีกสองคน นั้นก็คือ ไมค์ (กลอง) และ ทอม (คีย์บอร์ด)  การเดินทางของพวกเขา ก็เดินหน้าด้วยพลังความตั้งใจ ความมุ่งมั่น ตามหาฝัน ตามประสาเด็กหนุ่ม ที่เดินตามความฝันของตนเอง แต่แล้วก็มีอุปสรรคมากมาย ที่ผ่านเข้ามาไม่ว่าจะเป็น ปัญหาทางบ้าน ปัญหาการเรียน บางคนก็ต้องย้ายถิ่นฐานมาเรียน กรุงเทพฯ จนมาถึงจุดที่ว่า “พวกเราจะพักกันหรือไม่? เราจะทำอย่างไรกันต่อดี ?แต่พวกเขาก็ไม่ย่อท้อ เดินหน้าทำเพลงกันต่อ ทำให้พวกเขาใช้เวลาเพียงไม่นาน MILD ก็มีชื่อเสียงใน จ. เชียงใหม่ จากการเล่นดนตรีกลางคืน ประกอบกับพวกเขาได้เดินสายประกวดตามเวทีต่างๆ และทำเพลงปล่อยลง Social Media จนประสบความสำเร็จ และได้เป็นศิลปินกลุ่มยอดนิยม ขวัญใจวัยรุ่นทั่ว จ.เชียงใหม่  จากนั้นพวกเขาก็ได้ก้าวเข้ามากรุงเทพฯ จนมีโอกาสได้ผลิตผลงานออกอัลบั้มเต็ม มาแล้วถึง 2 ชุด โดยมีเพลงโด่งดังสร้างชื่อมากมาย อาทิ “อีกนานไหม, Unlovable, เข้าใจแต่ทำไม่ได้, รักล้นใจ, รักเราไม่เท่ากัน”

  หลังจากผ่านไป 2 อัลบั้ม… มายด์กลับมาพร้อมอัลบั้มที่ 3

ในบ้านหลังใหม่ “สไปร์ซซี่ ดิสก์”(Spicy Disc)  

Master Peace… ผลงานที่แสดงถึงความสำเร็จของวง มายด์ ตลอดระยะเวลาที่อยู่บนถนนของเสียงเพลงมานานกว่า 10 ปี อัลบั้มนี้ยังถือว่าเป็น ผลงานชิ้นโบว์แดง ที่ทำออกมาให้กับแฟนเพลงด้วยความตั้งใจ จึงเป็นที่มาของชื่อ Master Peace” โดยใช้คำว่า “Peace” ที่แปลว่า “สันติภาพ” และที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ ในทุกๆ คอนเสิร์ต “เป้”(ร้องนำ) จะทำสัญลักษณ์ ชูสองนิ้ว บนเวทีเพื่อแสดงถึง สันติภาพ ที่วงมายด์ ต้องการมอบให้กับทุกคน เพื่อหวังจะให้เกิดความสงบสุขในโลกของเราด้วย

อัลบั้มนี้ถือว่าเป็นผลงานชุดที่ 3 ของพวกเขา ครั้งนี้วง มายด์ ได้ย้ายมาอยู่บ้านใหม่ สไปร์ซซี่ ดิสก์…  และได้พกพาประสบการณ์ทางดนตรีที่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพ มาโชว์ให้แฟนเพลงของวงมายด์ ได้ลิ้มลองกับประสบการณ์ทางดนตรีแนวใหม่ พวกเขาได้เนรมิตรขึ้นมา เพื่อเอาใจแฟนเพลงที่รอคอยการกลับมาของ MILD  ไม่เพียงแต่แนวเพลงที่ดูแปลกใหม่ และโตเป็นผู้ใหญ่เพียงอย่างเดียว ครั้งนี้ วงมายด์ยังลุกขึ้นมาแปลงโฉมสไตล์การแต่งตัว ให้ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น  และครั้งนี้พวกเขายังเพิ่มความเรียบหรู น่าค้นหา เข้าไปด้วย เพื่อสร้างเอกลักษณ์ให้ต่างจากอัลบั้มก่อนๆ ที่ผ่านมา

และพวกเขาก็ยังได้กวาดรางวัลจากเวทีต่างๆ ในปี 2013 มาได้ถึง 3 รางวัล ได้แก่

–            รางวัลศิลปินคู่ หรือกลุ่มยอดนิยมประจำปี จาก You2Play Awards 2013

–            รางวัลศิลปินคู่ หรือกลุ่มยอดเยี่ยมสุดซี๊ดประจำปี จาก Seed Awards 2012

–            รางวัล Favorite Group Artist : ศิลปินสามัคคีชุมนุม จาก Bang Awards 2013

 แนวเพลง…  ครั้งนี้วงมายด์ ได้เปรียบผลงานชิ้นล่าสุดของพวกเขาเสมือนความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ ที่แสดงถึงความตั้งใจของทุกคนแต่กลับมีสองด้าน ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะว่า การกลับมาในครั้งนี้ พวกเขาได้พกภาพใหม่ ซึ่งเป็นอีกด้านหนึ่งของวงมายด์ ที่ทุกคนไม่เคยเห็นมาก่อน ทั้งความเป็นผู้ใหญ่  และแนวเพลงที่สั่งสมมานานกว่า 10 ปี  เพลงแต่ละเพลงในอัลบั้มนี้ จะมีหน้าที่ของมันเอง  รวมทั้งชั้นเชิงทางภาษา บวกกับเนื้อหาที่โตขึ้น และเข้มข้นไปด้วยประสบการณ์ดนตรีที่เรียบง่าย แต่กลับชัดเจนในเนื้อหา และพวกเขาได้บัญญัติแนวเพลงของพวกเขาว่าเป็น “Variety Pop” ที่ผสมความเป็น Pop R&B และ Hiphop เข้าด้วยกันอย่างลงตัว เพลงแนวใหม่นี้ เป็นแนวเพลงที่บ่งบอกถึงความเป็นวงมายด์ได้อย่างลงตัวจริงๆ     

10 เพลง ที่บ่งบอกถึงตัวตน และประสบการณ์ที่อัดแน่น มานานกว่า 10 ปี

 1. ดาว

หนึ่งในเพลงเร็วของอัลบั้มนี้ ดาวเป็นเพลงที่ “เป้” นักร้องนำของวงแต่งขึ้นระหว่างการเดินจงกลม         ด้วยความสงบที่เกิดขึ้นในใจ ทำให้เขาคิดเนื้อเพลงดาวออกมาอย่างไม่ทันตั้งตัว เพลงนี้ยังเป็นเพลงจังหวะ Pop Rock น่ารักๆ  เปรียบกับอาวุธของชายหนุ่ม ที่ใช้จีบสาว เวลาอยู่ห่างกัน เป็นเพลงที่เหมือนแค่ฝัน ทำได้มากที่สุดก็ได้แค่มอง

 2. LoveSick

ครั้งนี้พวกเขาต้องการฉีกเพลงเศร้ากินใจ จากซิงเกิลที่ผ่านมา ด้วยการเปลี่ยนความหมายของคำว่า “LoveSick”  ให้แตกต่างไปจากเดิม โดยใช้ภาษาที่เรียบง่าย แต่ดูดีด้วยเนื้อหา และท่วงทำนอง บวกกับจังหวะของเครื่องดนตรีที่เรียกว่าจัดเต็ม!!! พร้อมพาแฟนเพลงขยับแข้ง ขยับขาตาม สไตล์ของวงดนตรีป็อบอย่าง “MILD”(มายด์)  และคุณจะได้รู้ว่า “LoveSick”  ในความหมายของพวกเขาจะออกมารูปแบบไหน…

 3. กรรมตามสนอง

เพลงนี้เป็นเพลงที่ให้อารมณ์ “ดนตรีผิวสี” เพลงมีความเป็นกลางคืนมากกว่าเพลงอื่น ถือว่าเป็นเพลงช้าแนวใหม่ของวงมายด์ และเนื้อหาของเพลงก็จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้ชายคนหนึ่ง ที่รู้สึกผิดต่อหญิงผู้เป็นที่รัก ซึ่งตอนที่เธอมีชีวิตอยู่ เขาไม่เคยที่จะดูแลเธอเลย จนวันนี้ เธอได้จากเขาไปอย่างไม่มีวันกลับ  ดั่งเนื้อเพลงที่ว่า “ไม่มีใครแล้ว อ้อนวอนแค่ไหน ไม่ว่าจะทำอย่างไร เธอคงไม่มีวันย้อนคืน จบลงตรงนี้  สิ้นแรงขัดขืน อยากจะย้อนเวลาจากตรงนี้ กลับไปทำให้ดี ให้รักของเราฟื้นคืน” เพลงนี้นับว่าเป็นอีกก้าวหนึ่งของวงมายด์ ที่เพิ่มความเรียบหรูของดนตรี แต่ยังคงความเป็นวงมายด์ ที่ทำให้ทุกคนฟังได้ไม่ยาก

4. จัดไปอย่าให้เสีย

เพลงที่มีกลิ่นอายความเป็นกลางคืนอีกเพลง ที่โดนเด่นด้วยเครื่องดนตรีที่โรแมนติก อย่างแซ็กโซโฟน      วงมายด์ยังคงความเรียบหรู ปนอาการประชดประชันในแบบฉบับของผู้ชาย ตามคอนเซฟต์ของอัลบั้มนี้ และที่สำคัญเพลงนี้ยังมาจากประสบการณ์จริงของสมาชิกในวง จนทำให้มายด์ถ่ายทอดอารมณ์ของเพลงนี้ ออกมาได้โดนใจอย่างไม่น่าเชื่อ เนื้อเพลงยังได้พูดถึง ผู้ชายที่ยอมมากเกินไป และลืมความเป็นตัวเอง  จนเกิดเป็นรอยร้าวในใจลึกๆ  “จะทำแม้ฉันจะต้องช้ำ ถ้าทำให้เธอสุขหัวใจ… ถ้าทำแล้วเธอซะใจ ฉันขอให้เธอจัดไปอย่าให้เสีย”

5. I DO MEET YOU

         อีกหนึ่งเพลงพิเศษให้อัลบั้มนี้ เพราะได้รุ่นพี่ อย่าง “สควีซ แอนนิมอล” ศิลปินในบ้าน “สไปร์ซซี่ ดิสก์”(Spicy Disc) มาร่วมแจม และก็ยังเป็นเพลงแรกในชีวิตของ “เต่า” (มือกีตาร์) ได้แต่งร่วมกับ “เป้” (ร้องนำ) เนื้อหาจะพูดถึงอาการโหยหาความคิดถึงเก่าๆ ที่เคยมอบให้กับคนรักในอตีด รับรองว่าเสียงนุ่มลึกของ “วิน” (Sqweez Animal) และ “เป้” (นักร้องนำวง MILD) บวกกับจังหวะดนตรีที่จัดเต็ม บีบอารมณ์ด้วยเสียงแซกโซโฟน และไลน์กีตาร์ของสอง สุดยอดมือกีตาร์ จาก “สิงห์” (Sqweez Animal) และ “เต่า” (มือกีตาร์วง MILD) รับรองว่าเพลงนี้ต้องโดนใจแฟนเพลงของทั้งสองวงนี้อย่างแน่นอน

6. แล้วเธอจะรู้สึก

แล้วเธอจะรู้สึก… เพลงเศร้าเรียบหรูด้วยดนตรี แต่แฝงความเจ็บใจของผู้ชาย ด้วยประโยคที่ว่า “ขอสักทีเถอะ ให้เธอได้เจ็บ กับคำว่าเสียใจ” เพลงนี้เรียกได้ว่า เป็นเพลงที่ขายความเป็นตัวตนของวงมายด์  ซึ่งเนื้อหาของเพลง ยังถูกออกแบบให้เป็น Variety มากขึ้น พร้อมใส่จังหวะดนตรี R&B ลงไปทำให้เพลงดูเท่ห์ และยังบ่งบอกถึงสไตล์การทำเพลงของวงมายด์อย่างชัดเจน

7. เหนื่อยเกินไปหรือเปล่า

หนึ่งเพลงเศร้าจากประสบการณ์ของคนใกล้ตัว ที่มีความพิเศษในเรื่องเนื้อหา และอารมณ์ของคนที่รักแอบรักแฟนชาวบ้าน เพลงนี้ถูกปรุงแต่งด้วยจังหวะดนตรี POP ROCK มุมใหม่ที่วงมายด์ไม่เคยเขียนมาก่อน และความพิเศษอีกอย่างหนึ่ง ที่วงมายด์ตั้งใจมอบให้กับแฟนเพลงก็คือ การนำแซกโซโฟนมาเป็นพระเอกในเพลงนี้ ทำให้เพลงนี้เป็นเพลงกลางคืน ที่เศร้าจับใจไม่แพ้เพลงอื่นๆในอัลบั้มนี้แน่นอน

 8. หยุดเสียที

“ขอโทษ” เหมือนจะเป็นคำแก้ตัวสำหรับผู้หญิงหลายๆ คน เพลงนี้วงมายด์เลยหยิบคำว่าขอโทษ ของผู้หญิงมาเขียนเป็นเพลง “หยุดเสียที” ด้วยอารมณ์ของเพลงที่เรียบง่าย ที่เต็มไปด้วยความรู้สึกของผู้ชาย…          วงมายด์เลยได้เน้นหนักไปที่เครื่องสาย เพื่อกระแทกความเศร้า และเร้าอารมณ์ของเพลงให้รู้สึกถึงเนื้อเพลงที่ลึกซึ้งเกินจะคาดเดา และเพลงนี้ก็ถือเป็นแนวเพลงใหม่ ที่มายด์เพิ่งได้ลองทำอีกด้วย

9. Keep It 100

          KEEP IT 100 เพลงที่เป็นพัฒนาการของเพลงรักอกหัก ฟังเพราะ ฉีกแนวให้ออกมาเป็น มิติใหม่ที่พวกเขาไม่เคยทำที่ไหนมาก่อนในจังหวะสุดมันส์ เพราะพวกเขาตั้งใจ ส่งเป็นของขวัญมอบให้แฟนเพลงได้ฟังกันช่วงเดือนแห่งความสุขความสนุก ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ด้วยเนื้อหาของเพลงที่วาง concept อยากให้สนุกสุดเหวี่ยงในช่วงส่งท้ายปี ทำทุกอย่างให้เต็มที่อย่าง ที่อยากจะทำ “จัดเต็ม100” แต่ต้องตั้งมั่นอยู่บนความพอดีและถูกต้อง โดยความพิเศษของเพลงนี้ยังได้วง Hip-Hopรุ่นพี่อย่าง THAITANIUM มาเป็นแขกรับเชิญ ยิ่งทำให้ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า…. เพลงนี้จะเป็นเพลงส่งท้ายปีที่ต้องเปิดส่งท้ายปีนี้ของ “คุณ” อย่างแน่นอน

10. FOREVER

เพลงนี้ถือว่าเป็นเพลงสุดท้ายของอัลบั้ม โดยเพิ่มความพิเศษ ด้วยการวาดลวดลายทั้งแต่งเพลง และร้องเองจากฝีมือ ของ  “เต่า – เจน มโนภินิเวศ” ซึ่งถือเป็นเพลงแรก เพลงเดียวในอัลบั้ม!!! เพลงนี้เป็นเพลงรักจังหวะสบายๆ แต่งมาเพื่อขอบคุณทุกคนที่คอยให้กำลังใจวง มายด์ มาโดยตลอดเกือบ 10 ปี เปรียบเป็นตัวแทนของพวกเรา ที่จะส่งต่อความรู้สึกดีๆ ให้กับแฟนเพลงที่รัก และคอยให้กำลังใจพวกเรา วงมายด์ก็พร้อมที่จะมอบความรัก กลับคืนให้กับแฟนเพลงโดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทนเช่นกัน

ที่มา:  สไปร์ซซี่ ดิสก์ (Spicy Disc)
บันทึกภาพ:  สไปร์ซซี่ ดิสก์ (Spicy Disc)
นำเสนอโดย www.starupdate.com หากนำข่าวไปใช้กรุณาอ้างอิงถึง www.starupdate.com ด้วย
ข่าวนี้อยู่ในหมวด Music and Concert Update และ Tag: , , , , , , , , ติดตาม comment ของข่าวนี้ผ่านทาง RSS feed
Trackbacks are closed, but you can post a comment.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“แนป อะ ลีน – พี.เอ็น.วี – ซี” ปล่อยของทำเพลงประกอบซี่รีย์ “Y Destiny หรือเป็นที่พรหมลิขิต” ที่จะทำให้ทุกคนได้ฟิน !!

สะกิดต่อมความเจ็บ!! “อีกนานไหม” ซิงเกิ้ลใหม่ “หนุ่ม กะลา” 3 ก.ย. นี้ >>

“MILD LIVING ROOM MADE TO ORDER” สนุกครบรสคอนเสิร์ตสุดเอ็กคูลซีฟในสไตล์ นิวนอมอล >>

คอนเสิร์ตออนไลน์สุดเอ็กคูลซีฟ วงมายด์ เปิดบ้านรับเแขก ไลฟ์กับบทเพลงที่คุณเลือกได้ >>

“ว่าน ธนกฤต” เล่าความสัมพันธ์ผ่านเพลง “ยิ่งใกล้ยิ่งไม่รู้จัก” ดึง “ต้น – เตย” ถ่ายทอดความดราม่า >>